Tuesday, October 31

Trick or Treat?

คำเตือน: ความคิดเห็นต่อไปนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของอ้อมเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาส่งเสริมความคิดเหยียดผิวหรือการ sterotype คนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง

อ้อมกับคริสกลับไปโอไฮโอเมื่อวันเสาร์ พราะคริสต้องขนของมาเพิ่มอีกรอบ คราวนี้น่าจะเป็นรอบสุดท้ายแล้ว ตอนขับรถกลับเจออากาศไม่ดีอีก ลมแรงสุดๆ ฝนตกหนักมากๆ บางช่วงเป็นหิมะเปียกๆอีกต่างหาก แต่ก็ผ่านมาได้

ตื่นมาวันอาทิตย์ อากาศดีมากๆ คริสไม่ต้องไปขนของด้วยก็เลยไปหาซื้อของขวัญวันเกิดให้อเล็กซ์หลานคริสกัน และถือโอกาสซื้อของขวัญคริสต์มาสล่วงหน้าด้วย ร้านค้าต่างๆยังไม่เริ่มลดกระหน่ำแต่ก็ไปเดินๆดูเผื่อมีของดีๆราคาไม่แพง ก็ได้มาหลายชิ้นอยู่แต่ก็ยังไม่ครบทุกคน เสร็จแล้วก็ไปบ้านทิมที่ Canton ดูเด็กๆออกมา trick or treat กัน จริงๆวันฮัลโลวีนตรงกับวันนี้คือวันอังคารแต่ที่เขตนั้นกำหนดให้ trick or treat ได้บ่ายวันอาทิตย์เท่านั้น คงเพราะว่าวันอังคารเป็นวันธรรมดาและเพื่อความปลอดภัยของเด็กๆก็ต้องทำตอนกลางวันเท่านั้น เด็กๆที่เดินๆกันก็ต้องมีผู้ปกครองเดินคุม นอกจากนี้ยังมีกฎอื่นๆด้วย เช่นให้ไป trick or treat ได้เฉพาะบ้านที่เปิดไฟที่ระเบียงหน้าบ้านทิ้งไว้ ตามถนนแถวบ้านทิม บางบ้านก็จะมีผู้ใหญ่มานั่งอยู่ที่ระเบียงคอยแจกขนมเด็กๆ เด็กๆจะได้ไม่ต้องมาเคาะประตู แจกกันหน้าบ้านนั่นแหละ จะได้เห็นกันได้ ตอนอ้อมไปถึงคนก็เดินกันเยอะคึกคักเชียว จอดรถเสร็จอ้อมก็ไปนั่งที่ระเบียงดูเด็กๆกับมาร์ล่า เสียดายมากๆที่ไม่ได้เอากล้องไปด้วย เด็กๆเล็กๆแต่งตัวกันน่ารักๆทั้งนั้น แซมลูกชายทิมกับมาร์ล่าแต่งเป็น spiderman มี่ที่ยิงใยแมงมุมติดข้อมือด้วยนะ อ้อมก็ดูมาร์ล่าแจกขนมไป ทายกันไปว่าใครแต่งเป็นอะไร สนุกดี

ตามธรรมเนียมก็คือ เด็กจะต้องพูดว่า trick or treat ก่อนถึงจะได้ขนม ได้เสร็จก็ควรจะขอบคุณซักนิด และส่วนใหญ่ก็จะมีแต่เด็กเล็กที่ออกมา trick or treat กัน คริสบอกว่าตัวเอง trick or treat จนถึงอายุ 12 เท่านั้น (แถมบอกด้วยว่ามีปีนึงแต่งตัวเป็นเด็กผู้หญิงด้วย อ้อมงี้ฮาเลย อยากเห็นรูปจริงๆ) เกินกว่านั้นก็โตไปแล้วนะ แต่ที่งงก็คือ neighborhood นี้มีแต่คนขาว แต่ทำไมคนดำมาเดินกันขวักไขว่ขนาดนี้ละหว่า อ้อมนึกว่า trick or treat นี่ ทำกันเฉพาะใน neighborhood เดียวกันเท่านั้น อ่ะ ก็ไม่ว่าอะไรเพราะบางคนเขาก็แต่งหน้าแต่งตัวกันมาน่ารักเชียว แต่ที่งงกว่าก็คือบางคนไม่เด็กแล้วนา วัยรุ่นตอนปลาย บ้างก็ผู้ใหญ่แล้ว คอสตูมก็ไม่ได้แต่ง มาถึงก็ยื่นถุงมาขอเฉยเลย ขอบคุณก็ไม่ขอบคุณ บางกลุ่มก็มาในรถตู้ แทนที่จะเดินๆกันมาจากบ้านก็มาจอดรถแล้วก็ลงกันมากลุ่มเบ้อเริ่มแล้วก็เดินๆขอขนมแหลก ประมาณว่าบอกๆกันด้วยว่าอย่าลืมขึ้นบ้านนั้นบ้านนี้ เหมือนกับว่ามาทั้งทีต้องเอาให้ครบ ฮืมมมมม อ้อมว่าแบบนี้มันทำลาย spirit ของ Halloween ไปมาก ทิมกับมาร์ล่าก็บอกว่า trick or treat เดี๋ยวนี้เปลี่ยนไปเยอะ จากที่เคยแจกขนมแต่เด็กๆบ้านที่รู้จักกันในบล็อค ตอนนี้ก็ต้องแจกใครก็ไม่รู้ ขนาดแจกจนขนมหมดตะกร้าใหญ่ ปิดไฟระเบียงเข้าบ้านไปแล้ว ยังอุตส่าห์มีคน(ดำ)มาเคาะประตูขออีก

