Tuesday, August 29

สุดสัปดาห์ที่บ้านจอห์น

เฮ้อ ขอถอนหายใจดังๆก่อนเขียน อ้อมกับคริสขับรถเกือบสิบชม. ระยะทาง 500 กว่าไมล์ไปถึงบ้านจอห์นที่อิลลินอยส์เย็นวันศุกร์ค้างสองคืนแล้วขับกลับวันอาทิตย์ ถามว่าขับไปไกลขนาดนี้คุ้มมั้ยทริปนี้ ขอบอกว่าคุ้มมากๆ อ้อมไม่ได้รู้สึกผ่อนคลายเหมือนตอนที่อยู่บ้านจอห์นมานานแล้ว

กว่าอ้อมกับคริสจะไปถึงเมือง Sterling เมืองเล็กๆกลางทุ่งข้าวโพดและถั่วลิสงก็ประมาณเกือบหกโมงเย็น ตอนแรกจอห์นเขียนทางเข้าบ้านมาให้ อ่านแล้วสับสนมากคือพ่อคุณไม่บอกชื่อถนนแต่บอกแค่ให้เลี้ยวที่นั่นที่นี่ พอใกล้ๆถึงเมืองอ้อมกับคริสก็โทรไปหา จอห์นก็เลยบอกว่างั้นขับเข้าเมืองมาเจอกันที่บาร์ๆหนึ่งเลยละกัน อ้อมกับคริสก็ขำ เออ สมเป็นจอห์น บาร์เทนเดอร์เก่าจริงๆ ตอนอยู่ฮาวายก็มอมเหล้าเพื่อนไปไม่รู้กี่รอบ ตอนนี้ก็ยังชอบดื่มเหมือนเดิม ก็เลยไปเจอกันที่บาร์ จอห์นมากับริกะและคุณพ่อ(วัยสะรุ่น)ของริกะ ดื่มเบียร์กันคนละสองแก้วแล้วก็ขับกันไปที่บ้านจอห์น แวะซื้อเครื่องดื่มก่อนอีกนิดหน่อย ตอนนั้นคริสอยากดื่ม gin & 7Up ริกะกับพ่อก็ดื่ม gin ด้วย ก็เลยแวะซื้อของเพิ่มเข้าบ้าน ทางเข้าบ้านก็น่างงจริงๆ พอไปถึงที่บ้านก็เจอพ่อจอห์น เป็นครูเก่า ตอนนี้เพิ่งเกษียณ พ่อจอห์นน่ารักมาก เป็นคนง่ายๆสบายๆมากถึงมากที่สุดสังเกตได้จากตัวบ้านที่อยู่ระหว่างการปรับปรุง คือซ่อมแซมค้างๆคาๆมาสามสี่ปีแล้ว แต่ตัวโครงบ้านสวยและโปร่งมาก ห้องครัวกับห้องนั่งเล่นติดกันเป็นห้องโถงใหญ่ มีโต๊ะพูลอยู่ติดหน้าต่าง คริสก็สบายเลย เล่นพูลไปตลอดเย็น หลานจอห์นชื่ออเล็กซ์ก็มาค้างคืนที่บ้านด้วย เล่นพูลกับคริสจนถึงดึก ส่วนอ้อมก็นั่งคุยกับจอห์นและพ่อจอห์นที่ระเบียงจนเข้านอน

วันรุ่งขึ้นก็ตื่นกันมาแบบมึนๆ พอดีฝนดันตกหนักตอนเช้าก็เลยไม่ได้ทำอะไรมาก ทานข้าวเช้ากันเสร็จก็เปิดวิดีโอหนังคาวบอยเก่าของชาร์ลี บรอนสันดู อ้อมชิงหลับก่อนเลย สรุปทุกคนนอนกันคนละงีบ ตื่นมาก็ขับรถจะไปงานแฟร์เมืองใกล้ๆ แต่เนื่องจากฝนตก งานก็เลยเลิกไปซะแล้ว ก็เลยไปทานอาหารเม็กซิกันที่ร้านอาหารกันแทน เสร็จแล้วริกะก็บอกว่าอยากไปช็อปปิ้ง ให้จอห์นพาไปเดินมอลล์หน่อย ปล่อยไว้ซักสองชม.ก็ได้ จอห์นก็บอกได้เลย ขับไปที่มอลล์ในเมืองกัน พอไปถึงริกะบอกเอาแค่สิบนาทีก็พอ มอลล์เล็กมากๆ อ้อมว่ามอลล์ใกล้บ้านที่โอไฮโอนี่แย่แล้ว ที่นี่ชนะขาด ชวนหดหู่มากๆ แต่พวกเราก็บ้า เดินดูของไป ปล่อยโจ๊กบ้าๆบอๆขำกันไปได้ตั้งสองชม. เสร็จแล้วก็แวะทานไอติมกันก่อนกลับบ้าน คืนนี้โนแอลกอฮอล์แล้วล่ะ ยกเว้นคุณจอห์นที่ยังดื่มเบียร์แทนน้ำเหมือนเดิม จอห์นกับคริสก็เล่นพูลอีก ส่วนอ้อมไปเล่นโดมิโนกับพ่อจอห์น ริกะ และพ่อริกะด้วย สนุกดี วันรุ่งขึ้นอ้อมกับคริสก็ออกเดินทางกลับบ้านกันตอนบ่ายหลังจากทานมื้อสายแล้ว ขากลับนี้วิ่งอีกทางเลยใช้เวลาน้อยลง แต่ก็ถึงบ้านเกือบห้าทุ่มแน่ะ


รูปบรรยากาศที่บ้าน มีระเบียงยื่นออกไป เหนือสนามหญ้าและลำธารหลังบ้าน

ฮาร์เลย์สองคันและรถกระบะที่จอห์นซื้อเอาไว้ขับที่นี่ งานนี้คริสอดทดลองขี่ฮาร์เลย์เพราะฝนตก


ทำไมอ้อมถึงได้รู้สึกผ่อนคลายมากๆที่บ้านจอห์นทั้งๆที่จริงๆบ้านก็ไม่ได้สบายเท่าไหร่เพราะยังทำไม่เสร็จ ห้องน้ำห้องท่าก็ไม่ค่อยจะสะดวกมากนัก พ่อจอห์นก็เพิ่งเคยเจอเป็นครั้งแรก มาคิดๆดูแล้วคงเป็นเพราะว่าตอนที่อยู่ที่นั่น ค่อนข้างตัดขาดกับโลกภายนอก อินเตอร์เน็ตก็ไม่ได้ใช้ ทีวีก็ไม่ได้ดู ไม่ต้องได้ยินข่าวฆาตกรรม ไม่ต้องดูเบสบอลหรืออเมริกันฟุตบอล(อันนี้ชอบมาก)รู้สึกว่ามันเงียบแต่ก็ไม่เหงา พ่อจอห์นก็สุดแสนจะสบายๆ ไม่มีตารางเวลาอะไรทั้งนั้น จริงๆไม่อยากบ่นเลย แต่ถ้าเทียบที่นั่นกับที่บ้านคริสตอนนี้ต่างกันราวฟ้ากับเหว เมื่อวานตื่นขึ้นมาก็ได้ยินเสียงพ่อคริสสั่งนู่นสั่งนี่ แมรี่แอนเปิดทีวีตามดูข่าวฆาตกรรมหนูน้อย Jonbenet สลับกับดูเบสบอลพร้อมกับบ่นไปวิจารณ์ไป ฟังแล้วเครียดจี๊ดขึ้นมา จริงๆมันก็ชินไปแล้วแต่พอได้ไปอยู่ห่างซักแป๊บนึงนี้มันทำให้ตระหนักว่า เออ ที่ผ่านมานี่เราก็เครียดโดยไม่รู้ตัวแฮะ ต่อจากนี้ไปคงต้องปรับตัวใหม่ หาเวลาเงียบๆสำหรับผ่อนคลายตัวเองให้มากกว่าเดิม

ปอลอ: โค้ดเพลงในโพสต์ที่แล้วมันจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆของมันเอง เมื่อวานเป็นเพลงทาทา วันนี้เป็นเพลงคิดถึงของพี่พงศ์สิทธิ์ คัมภีร์ เพลงโปรดพอดีเลยไม่ตามเปลี่ยนแล้ว คาดว่าคงเป็นปัญหาลิขสิทธิ์ของค่ายเบเกอรี่

Thursday, August 24

ขอลาไปสามสี่วัน

ไม่ได้ไปไหนมากหรอกค่ะ แต่จะไปหาจอห์นกับริกะ(แฟนจอห์น)ที่ Illinois ซักสามวันตามคำเชิญของจอห์นตอนที่เจอกันที่ซินซินาติ อย่างที่เคยบอกจอห์นอยู่กับริกะที่ญี่ปุ่นแต่ตอนนี้มาเยี่ยมบ้าน ริกะนี่อ้อมกับคริสก็รู้จัก เป็นสาวญี่ปุ่นที่หุ่นดีที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา เขาเพิ่งบินมาจากญี่ปุ่น ก็เลยว่าจะไปเจอซักหน่อย พักผ่อนไปด้วยในตัว แต่ก็ไม่รู้จะได้พักขนาดไหนเพราะต้องขับรถเกือบสิบชม.กว่าจะไปถึงบ้านจอห์น เพราะงั้นวันพรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า กะว่าจะออกจากบ้านตอนแปดโมง กว่าจะไปถึงก็คงเย็น พักสองคืนแล้วก็ขับกลับวันอาทิตย์ ยังไม่รู้จะมีกิจกรรมอะไรทำรึเปล่าเพราะบ้านจอห์นห่างจากชิคาโกไปสองชม.และก็บ้านนอกครือๆกันกับที่นี่ โอกาสช็อปปิ้งคงไม่มีแน่นอน แต่ไม่เป็นไรไปเปลี่ยนบรรยากาศ (เอ ถ้ามันบ้านนอกเหมือนกัน มันจะเรียกเปลี่ยนบรรยากาศได้ไง เอาเป็นว่าเปลี่ยนหน้าคนคุยด้วยละกัน)

ขอจบบล็อกสั้นๆวันนี้ด้วยเพลง ที่แห่งนี้ ของ P.O.P. เพิ่งได้โค้ดใส่เพลงมาจากปุ๊กและการหา source จากพี่อร ขอบคุณนะคะ ตอนนี้มีของเล่นใส่บล็อกเพิ่มอีกอย่างแล้ว ต่อไปนี้วันๆที่ว่างคงไม่ต้องทำอะไร นั่งหาเพลงประกอบบล็อกอย่างเดียว อิอิ

[ขอเอาโค้ดออกนะคะ เพลงมั่วเหลือเกิน]

ปอลอป๋อหลอ: วันก่อนโทรไปคุยกับกิ๊กแล้ว อยากโทรหาเพื่อนๆทุกคนเลยนะ ไปอยู่นิวยอร์คมีเวลาว่างมากๆเมื่อไหร่จะค่อยๆทยอยโทรไปหานะจ๊ะ

ปอลอป๋อหลอ 2
: อ้อมใส่ลิ้งค์บล็อกของเพื่อนๆเอาไว้ที่คอลัมน์ทางขวา ใครว่างจัดแบบอ้อมก็เชิญตามไปอ่านได้ตามสะดวกค่ะ ใครอยากให้อ้อมใส่ลิ้งค์เว็บของตัวเองบ้างหรืออยากให้เอาลิ้งค์ของตัวเองออกก็บอกได้เลยนะคะ จัดให้ได้ :-)

อาหารที่อยากทานวันนี้: ผลไม้เมืองร้อนทั้งหลาย น้อยหน่า มังคุด ละมุด ลำไย มะเฟือง(ทานกับแหนมเนือง) ทุเรียน เงาะ ส้มโอ มะม่วง(หวานๆแบบน้ำดอกไม้ และมะม่วงน้ำปลาหวาน) ส้มเขียวหวาน ลองกอง แก้วมังกร กะท้อน ขนุน ฯลฯ ฮือ ลูกลิงอย่างอ้อมขาดวิตามินแย่แล้ว กลับบ้านเมื่อไหร่จะทานแต่ผลไม้ซักสองวันติดเป็นการดีท็อกซ์ไปในตัว

Tuesday, August 22

ไว้อาลัย Prof. Chaudron

วันนี้มีข่าวความสูญเสียอีกแล้ว (มาหลังข่าวดี คืออ้อมได้ตัวกรีนการ์ดเรียบร้อยแล้ว เร็วมากๆเลย) ตอนบ่ายเช็คบล็อกของจอชดูก็เห็นโพสต์ที่จอชเขียนว่า Prof. Craig Chaudron อาจารย์ของทั้งอ้อม คริส จอห์นและจอชที่ฮาวายเสียแล้ว ใจหายมากๆ Craig ยังไม่แก่เท่าไหร่เลย (ที่ฮาวายเรียกโปรเฟสเซอร์ด้วยชื่อต้นได้) ลูกสามคนก็ยังเล็ก ยังนึกถึงที่เคยไปปาร์ตี้ที่บ้านเคร้ก ยังจำได้ว่าเคร้กเล็คเชอร์ยังไง ยังจำได้ว่าเคร้ก upset มากๆที่น้องคนไทยคนนึงที่มาหลังอ้อมแต่ชิ่งทิ้งทุนหนีกลับบ้านไปก่อน ทำให้ department ต้องเสียทุนที่จัดหามาให้ด้วยความยากลำบากไปด้วย ที่เคร้กอัพเซ็ตมากก็เพราะว่าเคร้กเป็นโพรเฟสเซอร์คนนึงที่เป็นเหมือน"ครู"จริงๆ คือค่อนข้างเคี่ยวเข็ญลูกศิษย์ให้เรียนให้จบและพยายามช่วยหาทุนให้ทุกคนได้เรียนได้ โทรไปถามจอชว่าเคร้กเสียยังไง จอชก็บอกว่าไม่มีใครรู้แน่ เคร้กรู้สึกไม่สบายก็เลยไปโรงพยาบาล พอกลับมาที่บ้านวันรุ่งขึ้นก็เสียชีวิตแล้ว กะทันหันมากๆ ก็ได้แต่หวังว่าครอบครัวของเคร้กคงไม่เป็นไร และขอให้เคร้ก rest in peace

We'll always remember you, Craig.