อ้อมคุยๆกับคริสก็ถามคริสว่าเขาจะเอาขนมมากมายขนาดนี้ไปทำอะไร คริสบอกว่าบางทีพวกนี้เขาคิดว่าถ้าเป็นของฟรีเขาจะต้องได้ คือขอไว้ก่อน ก็แล้วแต่คนจะคิดนะคะ อย่างที่บอกข้างต้น อ้อมก็ไม่ได้อยาก sterotype ใคร อ้อมก็ว่าคนผิวขาวหรือเหลืองก็คงมีที่ทำแบบนี้ด้วย คนดำดีๆก็มีเยอะ (แต่อ้อมยังไม่เคยเจอเอง)

Friday, October 27

ช็อปวันละนิด จิต(เรา)แจ่มใส...

...แต่จิตคุณสามีนี่ไม่รู้แฮะ

ซื้อของมาอีกแล้วค่ะ เมื่อวานขอคริสไว้ว่าถ้าทำงานแล้วปลีกตัวมาได้บ้างช่วยมารับอ้อมไปหย่อนที่มอลล์แถวๆโรงแรมด้วย คริสก็บอกโอเค ตอนสายๆก็โทรมาบอกว่าจะแวะมารับ อ้อมก็อาบน้ำแต่งตัวรอเรียบร้อย แต่พอบ่ายๆคริสโทรมาบอกว่าไม่ว่างเพราะงานยุ่งๆทิ้งมาไม่ได้ อ้อมก็เลยเหี่ยวไปเล็กน้อย ไม่ได้โกรธคริสนะ แต่มันเฉาน่ะ ไม่ได้ออกไปไหนอยู่แต่ในห้อง เสียงตอนคุยโทรศัพท์ก็คงเฉาออก พอคริสกลับมาที่ห้องตอนสี่โมงครึ่งก็เลยรีบบอกว่าเดี๋ยวอาบน้ำ get cleaned up แล้วจะพาออกไปข้างนอก อ้อมก็บอก ไม่เป็นไรหรอก เหนื่อยก็พักไป (ทำตัวเป็นนางเอกมาก) แต่คริสก็ว่า ไม่ได้ๆ ต้องออกไปข้างนอก ยูดูอัพเซ็ตนี่นา แล้วมันก็ยังไม่เย็นมาก ไปได้ๆ ไม่อยากเห็นยูห่อเหี่ยว เอ้า ไปก็ไป ก็ไปที่ๆใกล้โรงแรมนั่นแหละ เป็นพลาซ่ามีร้าน T.J. Maxx, Old Navy, Target, Barnes and Noble ที่อ้อมเดินประจำและอีกสองสามร้านที่ไม่เคยเข้า เช่น Dress Barn, Joann, Kohls, PetSmart จอดรถเสร็จ คริสก็ขอโทรศัพท์ไปหาพ่อ คุยเรื่องงานก่อน อ้อมก็เลยเข้าร้าน T.J. Maxx ไปก่อน หูย ไม่ได้มาสองอาทิตย์ของใหม่ๆเพียบ พวกเสื้อหนาวสเวตเตอร์ใหม่ๆตรึม คว้ามาสี่ตัวเข้าห้องลองไป ตัวแรกเป็นเสื้อแขนค้างคาวกว้างๆแบบกิโมโน ไม่ไหว ใส่ไม่ได้ เหี่ยวเชียว ตัวที่สองสเวตเตอร์ตัวยาวลายทางมีฮู้ด ฮืม ใส่เสื้อมีฮู้ดอย่างนี้ไม่ได้แฮะ เวลาใส่แจ็กเก็ตทับแล้วมันไงไม่รู้ เอาฮู้ดออกมานอกแจ็กเก็ต มันก็กองๆอยู่ข้างหลังคอ แล้วยังมีผมเราอีก ไม่งามๆ ไม่เอา ลองตัวถัดมาสเวตเตอร์ลายทางแบบเดียวกันแต่ไม่มีฮู้ด โฮะๆ เวิร์คฮ่ะ เวิร์ค ตัวเสื้อยาวหน่อยเกือบปิดก้นตามสมัยนิยม คอลึกต้องใส่เสื้อไว้ข้างใน ไม่มีปัญหา เสื้อกล้ามเราเยอะ ตัวสุดท้ายที่ลองเป็นสเวตเตอร์คอเต่าสีครีมตัวยาวเช่นเดียวกัน ทำจากใยสังเคราะห์ ราคาไม่แพงแต่นุ่มมากกกก อุ่นด้วย ตอนแรกอ้อมว่าผ้ามันคงไม่ดีแต่ลองแล้วติดใจ สรุปคว้าสองตัวหลังนี้มา