Sunday, August 20

ฉลองเรื่องกรีนการ์ดผ่าน

Wเมื่อวันเสาร์ได้จดหมายแจ้งข่าวดีจาก USCIS ว่าเรื่องกรีนการ์ดผ่านแล้ว เย้ๆๆๆๆ หลังจากที่รอมานาน แถมต้องส่งเอกสารเพิ่มตั้งสองรอบ(เพราะเจ้าหน้าที่อ่านพาสปอร์ตไม่เป็น และยังเรื่องมาก) ในที่สุดเรื่องก็ผ่านซะที ตัวการ์ดจะส่งมาให้ภายใน 3 อาทิตย์ ก็หวังว่าคงจะมาก่อนคริสต้องไปคุมจ๊อบที่เมือง Webster ในรัฐนิวยอร์ค (เมืองนี้เป็นเมืองเล็กๆอยู่ห่างจาก Buffalo มาทางตอ. ประมาณชั่วโมงครึ่ง และยังห่างจากนิวยอร์ค ซิตี้อีกหลายชม. เซ็งเลย) คาดว่าอ้อมคงต้องได้ไปจับเจ่าอยู่ที่โรงแรมเหมือนเคยประมาณสองสามเดือน แต่ถ้าได้กรีนการ์ดเรียบร้อยแล้วจะได้วางแผนไปเที่ยวแคนาดาได้ อิอิ

พอได้ข่าวดีนี้ คริสก็บอกว่าต้องฉลอง ก็เลยออกไปทานดินเนอร์นอกบ้านกัน (จริงๆเมื่อคืนวันศุกร์ก็ออกไปทานข้าวข้างนอกรอบนึงแล้ว เพราะคริสต้องไปซื้อคอมพ์เครื่องใหม่หลังจาก fooling around กับคอมพ์เครื่องเก่าที่มีปัญหาจนฮาร์ดไดรฟ์พังไป) ร้านที่เลือกไปทานชื่อ Mulligan's ในแคนตัน คริสสั่งแซนด์วิชแต่บอกกินได้เต็มที่ อ้อมก็เลยสั่งสเต้กมาทาน เป็น prime rib ขนาด Queen cut หนัก 18 ออนซ์ (ก็ประมาณครึ่งโลนิดๆได้) ขนาดที่ใหญ่กว่านี้ก็มี ก็เลยเอาแค่ขนาดนี้แหละ นึกว่ามันจะไม่ใหญ่มาก ที่ไหนได้พอเห็นพนักงานเสริฟยกมาแทบตกเก้าอี้ ก้อนใหญ่มากๆๆ หนาประมาณสองนิ้วครึ่ง กว้างหกนิ้ว ยาวสิบนิ้วได้มั้ง แต่อร่อยมากๆๆเนื้อนุ่มติดมัน ทานไปได้หนึ่งในห้าส่วนก็จุก ห่อกลับบ้านมา วันนี้เลยได้โอกาสเอามาอุ่นทำยำเนื้อย่างทานตอนกลางวันซะเลย ขนาดอุ่นในไมโครเวฟจนเนื้อสุกแล้วก็ยังนิ่มอยู่ ผักกาดหอม มะเขือเทศ ผักชีที่ใส่ในยำนี่ก็เก็บมาจากในสวนนะ อร่อยๆ สเต้กก้อนเดิมยังเหลืออีกเยอะ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะเอามาทำแซนด์วิชให้คริสทานและทำยำอีกรอบ (คิดดูละกันว่ามันก้อนใหญ่ขนาดไหน)


ทานข้าวเย็นกันเสร็จก็ไปมอลล์เดินเล่นกันต่อ คริสบอกว่าให้ช็อปปิ้งฉลองได้ อ้อมก็เลยฉลองศรัทธาซะด้วยการซื้อสเวตเตอร์ลดราคาที่ร้าน The Gap มาหนึ่งตัวเตรียมรับหน้าหนาวกับกางเกงยีนส์อีกหนึ่งตัวที่ร้าน Express กางเกงยีนส์ที่เห็นในรูปดูเหมือนเป็นทรง bootcut แต่จริงเป็นทรง skinny legs ปลายขาสอบ ไม่เคยใส่ทรงนี้เหมือนกัน แต่เห็นกำลังฮิตมากก็เลยหยิบมาลองดู ดันใส่ได้พอดีเด๊ะเลย แถมเจอลูกยอคนขายบวกกับราคาเซลลดไป $20 ก็เลยซื้อมา ถ้ามั่นมากพอ หน้าหนาวนี้จะแต่งตามเทรนด์ใส่บู๊ตสูงถึงเข่าทับขากางเกงยีนส์ ฮิฮิ
พอซื้อของเสร็จก็รู้สึกผิดนิดๆ เพราะสองอาทิตย์ก่อนก็ช็อปไปบ้างแล้ว ซื้อเสื้อสีขาวที่ The Gap กับเข็มขัดที่ Old Navy เซลทั้งคู่นะ อ้อมยังเหนียวแน่นกับคติที่ว่าไม่เซลไม่ซื้อเด็ดขาด เข็มขัดนั่นหนังแท้ลดเหลือ $8.99 เอง
นอกจากที่เห็นข้างบนแล้ว คริสยังซื้อรองเท้าบู๊ตให้อ้อมอีกคู่เพราะมีบัตรลดที่ DSW อยู่ คริสบอกว่าเห็นบู๊ตที่มีอยู่มันเป็นบู๊ตสูงทั้งนั้น เอาบู๊ตสั้นไว้เผื่ออีกคู่ละกัน


หมู่นี้คริสใจดีมากๆ คือปกติก็ใจดีอยู่แล้ว แต่คงเห็นพักหลังอ้อมอารมณ์ไม่ค่อยจอยเท่าไหร่ เพราะบางทีอ้อมก็อึดอัดที่ไม่มีที่มีทางอยู่เป็นของตัวเอง จริงๆตอนคริสไปซื้อคอมพ์ อ้อมขอให้คริสปล่อยอ้อมไปเดินเล่นที่มอลล์คนเดียวซักแป๊บเถอะ ซื้อคอมพ์เสร็จแล้วค่อยมารับ มันเกิดอารมณ์อยากอยู่คนเดียวบ้าง แต่คริสก็บอกอยากให้อ้อมไปช่วยเลือกคอมพ์ด้วยก็เลยโอเค ไม่เป็นไร ได้ระบายกับคริสออกไปบ้างก็รู้สึกดีขึ้นแล้ว รู้ด้วยแหละว่าคริสเป็นห่วงมากถ้าอ้อมต้องไปไหนมาไหนคนเดียว ก็เอาเป็นว่าตัวติดกันไปอย่างนี้แหละ อุ่นใจดี

Friday, August 18

A Baseball Game with the Boys

หมักเรื่องและรูปไว้จนได้ที่แล้วได้เวลาเขียนซักที...เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาหลังจากทานเบรคฟาสต์ครบเครื่องของแมรี่แอนแล้ว อ้อมกับคริสก็ไปคลีฟแลนด์เพื่อไปดูเบสบอลกับเจฟฟ์พี่ชายคริสและอเล็กซ์กับคริสหลานคริสกัน เจฟฟ์นี่ไม่ใช่พ่อของหลานคริสนะ เป็นอาเหมือนกัน สรุปก็คืองานนี้สองอาพาหลานมาดูเบสบอล เจฟฟ์อยู่ที่โคลัมบัสเหมือนกับหลานๆก็เลยรับหลานมาเจอกับอ้อมและคริสที่เบสบอลสเตเดี้ยมเลย อ้อมกับคริสอยู่ใกล้คลีฟแลนด์มากกว่าก็ไปถึงก่อน จอดรถเสร็จก็เดินไปซื้อตั๋ว

เคาน์เตอร์ขายตั๋ว

สามีสุดอวบยืนซื้อตั๋ว เลือกที่นั่งแถบที่เรียกว่า bleachers คือออกไปทางเอาท์ฟีลด์ ใต้สกอร์บอร์ด

รอบๆสเตเดียมด้านนอก


หนึ่งในประตูทางเข้า

ก่อนหลานๆมา อ้อมกับคริสไปเดินดูตรงสนามเด็กเล่นที่เขาจัดไว้ เห็นมาสคอตของทีมอินเดียนส์ก็เลยไปสะกิดๆขอถ่ายรูปด้วย ฮ่ะๆๆ จริงๆมาสคอตของทีมเป็นอินเดียนแดงชื่อ Chief Wahoo แต่เนื่องจากความเซ็นซิทิฟเรื่องการเป็นชนกลุ่มน้อยของอินเดียนแดงก็เลยต้องเปลี่ยนมาเป็น Slider นกสีแปร๋นๆตัวนี้ แต่สัญลักษณ์ของทีมจริงๆก็ยังเป็น Chief Wahoo ที่เห็นอยู่ที่หน้าอกสไลเดอร์อยู่


สี่หนุ่มตระกูลแคธิส หลานคริสคนโตชื่ออเล็กซ์ กำลังจะสิบสองขวบเดือนพฤศจิกา คนเล็กชื่อคริส กำลังจะสิบขวบเดือนหน้า
ที่นั่งที่เห็นนี่ร้อนมากๆๆ คือตัวม้านั่งก็เป็นโลหะอยู่กลางแดดร้อนๆ หย่อนก้นลงไปก็เหมือนย่างสด แต่นั่งไปซักพักก็หายร้อน ร้อนหัวแทนเพราะแดดลงเปรี้ยงๆ จริงๆวันนั้นอากาศดีมากๆ ลมเย็นแต่แดดแรงสุดๆ ดีที่อ้อมพกครีมกันแดดไปด้วยไม่งั้นหัวไหล่คงไหม้ไปแล้ว ส่วนคริสไม่ยอมใส่หมวก ผมก็เพิ่งตัดซะเกรียน หัวแดงแสบไปเลย

วันนั้นทีมอินเดียนส์ชนะไป 15-0 แต่แข่งกับทีม The Royals ซึ่งเป็นทีมที่ห่วยที่สุดในลีก อินนิ่งแรกมันส์มาก ทำคะแนนไป 11 รัน คนดูเฮกันสนั่น แต่หลังจากทีมรอยัลส์เปลี่ยนตัวพิทเชอร์แล้วอินเดียนส์ก็ทำคะแนนไม่ได้มากเท่าไหร้ เกมก็เฉยๆ อ้อมก็เริ่มมึนแดด ดูแล้วเริ่มง่วงและเหนื่อย แต่จะกลับเลยก็ไม่ได้เพราะวันนั้นเป็น Kids Fun Day ทางสเตเดียมให้เด็กๆไปวิ่งในสนามได้หลังเกมจบ ก็เลยรอให้อเล็กซ์กับคริสได้ไปวิ่ง ส่วนผู้ปกครองก็ได้ลงไปเดินขอบสนามด้วยนิดนึงวิวจากขอบสนาม มองไปที่ๆนั่งใต้สกอร์บอร์ดที่เพิ่งนั่งไป แดดยังเปรี้ยงอยู่เลย


เด็กๆวิ่งกันด้วยความมันส์ อเล็กซ์กับคริสวิ่งเร็วมาก ถ่ายรูปเกือบไม่ทันเลย งานนี้ก็จบด้วยความสนุกสนาน


อ้อมกับคริสรับอเล็กซ์กับคริสมานอนค้างที่บ้านปู่ย่าอีกสองคืน เด็กทั้งคู่ชอบเล่นกับหมามาก แต่คุณแมดดี้ก็ดันไม่คุ้นกับเด็ก วันแรกก็เห่าเอาเห่าเอา แถมอเล็กซ์ชอบวิ่งให้แมดดี้ไล่ต้อนตามประสาหมาต้อนแกะ เวลาต้อนก็ต้องมีงับที่ขาหยอกๆ ได้เรื่องเลย คืนที่สองอเล็กซ์นั่งเล่นกับแมดดี้อยู่ดีๆ แมดดี้ดันไปงับหน้าอเล็กซ์ ดีที่ไม่เข้า แค่ถลอกนิดหน่อยใต้ตา อ้อมงี้เสียวเลย แม่เขายิ่งทั้งห่วงทั้งหวงลูกและยังเกลียดหมาอีกต่างหาก แต่ก่อนอเล็กซ์ก็แพ้ขนหมาด้วย ตาจะบวม เวลาเล่นกับหมาเสร็จต้องคอยบอกให้ล้างมือ พอวันรุ่งขึ้นกลับบ้านไปแม่เขาบอกว่าอเล็กซ์ตาบวมเกือบปิด คาดว่าคงเอาแขนเสื้อไปขยี้ตา เฮ้อ แม่เขาคงเข็ดไม่ให้ลูกมาค้างที่นี่อีกนาน ปู่กับย่าเซ็งเลย