Photobucket - Video and Image Hosting

ตัวลายทาง

Photobucket - Video and Image Hosting

ยี่ห้ออะไรก็ไม่รู้ ไม่เคยได้ยิน ตามประสาของร้านลดราคาอย่างทีเจแม็กซ์

Photobucket - Video and Image Hosting

อีกตัว

Photobucket - Video and Image Hosting

ยี่ห้ออะไรก็ไม่รู้อีกเหมือนกัน แต่ป้ายน่ารักดี

คริสได้กาแฟบดกลิ่น French Vanilla กลิ่นโปรดหนึ่งถุง จ่ายเงินเสร็จ ก็ไปร้าน Old Navy เพื่อดูแจ็กเก็ตให้คริสใส่ไปทำงาน ลองดูๆแล้วไม่ดีเท่าตัวที่มีอยู่ หนาไม่พอก็เลยไม่เอา หลังจากนั้นอ้อมก็บอกกลับเหอะ เพราะคริสดูเหนื่อยมาก เครียดเรื่องงานสุดๆ ก็เลยกลับมาที่ห้อง อ้อมทำหน้าที่แม่บ้าน ทำกับข้าว ล้างจาน มีนวดคริสด้วยนะ สงสารคริสมากเพราะเครียด พอมาเช้านี้ถึงได้เอาเสื้อออกมาดู หาข้ออ้างให้ตัวเองเรียบร้อยว่าซื้อสองตัวนี้มาเพราะตัวเก่าๆที่มีอยู่มันสั้นไปแล้ว คือแฟชั่นมันเปลี่ยน สี่ห้าปีก่อนแฟชั่นนิยมโชว์พุงเล็กๆ เสื้อก็จะสั้นๆ เพราะงั้นเสื้อเก่าที่อ้อมซื้อตั้งแต่ตอนอยู่อิลลินอยส์มันก็สั้นไปซะแล้ว ตอนนี้แฟชั่นฮิตเสื้อยาวขึ้นเรื่อยๆ ไอ้เราก็แก่ขึ้นด้วย จะไปใส่เสื้อสั้นๆเหมือนเดิมก็กระไรอยู่ ซื้อเสื้อยาวๆใส่ตามวัย(และแฟชั่น)ดีกว่า

Wednesday, October 25

Georgia O'Keefe: Color and Conservation

"Cup of Silver"

เมื่อวันอาทิตย์ไปดูนิทรรศการรูปวาดของ Georgia O'Keefe ที่ Memorial Art Gallery ในเมือง Rochester จริงๆอ้อมก็ไม่รู้จักหรอกว่า Georgia O'Keefe คือใคร ส่วนคริสพอจะรู้จักบ้างว่าดัง แต่พออ้อมได้เห็นรูปวาดของเขาในหนังสือพิมพ์ก็พอจะจำได้ว่า อืม แบบนี้เคยเห็นมาก่อน (แปลว่าดังจริง) ดูน่าสนใจดี

ขอเล่าประวัติศิลปินก่อนดีกว่า
จอร์เจีย โอคีฟ (ค.ศ. 1887- 1986)

โอคีฟเป็นศิลปินที่มีความสำคัญมากในวงการศิลปะของอเมริกาตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1920 โอคีฟเป็นที่รู้จักกันมากจากการผสมผสานนามธรรมและการนำเสนอเสมือนจริงในภาพวาดดอกไม้ หิน เปลือกหอย กระดูกสัตว์และทิวทัศน์ ภาพวาดของโอคีฟนำเสนอรูปทรงโค้งที่เต็มเปี่ยมไปด้วยการไล่โทนสีต่างๆอย่างหลักแหลม และโอคีฟยังนิยมแปรเปลี่ยนสิ่งที่วาดให้เป็นรูปนามธรรมที่เปี่ยมพลังอีกด้วย (ตัดตอนและแปลจาก http://en.wikipedia.org/wiki/Georgia_O)

แปลมาแล้วยังไม่สื่อเท่าไหร่ อ่านภาษาปะกิดข้างล่างประกอบด้วยละกัน

For seven decades, Georgia O’Keeffe (1887–1986) was a major figure in American art. Remarkably, she remained independent from shifting art trends and stayed true to her own vision, which was based on finding the essential, abstract forms in the world around her. With exceptionally keen powers of observation and great finesse with a paintbrush, she recorded subtle nuances of color, shape, and light that enlivened her paintings and attracted a wide audience. Her primary subjects were landscapes, flowers and bones, explored in series over several years and even decades. The images were drawn from her life experience and related either generally or specifically to places where she lived.