Tuesday, August 15

Dinner at the Pointe Cafe

เมื่อเย็นวันเสาร์มีแพลนว่าจะไปงานเลี้ยงฉลองเรียนจบของลูกพี่ลูกน้องคริสกับพ่อแม่คริส แต่หลังจากพาแมดดี้ไปฉีดยากันโรคพิษสุนัขบ้า (rabies) คริสก็เปลี่ยนใจไม่ไปดีกว่า กลับมาเหนื่อยๆเพราะแมดดี้เห่าแหลก เห่าทุกอย่างที่ขวางหน้าตอนรอฉีดยา หมาตัวอื่นนั่งกันสงบเสงี่ยมเรียบร้อย คุณแมดดี้เห่าเอาเห่าเอาอยู่ตัวเดียว เฮ้อ ต้องพาออกจากบ้านให้คุ้นคนคุ้นหมาแปลกหน้ามากกว่านี้ จริงๆนอกจากงานเลี้ยงนี้ก็ยังมีอีกปาร์ตี้นึงให้ไปด้วย แต่คริสหลับไปเฉยเลย ส่วนอ้อมก็เฉยๆ ไปก็ได้ไม่ไปก็ได้ อยู่บ้านก็ดีเหมือนกันเพราะพ่อแม่คริสไปงานเลี้ยง บ้านก็เลยเงียบสงบมากๆ คริสหลับอยู่ข้างบน อ้อมก็เอ็นจอยการอยู่เงียบๆคนเดียวข้างล่างไป พอคริสตื่นก็เลยออกไปหาอะไรทานกันใกล้ๆบ้านดีกว่า ตัดสินใจไปที่ร้านชื่อ The Pointe Cafe ที่แมรี่แอนแนะนำว่าดี
ร้านนี้เป็นร้านเล็กๆ น่าจะเอาบ้านเก่ามาทำเป็นร้าน ข้างในก็ไม่กว้างมาก ตกแต่งธรรมดาๆ ไม่หรูหราอะไร แต่คนเพียบเลย ต้องรอโต๊ะที่บาร์อยู่สักพัก
ได้โต๊ะ สั่งอาหารเสร็จ ก็ทานสลัดกันก่อนตามระเบียบ อ้อมเลือกน้ำสลัดที่ร้านทำเอง เป็น vinigrette ออกเปรี้ยวๆ ไม่เลี่ยนดี
จานนี้ของคริส คริสสั่ง Cajun Chicken Fettucine เป็นพาสต้าซอสครีมใส่เครื่องเทศแบบเคจัน ใส่ไก่ย่างด้วย อร่อยดี ซอสครีมไม่เลี่ยน เครื่องเทศก็เผ็ดนิดๆแบบที่คริสชอบ
อ้อมสั่ง Pork Loin Stuffed with Sausage and Spinach หมูย่างยัดไส้ไส้กรอกกับผักโขม ราดเกรวี่เห็ดรวม เคียงกับมันฝรั่งและกรีนบีนเยลโลว์บีน ทานแล้วนึกถึงแม่เลย แม่คงชอบเสต็กหมูแบบนี้ อ้อมกับคริสทานกันคนละครึ่งจานเท่านั้นแล้วก็เก็บที่เหลือใส่กล่องกลับบ้านมา อิ่มอร่อยไปอีกหนึ่งมื้อ ร้านนี้อาหารไม่ถูกแต่ถ้าดูปริมาณแล้วก็โอเค อาหารที่เหลือกลับมานี่อ้อมกับคริสทานอีกมื้อนึงได้เลย

แถมท้ายด้วยอาหารเช้าวันอาทิตย์ที่แมรี่แอนทำ ปกติอ้อมจะทำอาหารเช้าให้คริสทานง่ายๆ คือไข่ดาวและขนมปังปิ้ง แต่ทุกวันอาทิตย์แมรี่แอนจะทำเบรคฟาสต์แบบครบเครื่อง บลูเบอรี่วอฟเฟิล ไข่ดาว และ เบคอน อ้อมก็ทานจนจุกทุกเช้าวันอาทิตย์

อาหารที่อยากทานวันนี้: ไส้กรอกอีสาน (ต้องเจ้าที่ตลาดบองมาเช่เท่านั้น) ทานกับขิงอ่อนๆ แกล้มพริกขี้หนูเผ็ดๆ

Friday, August 11

Happy Mother's Day

สุขสันต์วันแม่ แด่คุณแม่(จอมแซว)ที่น่ารักที่สุดของอ้อมค่ะ

อ้อมคิดถึงแม่ที่สุดเลย ถ้าอยู่ใกล้ๆจะกอดแม่แน่นๆแล้วบอกแม่ว่ารักแม่นะ



ตอนแรกเกือบหารูปที่ไปถ่ายที่สตูดิโอชุดนี้ไม่เจอแน่ะ งุ่นงานอยู่พักใหญ่ ในที่สุดก็หาเจอ =^_^= อ้อมชอบรูปที่เราไปถ่ายกันชุดนี้ที่สุดเลย คุ้มนะจ่ายไม่เท่าไหร่เอง ไว้อ้อมกลับบ้านปีหน้าไปถ่ายกันอีกมั้ยคะ แม่ ให้ช่างภาพปวดหัวอีกทีว่าจะทัชอัพลบรอยย่นของครอบครัวนี้ได้ไง อิอิ

คริสก็ฝาก Happy Mother's Day ด้วยนะคะ ทั้งอ้อมทั้งคริสรอวันที่จะได้กลับไปเจอพ่อแม่และพี่แอ้มเสมอค่ะ

Thursday, August 10

เพื่อนๆจ๋า คิดถึงจัง

ตั้งแต่วันที่ได้สังสรรค์กับจอชและจอห์นก็ยิ่งรู้สึกคิดถึงเพื่อนๆที่เมืองไทยมากขึ้น คือจริงๆคิดถึงมานานมากๆแล้วแต่ไม่ได้โทรไปหาใครซักที กลัวว่าเพื่อนๆจะยุ่งๆกันแล้วไม่มีเวลาคุยด้วย แต่วันนี้ตบะแตกทนไม่ไหว รู้สึกเหงาสุดๆก็เลยตัดสินใจโทรไปหาเพื่อนกิ๊ก ปรากฏว่าโทรหาที่บ้านก็ไม่ติด โทรเข้ามือถือก็ไม่เปิด (ไม่รู้ทำอะไรอยู่ อดรับสายทางไกลไปแล้วนะจ๊ะ) ก็เลยโทรหาเพื่อนหยูแทน คุยกันไปซักครึ่งชม.กว่าได้มั้ง โล่งใจขึ้นเยอะ เพิ่งรู้ตัวว่าคิดถึงเพื่อนๆมากขนาดนี้ จริงๆตอนหยูรับสายเกือบร้องไห้แล้วด้วยซ้ำ แต่มันชิงด่าซะก่อนว่าทำไมเพิ่งโทรมา มาอเมริกาตั้งเกือบปีแล้ว เออ คิดขึ้นมาได้ ใช่ มาตั้งเกือบปีแล้วนี่หว่า ตุลานี้ก็ครบปีแล้ว ทำไมตรูไม่โทรหาเพื่อนๆก่อนหน้านี้บ้างวะ ค่าโทรศัพท์ก็แสนจะถูก น้ำตาเลยหดหายไป เมาธ์กันเรื่องอื่นแทนดีกว่า

เอาเป็นว่าคิดถึงเพื่อนๆจริงจริ๊ง ดูรูปเก่าๆแล้วก็อุ่นใจ เมื่อไหร่ได้กลับบ้านก็คงได้เจอเพื่อนๆ (และหลานๆ)อีก

เรียนทำขนมกับกุล ไม่อยากจะบอกเลยว่าไอ้สูตรทั้งหลายที่ได้มาเป็นแฟ้มน่ะ (รวมทั้งสูตรของ UFM ที่เรียนกับเกตุ ดาว กิ๊ก ด้วย)ดันลืมไว้ที่เมืองไทยหมดเลย จนป่านนี้เลยยังไม่เคยได้อบขนมอะไรเลย จริงๆขี้เกียจมากกว่าโทษสูตรไปงั้นแหละ