(Excerpt from http://mag.rochester.edu/okeeffe/exhibit2.html)

ดูตัวอย่างงานที่เป็นนามธรรมของโอคีฟอีกสักรูป งานนี้ชื่อ Patio ได้แรงบันดาลใจมาจากทิวทัศน์จากบ้านในนิวเม็กซิโก ที่เป็นที่ๆโอคีฟอาศัยอยู่และสร้างสรรค์ผลงานมากมายจนกระทั่งเสียชีวิต พิพิธภัณฑ์หลักของโอคีฟก็อยู่ที่นั่น

อ้อมกับคริสไปถึงที่แกลอรี่ตอนบ่ายๆแล้ว (วันนั้นคริสตื่นนอนสิบเอ็ดโมงครึ่ง -_-" อ้อมรอด้วยความอดทนสมเป็นศรีภรรยามาก ท่องไว้ในใจตลอด เขาทำงานเหนื่อยนะๆๆๆๆ)

Photobucket - Video and Image Hosting

ข้างใน art gellery มีประติมากรรมสวยๆอยู่ที่ courtyard ตรงกลาง อ้อมกับคริสไปถึงก็ซื้อตั๋ว ขอบอกว่าไม่ถูกเลย คนละ $15 เสร็จแล้วก็เข้าไปในงานแสดงภาพ ข้างในก็ตามระเบียบถ่ายรูปไม่ได้ ก็เลยไม่มีรูปมาให้ดูกัน

Photobucket - Video and Image Hosting

Photobucket - Video and Image Hosting

งานนิทรรศการนี้มีชื่อตามหัวข้อที่เห็นข้างบน คือ Georgia O'Keefe: Color and Conservation ธีมของงานแสดงภาพก็เกี่ยวข้องกับความพยายามของโอคีฟในการอนุรักษ์ภาพเขียนของตนเองด้วย พอเข้าไปในงานอ้อมกับคริสก็ขอหูฟังมาฟัง เวลาเดินไปที่ภาพไหนก็กดฟังเทปบรรยายภาพเขียนนั้นๆ ตอนเดินดูภาพนี่อ้อมกับคริสแยกกันเดินเพราะคนเยอะ และสปีดต่างกัน แต่พอดูเสร็จมาคุยกันก็คิดเหมือนๆกันแฮะ คือภาพวาดทั้งหลายเนี่ยสวยอยู่แล้ว สวยมากๆเลยด้วย แต่ละรูปใช้สีสวยมากๆ แต่ไอ้คำบรรยายที่ฟังนี่สิ บางทีมันเกินไปหน่อยมั้ย ตอนอธิบายเรื่องการใช้สี เรื่องเทคนิคการวาดก็ดีอยู่หรอก เพราะเราก็ไม่มีความรู้ทางด้านนี้ แต่ไอ้ที่บอกแบบประเภทคาดเดาว่าตอนที่โอคีฟวาดภาพนี้ (โดยเฉพาะภาพที่นามธรรมมากๆ) เธอคิดอย่างนั้น ไอ้เส้นสายนี้หมายถึงแบบนี้ ฮืมมม คือใครจะไปตรัสรู้ได้วะว่าตอนเขาวาดเขาคิดอะไรยังไงเขาเห็นอะไรอยู่ นอกจากเขาจะเขียนบันทึกบรรยายเอาไว้เอง เหมือนตอนที่เคยไปดูนิทรรศการของ Picasso ที่คลีฟแลนด์หลายปีก่อน คนวิจารณ์แม่..ก็ถึงกับเอาภาพไปเอ็กซเรย์ดูลายเส้นว่าอันนี้ปิกาสโซวาดทับเพราะอย่างนั้นอย่างนี้ อ้อมว่าบางทีวันนั้นคุณปิกาสโซอาจจะแค่ 'รมณ์ไม่ดีเลยไม่อยากวาดแล้วก็ได้ ใครจะไปรู้ใจเขา สรุปว่าถ้ารูปสวยมันก็สวยนั่นแหละ นอกจากภาพวาดของโอคีฟแล้วก็ยังแสดงภาพถ่ายพอร์ตเทรตขาวดำของโอคีฟด้วย สวยๆทั้งนั้น เดินดูเสร็จก็ออกมาร้านขายของ อ้อมอดไม่ได้ซื้อภาพพิมพ์ของเขามาหนึ่งภาพ กะเอาไปใส่กรอบประดับบ้าน(ที่ยังไม่ได้สร้าง)ในอนาคต

จากนั้นก็ออกมาเดินข้างนอกแกลอรี่แป๊บนึง ถ่ายรูปประติมากรรมข้างนอกมาบ้าง

Photobucket - Video and Image Hosting

Photobucket - Video and Image Hosting

ทางเดินหลังรูปปั้นที่เห็นข้างบน สวยดี

Photobucket - Video and Image Hosting

Photobucket - Video and Image Hosting

อ้อมก็เลยขอเสนอหน้าอยู่ในรูปบ้าง

Photobucket - Video and Image Hosting

Photobucket - Video and Image Hosting

ดูออกมั้ยว่าประติมากรรมรูปอะไร ม้าค่ะ สวยดี

Photobucket - Video and Image Hosting

ปิดท้ายด้วยรูปบ้านเก่าฝั่งตรงข้ามแกลอรี่ แถบนี้ของเมือง Rochester ดูดีมาก มีแต่บ้านเก่าๆหลังใหญ่ๆ แต่ช่วงจากไฮเวย์ก่อนถึงแกลอรี่ต่างกันมาก มีแต่บ้านเล็กๆเก่าๆดูเป็นแหล่งเสื่อมโทรม ประมาณว่าขอให้รถอย่าหยุดเสียเด็ดขาด

Monday, October 23

Fall Colors (another attempt)

เมื่อวานฝนตกนิดๆทั้งวัน คริสก็เลยไม่ต้องไปทำงาน ได้พาคุณภรรยาตัวอย่างอย่างอ้อมไปเปิดหูเปิดตาบ้าง ระหว่างทางที่ขับรถ อ้อมพยายามถ่ายรูปใบไม้สลับสีข้างทางเต็มที่ผ่านกระจกรถมัวๆ (-_-") ตอนนี้รู้สึก Weather Channel บอกว่า foliage (ใบไม้เปลี่ยนสี)แถบนี้จะเลยช่วงพีคไปแล้ว แต่อ้อมว่าตอนนี้แหละกำลังพีคเลย สีเต็มที่ เสียดายที่ฝนตกบ่อยเหลือเกิน ใบไม่ร่วงไปเยอะมากแล้ว


ของจริงดูด้วยตาโคตะระสวย โดยเฉพาะมองจากสะพานลงไปที่ Irondequoit Bay พยายามถ่ายรูปมาสุดๆแล้วก็ได้แค่นี้แหละ

Saturday, October 21

กับข้าวกับ(ไม่มี)ปลา

เริ่มรายการแรกด้วยเมนูเก่าเล่าใหม่ ทงคัตสึหรือหมูทอดชุบแป้งขนมปัง

วีธีทำก็ไม่ยาก เอาเนิ้อหมูมาโรยเกลือกับพริกไทยนิดหน่อย ชิ้นไม่ควรหนามาก ประมาณเซ็นต์ถึงเซ็นต์ครึ่ง ถ้าหนาเกินไปจะทอดไม่สุก ถ้าบางไปก็จะแข็งเกิน เสร็จแล้วก็คลุกแป้งเอนกประสงค์ ตบๆเอาแป้งส่วนเกินออกแล้วก็คลุกไข่ที่ตีไว้แล้ว เสร็จแล้วก็คลุกเกล็ดขนมปัง (panko) พักไว้สักแป็บนึงแล้วค่อยทอด ถ้าทอดเลยแป้งจะร่อนออกจากเนื้อหมูเวลาทอดเสร็จแล้วค่ะ
Photobucket - Video and Image Hosting

จับหย่อนลงกระทะทอด อ้อมไม่ยากเปลืองน้ำมันมาก ก็เลยทอดในหม้อเอา

Photobucket - Video and Image Hosting

ทอดสุกก็หั่นเป็นชิ้นๆวางเรียงบนกะหล่ำปลีซอยฝอยๆ

Photobucket - Video and Image Hosting

ราดซอสสำเร็จที่อุตส่าห์หอบข้ามน้ำข้ามมหาสมุทรมาจากฮาวาย ทานกับข้าวญี่ปุ่นร้อนๆหุงนุ่มๆเหนียวๆ ของโปรดคริสเขาล่ะ ทานเรียบเลย ดีเหมือนกันเพราะเก็บไว้อุ่นใหม่ก็ไม่อร่อย ต้องเอามาทำคัตสึด้งที่ยังไม่เคยทำและมีเครื่องไม่ครบด้วย