ทานข้าวกับเกตุ กิ๊กและหยู จิ๊บก็ไปด้วยแต่รูปนั้นเพื่อนไม่สวย เลยไม่เอามาลงนะ


ทำตัวเด็ก ป้าๆไปถ่ายรูปกันที่ U Smile ที่สยาม อิชั้นเพิ่งรีบอนดิ้งมา หัวลีบเชียว


คิดถึงหลานๆด้วย ป่านนี้น้องธามคงวิ่งได้ให้แม่แก้วคอยไล่จับเหนื่อยแย่แล้ว


น้องธามเป็นขวัญใจเพื่อนๆแม่แก้วมาก งานไหนงานนั้น ไปทุกงาน


โอม ธาม เอมี่ รูปนี้ทำไมไม่มีเจมี่ เพิ่งรู้ว่าแก้วก็จะได้ลูกสาวอีกคน ดีใจด้วยจริงๆ เพื่อนเราสามคนเก่งมาก ลูกชายหนึ่งลูกสาวหนึ่งทั้งหมด


เพื่อนอักษรเลี้ยงส่งก่อนมา น้ำตาท่วมฮ่ะ แต่วันนั้นอาหารอร่อยมากกกกกกกกกกก กลับบ้านเมื่อไหร่ไปทานกันอีกนะ

Tuesday, August 8

Hall of Fame Party and Gyozas

ขอเขียนย้อนหลังหน่อย เมื่อวันเย็นศุกร์ที่แล้วไปงานปาร์ตี้ที่บ้านของเพื่อนบ้านทิมเพื่อนสนิทคริสมา เป็นปาร์ตี้ที่เขาจัดทุกปีก่อนงานพาเหรดที่ Football Hall of Fame ที่เมือง Canton งานนี้คนก็มากันประมาณ 30-40 คนได้ เด็กๆอีกต่างหาก งานใหญ่พอสมควรเลยล่ะ


ดูสไลด์บรรยากาศในงาน ทุกคนที่ไปงานนี้มีครอบครัวและลูกแล้วทั้งนั้น อ้อมกับคริสน่าจะเป็นคู่เดียวที่ยังไม่มีลูก


งานนี้เป็น potluck party คือ แขกในงานถือของกินกันมาแจมกัน อ้อมก็ทำเกี๊ยวซ่าไปหกสิบกว่าตัว ที่เห็นในรูปนี่คือที่ทอดแล้วแบ่งให้แม่กับพ่อคริสทานที่บ้าน

สูตรเกี๊ยวซ่า ครูพักลักจำมาจากวิเวียนเพื่อนซี้

ไส้เกี๊ยวซ่า: กะหล่ำปลีซอย กระเทียมสับละเอียด (หนักกระเทียมเยอะๆๆๆๆ แบบกินแล้วเรอเพื่อนสลบ) ขิงสับละเอียด ต้นหอมซอย (ถ้ามี chive ใช้ chive ได้ แต่ต้นหอมราคาถูกกว่าประมาณสี่เท่าก็ใช้ต้นหอมละกัน) ใส่หมูสับลงไปคลุก เติมซีอิ๊ว พริกไทย (อ้อมแอบใส่น้ำมันหอยลงไปหน่อยให้มันกลมกล่อม) คลุกให้เข้ากันดี ถ้าไม่แน่ใจในรสชาติก็ตักมาช้อนเล็กๆใส่เข้าเวฟชิมดู
เสร็จแล้วก็ห่อ แป้งห่อควรเป็นแป้งสีขาวที่บางที่สุดเท่าที่จะหาได้ ใช้แป้งสำเร็จรูปแช่แข็งเป็นห่อๆขายตามร้านจีนร้านเกาหลีร้านไทยจะดีกว่าซุปเปอร์มาร์เก็ตฝรั่ง ก่อนห่อก็เอาแป้งออกมาจากฟรีซเซอร์มาตั้งทิ้งไว้ให้นิ่มหน่อย แต่อย่าทิ้งไว้นานเกินจนแป้งละลายติดกัน เวลาห่ออย่าใส่ไส้มากเกินไป อ้อมใส่ประมาณช้อนชาพูนๆ ทาน้ำเปล่าที่ขอบแป้ง แล้วพับทบ จับจีบเฉพาะแป้งด้านบนประกบกับแป้งข้างล่างที่แบไว้เฉยๆ (งงมั้ยเนี่ย ไม่มีรูปตอนห่อมาให้ดูค่ะ ห่อเองมือเละเทอะมาก คริสก็ไม่รู้อยู่ไหนเลยไม่ได้เรียกมาถ่ายรูป)

วีธีทอด: ตั้งกระทะก้นแบนที่มีฝาปิด ใส่น้ำมันนิดเดียวในกระทะ วางเกี๊ยวซ่าลงไป ทิ้งให้ด้านล่างออกสีน้ำตาลนิดหน่อย แล้วกลับด้าน เสร็จแล้วเทนำเปล่าลงไปเล็กน้อยในกระทะแล้วปิดฝาทันทีเป็นการนึ่งให้หมูสุกต่อ ทิ้งไว้สองสามนาทีพอเกี๊ยวซ่าสุกทั้งตัวก็ตักใส่จานเตรียมจ้วงหม่ำได้ทันที

สูตรน้ำจิ้ม (มั่วเองจากที่เคยไปทานที่ร้านไทย/จีนใน Akron เขามีเกี๊ยวนึ่งใส่ซอสออกหวานๆเปรี้ยวๆเผ็ดนิ้ดนึงก็เลยลองมาทำเองดูบ้าง)

ส่วนประสม: ขิงหั่นเป็นแว่น น้ำเปล่า ซีอิ๊วญี่ปุ่น น้ำส้มสายชูข้าว(รสอ่อนออกหวานกว่าน้ำส้มสายชูทั่วไป) น้ำตาลทราย ต้นหอมซอย

วิธีทำ: ตั้งน้ำให้เดือดใส่ขิงลงไปให้ได้กลิ่นขิง เติมซีอิ๊ว น้ำส้มสายชู น้ำตาลทราย ปรุงรสตามชอบ ออกเค็มๆหวานๆเปรี้ยวๆ ถ้าอยากให้เผ็ดเล็กน้อยเติมน้ำมันพริก(แบบของญี่ปุ่น)และพริกป่นลงไปนิดหน่อย น้ำจิ้มจะหอมขึ้นอีกเยอะ ทิ้งไว้ให้เย็นแล้วเติมต้นหอมซอย เสร็จแล้วก็หม่ำได้เลยจ้า ถ้าใครขี้เกียจทำน้ำจิ้มใช่ซีอิ๊วธรรมดาก็ได้ ทำกินเองแบบนี้ยังไงก็อร่อยเหลือหลายแล้ว (คือกว่าจะห่อเสร็จก็หิวหน้ามืดแล้ว อะไรก็อร่อย)