เมนูถัดมา เมนูสิ้นคิดทำทานคนเดียว ยำไก่ย่าง

Photobucket - Video and Image Hosting

มีไก่ย่างสำเร็จที่ซื้อมาจากซุปเปอร์มาร์เก็ตอยู่ จะเอามาหั่นอุ่นทานกับซอสพริกกับข้าวก็เบื่อแล้ว ก็เลยเอามาทำยำซะเลย เครื่องก็ไม่ค่อยจะมี ใส่ผักกาดแก้ว มะเขือเทศ (ของเหลือๆจากที่ห่อ wrap ให้คริสเอาไปทานตอนกลางวันทั้งนั้น) ต้นหอมนิดหน่อย (ที่นี่แพงมาก ขอบอก ราคาขึ้นไปมัดละเหรียญแล้ว) ต้มเส้นมาม่าที่เหลือจากสมัยไหนไม่รู้อีกครึ่งห่อใส่ไปด้วย น้ำยำก็ขี้เกียจทำใหม่สดๆเลยตักเอาน้ำปลาพริกกระเทียมที่ทำทิ้งไว้เป็นถ้วยมาราดแทน แล้วบีบมะนาวเพิ่ม เติมน้ำตาลตัดรสอีกนิด พริกป่นอีกหน่อย คลุกๆแล้วก็แหลกล่ายเลย กันตายไปอีกหนึ่งมื้อ

เมนูสุดท้าย เนื้อผัดน้ำมันหอย

เมนูนี้คิดได้หลังจากนั่งดูเมนูร้านจีนอยู่แป๊บนึง แทนที่จะแค่ผัดเนื้อแห้งๆธรรมดาก็ทำให้มีน้ำเหนียวๆด้วยดีกว่า

Photobucket - Video and Image Hosting

สูตรนี้มั่วมาก หมักเนื้อกับซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย พริกไทย นม และแป้งมันนิดหน่อยทิ้งไว้ (มั่วมั้ยล่ะ คือคิดเอาเองว่าใส่แป้งมันและนมลงไปด้วยเพราะทอดแล้วเติมน้ำลงไปเนื้อจะได้นิ่มๆและน้ำข้นๆ ) เตรียมหั่นผักตามใจชอบ อ้อมใส่แครอท หอมใหญ่ และต้นหอม เจียวกระเทียมในน้ำมันให้เหลือง ใส่เนื้อลงทอด พอเนื้อพอสุกก็ใส่ผักทุกอย่างยกเว้นต้นหอม ผักซักแป๊บ แล้วก็เติมน้ำลงไปในกระทะ ชิมดู แล้วปรุงเพิ่ม อ้อมใส่น้ำเยอะไปหน่อย ซอสมันเลยไม่ข้นพอก็เติมน้ำละลายแป้งมันอีกนิด ผัดๆให้แป้งมันสุก ปิดไฟใส่ต้นหอม คลุกๆ ตักเสริฟโลด คริสก็ว่าอร่อยดี ภรรเมียอย่างเราก็ดีใจ มั่วแล้วแหลกล่าย ฮ่าๆ

Thursday, October 19

หนึ่งปีผ่านไป....

...แต่ไม่ยักกะไวเหมือนโกหก อ้อมย้ายมาอยู่ที่อเมริกาได้หนึ่งปีเต็มวันนี้ หนึ่งปีแล้วที่จากบ้านมา หนึ่งปีมาแล้วที่ร้องไห้ร่ำลาพ่อแม่พี่แอ้มน้าภาน้าแป้น เพื่อนๆและลูกศิษย์ทั้งหลายที่อุตส่าห์แหกขึ้ตามาส่งอ้อมแต่เช้ามืดมาก

เมื่อเช้าบอกคริสว่าปีนึงแล้วนะ คริสบอก เออ ไวเหมือนกันนะ อ้อมคิดในใจมันก็ไม่ได้ไวขนาดนั้นหรอก ยิ่งเวลาอ้อมไม่ค่อยมีอะไรให้ทำอย่างนี้ด้วย งานก็ยังไม่ได้เริ่มหาเลย แต่อ้อมก็ไม่ได้คิดมากหรอก ตอนนี้ถึงหางานได้ก็คงเป็นงานพาร์ตไทม์อยู่ดี คริสเองก็ไม่อยากให้อ้อมทำงาน อ้อมก็ว่าอ้อมคงไม่หา career หรอก เอาแค่ job ก็พอ ตอนนี้เป้าหมายในชีวิตมันเปลี่ยนไปแล้ว ถ้าเป็นเมื่อก่อนตอนทำงานที่เมืองไทย เรื่องงานก็เรื่องใหญ่ต้องทำให้ดีที่สุดเพราะมันเป็น career แต่ตอนนี้ career หลักคือแม่บ้านดูแลคริส อีกหน่อยพอแพลนเรื่องสร้างบ้านลงตัวก็จะพยายามมีเบบี๋ซะที ก่อนจะแก่เกินแกง ฮ่ะๆ ถือว่าอันนี้คือเป้าหมายหลักสำหรับปีหน้าละกัน