Monday, August 7

A Night Out with The Two Rabbis

สืบเนื่องจากที่ได้ไปเจอเพื่อนจอชที่ Cincinnati มา คราวนี้มีเพื่อนเก่าอีกคนมาจากญี่ปุ่นชื่อจอห์น จอห์นก็เป็นเพื่อนที่เรียนด้วยกัน ปาร์ตี้ด้วยกันมาที่ฮาวาย ไม่ได้เจอกันมาห้าปีแล้วมั้ง ตอนนี้จอห์นทำงานอยู่ที่ญี่ปุ่น แต่ช่วงนี้กลับมาเยี่ยมบ้านก็เลยได้นัดเจอกัน จอห์นขี่ฮาร์เลย์คู่ใจจากอิลลินอยส์ไปหาจอชที่ซินซี่แล้วก็ขับรถกันมาหาอ้อมกับคริสที่ Columbus นัดเจอกันครึ่งทาง อ้อมกับคริสขับไปสองชม. จอชขับมาสองชม.เหมือนกัน ที่ๆนัดกันคือ Easton Town Center เป็นแหล่งช็อปปิ้งใหญ่ ออกแนวหรูหน่อย ร้านอาหารเพียบ อ้อมกับคริสไปถึงก่อน อ้อมก็เลยถือโอกาสเดินเล่นช็อปปิ้งเล็กน้อย ได้เสื้อยืดแขนยาวมาสองตัวที่ร้าน Forever XXI เห็นป้ายบอกราคาว่าสองตัว $12 เฉพาะบางแบบ ก็เลยเลือกมาสองตัว ไม่ได้ลองด้วย กะๆเอา แล้วก็ให้แคชเชียร์เช็คราคาให้ แคชเชียร์ก็ยิงบาร์โค้ดแล้วก็บอกว่า สองตัว $8 โอ๊ะ หวานตรู เลยสอยมาเลยไม่ต้องคิดมาก ร้านนี้ของน่ารักมากๆ ถึงเราจะเลยวัย 21 มาหลายปีแล้วก็เหอะ ชื่อร้านเขาถึงบอกไง (ใจ)21 ตลอดกาล

เดินช็อปปิ้งไปพอหอมปากหอมคอ ไม่ได้ซื้ออย่างอื่นแล้ว เพราะร้านอื่นแพงๆทั้งนั้น จอชกับจอห์นก็มาถึงแบบหงุดหงิดๆเล็กน้อย เพราะทั้งคู่ไปจอดรถซะไกลมาก กว่าจะเดินหากันเจอก็กินเวลานาน กอดทักทายกันเสร็จก็เดินไปร้านอาหารเลย เป็นผับไอริช อาหารงั้นๆแหละ แต่ก็นั่งกินเบียร์นั่งคุยกันไปได้ตั้งแต่หกโมงครึ่งจนถึงตีสอง เมาธ์แตก คุยกันถึงเรื่องความหลังบ้าง เถียงกันเรื่องวิชาการที่เคยเรียนกันมาบ้าง คาดคั้นจอห์นว่าทำไมยังไม่แต่งงานกับริกะ แฟนญี่ปุ่นที่คบกันมานานซักที ฯลฯ นั่งกันจนร้านปิดแล้วก็ไปหาอะไรทานกันต่อที่ Steak and Shake แล้วก็แยกย้ายกันกลับตอนตีสามกว่า จริงๆอ้อมไม่อยากให้คริสขับกลับเท่าไหร่ อยากหาโรงแรมแถวนั้นนอน แต่คริสอยากกลับมานอนที่บ้าน ก็เลยขับกลับกันมา อ้อมก็หลับๆตื่นๆตลอดทาง ถึงบ้านตอนตีห้าครึ่ง เฮ้อ



คนหัวเหม่งติดกับคริสคือจอห์น คนหัวเหม่งถัดไปคือจอช สมัยที่เรียนคนชอบสับสนระหว่างคริส จอห์นและจอชว่าใครเป็นใคร ตอนนี้จอห์นก็หัวล้านตามจอชไปเรียบร้อยแล้ว คริสยังมีผมอยู่แต่อวบสุดเลย อ้อมว่าทั้งจอห์นและจอชดูเหมือน rabbi (พระยิว)ดันไว้หนวดไว้เคราแบบเดียวกันอีกต่างหาก

จอชเขียนถึง reunion ครั้งนี้ไว้ในบล็อกตัวเองด้วย คลิกไปอ่านจอชบ่นได้ ฮ่าๆ

Saturday, August 5

ชีวิตแม่บ้าน

อาทิตย์นี้ทำตัวเป็นแม่บ้านมากๆ
วันจันทร์: ซักผ้าสองโหลด แยกผ้าสีกับผ้าขาว
วันอังคาร: ซักผ้าปูที่นอนและ duvet cover (ผ้าคลุมผ้านวม) ที่เต็มไปด้วยขนแมดดี้ คือผ้านวม (comforter) มันนุ่มมากๆยัดใส้ขนห่าน (down) เวลาแมดดี้ขึ้นมานอนเล่นบนเตียงก็จะชอบกลิ้งอยู่บนผ้านวมนั่นแหละ
วันพุธ: ขัดห้องน้ำ ซักพวกพรมรองเท้าทั้งหลาย แล้วมารีดผ้า แค่กางเกงขาสั้นกับสามส่วนไม่กี่ตัวหรอก รีดไปคิดถึงพ่อไป ทำไมเรารีดได้ไม่เหมือนพ่อรีดเล้ย
วันพฤหัส: ไปจ่ายกับข้าวที่ตลาดนัด (farmer's market) กับแมรี่แอน จริงก็ไม่เชิงตลาดหรอก มีแค่ชาวบ้านเอาพืชผักสวนครัวที่ปลูกกันเองมาเปิดท้ายขายที่สวนสาธารณะ อย่านึกว่ามันจะเป็นตลาดใหญ่เหมือนในเมืองใหญ่หรือในยุโรป กว่าจะไปถึงก็สายแล้ว ของหมดไปเยอะ ได้ถั่ว yellow bean น้ำผึ้ง กระเทียม แตงกวา แล้วก็ไปซุปเปอร์มาร์เก็ตด้วย เพราะอ้อมต้องซื้อขิง วันนั้นกะว่าจะทำหมูก้อน ผัดถั่วและซุปเต้าหู้ทานกันทั้งบ้านตอนเย็น ที่ไหนได้พายุฝนเข้า พัดต้นไม้โค่นไปโดนเสาไฟฟ้า ไฟดับไปห้าชม. อดเลย ต้องไปซื้อแซนด์วิชที่ Subway ทานกันแทน
วันศุกร์: อากาศหายร้อนไปหน่อย แมรี่แอนก็เลยออกไปตัดหญ้า อ้อมก็อยากช่วยแต่เขาชอบทำเองมากกว่า ได้อยู่นอกบ้าน(หนีเสียงสามี) อ้อมก็อยากอยู่นอกบ้านเหมือนกัน(อารมณ์เดียวกัน พ่อคริสเสียงยังกับฟ้าผ่า) แมรี่แอนก็เลยขอให้อ้อมไปถอนวัชพืช (weeds) ตามแปลงต้นไม้แทน อ้อมก็เลยไล่ถอนไปเรื่อยตั้งแต่แปลงมะเขือเทศไปจนรอบๆระเบียงหลังบ้าน ทำไปสักสองสามชม.ได้มั้ง มันส์ดี ถอนหญ้าด้วย มีอยู่ช่วงนึงถอนไปเจอรังมดเลยโดนกัดซะข้อมือเกือบบวม แต่ตอนนี้เหลือแต่รอยแดงๆ หลังจากทายาหม่องฟ้าทะลายโจรของพ่อ :-) ตอนนี้หลังเท้าอ้อมดำไร้ราศีมากๆ เพราะใส่แต่อีหนีบ เวลาออกไปทำสวนก็ไม่อยากใส่รองเท้าผ้าใบ หลังเท้าก็เลยรับแดดไปเต็มๆ ขัดเท่าไหร่ก็ไม่ขาวค่ะ แต่ไม่เป็นไรเดี๋ยวหน้าหนาวไม่ได้เจอแดดก็ขาวไปเอง ทำสวนเสร็จอ้อมทำเกี๊ยวซ่าไปงานปาร์ตี่ที่บ้านเพื่อนคริสอีก ทำไปหกสิบกว่าตัวได้ ห่อมือเกือบหงิก เดี๋ยวว่างๆจะมาโพสต์รูปและสูตรให้ดูกัน