หนึ่งปีผ่านไปแต่ความคิดถึงบ้านไม่ได้ลดลงเลย อยากบอกว่าคิดถึงทุกคนค่ะ

Wednesday, October 18

More trucking

หายไปหลายวันเพราะกลับไปโอไฮโอมาเมื่อวันเสาร์จ้า คริสต้องกลับไปขน zinc สำหรับพ่นเคลือบในแท้งค์หนักหลายพันปอนด์กลับมา ออกเดินทางกันตอนบ่ายวันเสาร์ กว่าจะถึงก็ค่ำๆ ช่วงที่ขับผ่าน Buffalo ที่เพิ่งโดนพายุหิมะถล่มไป ก็ยังเห็นหิมะตามข้างถนนอยู่ ต้นไม้ข้างทางหักเต็มเลย แต่ยังดีที่ทางไฮเวย์ใช้งานได้แล้ว และอากาศก็อุ่นขึ้นมาก หิมะเลยละลายไปเยอะ ทางก็แห้งดี ขับแบบไม่มีปัญหา อ้อมพยายามถ่ายรูปใบไม้เปลี่ยนสีข้างทางมาอีก แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จเท่าไหร่ เนื่องจากถ่ายผ่านกระจกหน้าที่ไม่ค่อยจะใสมากนัก

เอาเป็นว่าดูด้วยตาเห็นของจริงสวยกว่านี้มากๆๆๆ

ตามกำหนดการคือวันอาทิตย์ไปยก zinc ขึ้นรถพ่วง แล้วก็กลับมานิวยอร์ควันจันทร์ (จริงๆพ่อคริสอยากให้กลับมาวันอาทิตย์เลย แต่คริสไม่เอาด้วย บ้าไปแล้วเหนื่อยตายชักถ้าต้องทั้งขน zinc ขึ้นรถพ่วงแล้วขับมานิวยอร์คอีกเจ็ดชม.ในวันเดียว)แต่ปรากฏว่า เมื่อวันอาทิตย์ที่คริสต้องไปขน zinc ขึ้นรถพ่วงซึ่งต้องใช้ skidsteer หรือ forklift ยก zinc ที่อยู่ในถังใหญ่ๆหนักหลายร้อยปอนด์มาวางบนรถพ่วง ดันสตาร์ท skidsteer ไม่ติด เสียเวลาไปทั้งบ่าย ลองจัมพ์สตาร์ทก็ยังไม่ได้ วันจันทร์ก็เลยต้องลองอีกที คราวนี้ต้องเอาแบตเตอรี่ไปเปลี่ยน ก็เลยโอเค แต่กว่าจะยก zinc แต่ละถังขึ้นไปบนรถพ่วง ใช้ palette jack เลื่อนมาวางให้ถูกตำแหน่ง ก็เสียเวลาไปเยอะมาก อ้อมก็ไปช่วยคริสด้วย เพราะพ่อคุณบอกยกเลิกคนงานที่จะมาช่วยไปด้วยความที่คิดว่ามีเครื่องทุ่นแรงพอ ซึ่งมันก็พอแต่ก็ยังต้องใช้แรงอยู่ดี แถมวันนั้นฝนก็ทำท่าจะตกก็เลยต้องเอาผ้าพลาสติก (tarp)มาคลุมแล้วก็ผูกไว้ไม่ให้หลุดเวลารถวิ่งเร็วๆ สรุปว่ากว่าจะเสร็จก็เกือบห้าโมงเย็น ก็เลยไม่ได้ขับกลับมาที่นิวยอร์ควันนั้น แต่ขับมาเมื่อวานนี้คือวันอังคารแทน ท่ามกลางฝนและลมโคตรแรง ขับไปลุ้นไปอีกแล้ว

Friday, October 13

Fall is here....And so is winter!!


มาแล้วๆๆจ้า เอารูปใบไม่เปลี่ยนสี(บ้าง)ที่บ้านที่โอไฮโอมาให้ดู เสียดายที่ตอนที่ถ่ายรูปเมื่อสองวันก่อน ใบไม้ยังเปลี่ยนสีไม่เต็มที่ แถมอากาศก็ขมุกขมัว ฟ้าไม่ใสเท่าไหร่ รูปก็เลยออกมาไม่แจ่มมาก อาทิตย์นี่น่าจะเป็นช่วงพีค แต่ก็ไม่ได้อยู่บ้านซะแล้ว

ต้น Dogwood หน้าบ้านที่มีดอกสีขาวๆ ตอนนี้ใบเปลี่ยนสี พร้อมออกลูกด้วย
สีใบไม้เหลืองๆอย่างนี้อ้อมชอบมากๆ ถ้าเห็นต้นใหญ่สีเหลืองทั้งต้น จะสวยมาก แต่แถวบ้านไม่มี ก็เลยได้แต่ซูมๆถ่ายแต่ใบของต้นไม้ไม่ค่อยสมประกอบในทุ่งมา

พุ่มต้นมัม ที่เห็นเป็นทรงผ่ากลางนี่เนื่องจากคุณแมดดี้วิ่งตะลุยกลางพุ่ม ถึงทรงไม่สวยแต่ดอกยังสวยอยู่ ดูเหมือนดอกไม้ปลอม