ชีวิตแม่บ้านนี่ใครว่าสบาย จริงๆก็มีอะไรให้ทำได้ทุกวัน ที่พูดถึงข้างบนนี่ยังไม่นับทำข้าวเช้าและข้าวกลางวันให้คริสทานด้วยนะ ถ้ามีบ้านของตัวเองคงยิ่งต้องทำเยอะกว่านี้เนอะ

ปอลอป๋อหลอ: อ้อมเพิ่งใส่ลิ้งค์เล่นเพลงโปรดมากๆๆ ไว้ทางคอลัมน์ขวาใต้รูปดอกไม้ของ flickr เพลงนี้เคยใส่ลิ้งค์ไว้ให้แล้วตอนบ่นถึงฮาวายเมื่อต้นปี อ่านบล็อกไปฟังเพลงไปได้ เพลงนี้ฟังแล้วเย็นใจดี

ปอลอป๋อหลอ 2: เพิ่งจับตัวการทำมะเขือเต๊ดยอดกุดได้ อวบอ้วนเขียวปี๋ กลืนไปกับใบมาก


Wednesday, August 2

ผีเสื้อและดอกไม้

ตามชื่อโพสต์ค่ะ ผีเสื้อสวยๆกับดอกไม้หอมๆ



วันนี้เห็นอีกตัวนึง สีสวยกว่าตัวนี้อีกแต่คว้ากล้องออกมาถ่ายไม่ทัน บินไปซะแล้ว
แมรี่แอนบอกให้รอใกล้ๆ fall จะมีอีกชนิดนึงที่สีสวยมากๆ
แถมด้วยรูปดอกไม้อีกชนิดที่กำลังจะบานเต็มพุ่ม ตอนนี้ยังบานอยู่ไม่กี่ดอกค่ะ

Tuesday, August 1

ปั๊ปปี้แมดดี้มาแล้วจ้า

มาให้ยลโฉมกันอีกแล้วค่า แมดดี้อายุครบสี่เดือนไปเมื่อวันที่ 20 กรกฎา ยังถือว่าเป็นปั๊ปปี้อยู่แต่ตัวหนูใหญ่ขึ้นเยอะค่ะ มอมมี่อ้อมอุ้มไม่ขึ้นแล้ว หลังจากเกิดแอ็คซิเดนท์ในบ้านที่เพิ่งเล่าให้ฟังไป แมดดี้ก็โอเคแล้ว คาดว่าช่วงนั้นเธอคงท้องไม่ดี กินอะไรผิดสำแดงเข้าไป เช่น แมลง ผีเสื้อ ก้อนหิน หญ้า อึ๊แห้งๆในทุ่ง เลือกไม่ถูกเหมือนกัน เธอกินดะเวลาอยู่ข้างนอก ไม่พูดเรื่องน่าหยะแหยงดีกว่าเนอะ เดี๋ยวแมดดี้เสียคะแนนความน่ารักหมด
ดูหมาหน้ายาวววววววววววววววววววว
รูปด้านข้าง (profile)
น่ารักมั้ยค้า

เก๊กสวย แลบลิ้นพอประมาณ
แต่ภาคปกติจะเป็นแบบนี้ ลิ้นยาวมากกกกกก
เอ้า ตวัดไปทางขวา
เอ้า กลับมาทางซ้าย
เทียบขนาดกับแฮนน่าห์ สูงเท่ากันแล้ว แต่แมดดี้ผอมเพรียวกว่า แฮนน่าห์ต้องลดสัก 5 ปอนด์เป็นอย่างต่ำ


นอนแทะ chewy stick แบบเพลิดเพลิน
เมื่อวานลอรี่เพิ่งอาบน้ำแมดดี้ให้ ตอนนี้เลยตัวหอมแต่ประทานโทษ ปากแมดดี้เหม็นค่ะ ยิ่งเวลามาหายใจอยู่ใกล้ๆนะ ฮู้ย ต้องผลักออกไปไกลๆนิดนึง คงต้องหาแปรงมาแปรงฟันให้ เมื่อวานก็เพิ่งซื้อของกินเล่น (treat) ให้แมดดี้ เอาเป็นแบบนิ่มๆหน่อยไว้สำหรับการฝึกโดยเฉพาะ ตอนนี้ต้องฝึกเรียกให้แมดดี้มาหา อ้อมกับคริสช่วยกัน อ้อมจับแมดดี้ไว้แล้วให้คริสเดินไปจนสุดสนามพร้อม treat ในมือ แล้วก็เรียกแมดดี้ แมดดี้ก็จะวิ่งสุดฝีตรีนด้วยความเห็นแก่กินไปหาคริส คริสก็ต้องคอยบอกว่า good girlๆ เพื่อเป็นการย้ำพฤติกรรม (reinforcement) เสร็จแล้ว อ้อมก็เรียกให้แมดดี้กลับมาหามั่ง ถ้ามาได้ก็เอาขนมไปกินอีก วันหลังจะถ่ายวิดีโอมาให้ดู ปลื้มๆ ลูกแม่วิ่งเร็วมากๆ ฉลาดอีกต่างหากคือทำไปสองสามรอบ ไม่ต้องเรียกแล้ว เธอหันหลังวิ่งกลับมาอีกทางเลย อันนี้ผิดจุดประสงค์ไปหน่อย ตอนเย็นฝึกแมดดี้เสร็จนี่มีข้อดีอีกอย่าง คือหลังจากวิ่งไปสักพักเธอจะอึ๊อย่างรวดเร็ว อ้อมไม่ต้องพาเดินมากก็ทำธุระเสร็จแล้ว อิอิ


อาหารที่อยากทานวันนี้: แกงเหลืองใส่ปลาแบบเผ็ดๆเปรี้ยวๆ ทานกับไข่เจียวหมูสับ แค่นึกก็น้ำลายสอแล้ว