Photobucket - Video and Image Hosting

แปลงต้นมะเขือเทศทรุดโทรมมาก ตอนอ้อมอยู่บ้าน อ้อมจะคอยตัดคอยแต่ง เอาใบเหี่ยวๆทิ้งไป พอมาอยู่นิวยอร์คได้เดือนนึง ไม่มีใครทำ แมรี่แอนคงเหนื่อยเกิน ตอนนี้ก็เลยโทรมสุดๆ

Photobucket - Video and Image Hosting

แต่ก็ยังออกลูกดกมากกกกกกก เก็บทานกันไม่ทัน ที่สำคัญกินกันจนเบื่อไปแล้ว

------------- จบเรื่อง fall ที่โอไฮโอ ------------

เข้าเรื่อง winter ที่นิวยอร์ค

ตอนนี้อ้อมกับคริสกลับมานิวยอร์คแล้ว ออกจากโอไฮโอเมื่อวานนี้ตอนเที่ยง อากาศหนาวมากกกกกกกก คิดดูว่าสองวันก่อนหน้านี้อุณหภูมิยังสบายๆประมาณ 70F พอฝนตก วันถัดมาลดลงอยู่ที่ 40F แถมลมแรงสุดๆ หนาวไปถึงกระดูก (นี่ขนาดอ้วนขึ้นหนังหนาขึ้นยังรู้สึกว่าหนาว) แถมอ้อมต้องช่วยคริสขนของใส่เทรลเลอร์ ไอ้ตอนจอดรถพักเพื่อเช็คของ มัดของที่เทรลเลอร์นี่ โคตรหนาว เพราะลมแรง ออกจากโอไฮโอมาถึงเพนซิลเวเนีย อากาศก็ยังดีๆอยู่ พอขับขึ้นเหนือติดทะเลสาปถึง Buffalo ในนิวยอร์คเท่านั้นแหละ ฟ้าเริ่มครึ้มๆ ดูแล้วก็คิดว่าฝนตกชัวร์ ที่ไหนได้พอใกล้ถึง Buffalo หิมะตก!!! งงเลย เพิ่งเดือนตุลาเท่านั้น แถมไม่มีพยากรณ์ล่วงหน้าด้วย พอหิมะตกแบบนี้ก็เครียดเลย เพราะหนึ่ง รถกระบะที่ขับลื่นง่ายมาก แถมมีรถพ่วงมาด้วย สอง พื้นถนนบางช่วงเป็นน้ำแข็ง สาม บางช่วงมองไม่เห็นเส้นแบ่งเลนส์เลย ป้ายบอกระยะทาง (mile marker) นี่ไม่ต้องพูดถึง หิมะเกาะเต็มไปหมด สี่ เวลาหิมะตกหนักๆ บวกกับลมแรงๆพัดหิมะไปมา มองออกไปเวลาขับรถเปิดไฟหน้า จะชวนมึนหัวมาก คริสก็เครียดสุดๆ อ้อมก็เกร็งไปด้วยต้องคอยช่วยดูว่าขับอยู่ในเลนรึเปล่า ก็ค่อยๆขับแบบช้าๆกันไป เสียวตูดไปว่าจะใครมาชนมั้ย ยังไม่นับรถบรรทุกยักษ์ๆที่ซิ่งผ่านไปอีก เฮ้อ สงสารคริสมาก

Photobucket - Video and Image Hosting

สุดท้ายก็ขับๆกันจนมาถึง rest stop ที่เห็นในรูปข้างบนนี่ ก็เลยจอดเข้าห้องน้ำ ยืดเส้นยืดสายกันนิดหน่อย แล้วก็ขับกันต่อ โชคดีที่ออกจาก rest stop ได้ไม่ไกล หิมะก็หยุดตก ถนนแห้งขึ้น พอเข้าเมือง Rochester ก็โอเค หิมะไม่ตกเลย คราวนี้ซึ้งมากกับ lake effect snow คืออากาศหนาวบวกกับความชื้นจากทะเลสาปเข้าไป หิมะเลยตกท่วมท้นที่ Buffalo ดีที่ตอนที่ขับผ่านเมื่อวานเป็นตอนหัวค่ำ หิมะตกมาซัก 3-4 นิ้วได้ เช้านี้มาดูข่าวปรากฏว่าทางที่ขับมาเมื่อคืนต้องปิดถนนเลย สนามบินก็ปิด เพราะหิมะตกเกินสองฟุตได้ เฮ้อ โชคดีอีกแล้วนะเนี่ย รูปหิมะตกข้างบนดูสวยซึ้งดี ซึ่งมันก็สวยจริงๆ ถ้าไม่ต้องขับรถผ่าน

Monday, October 9

What generation are you?

รู้จักอะไรเหล่านี้มากกว่า 30 ข้อ

1 เคยไปเมโทร บิ๊กเบล ไดมารูราชดำริ
2 เคยเล่นถ้วยหมุนบนเซนทรัลชิดลม
3 เคยเล่นสวนสนุกบนมาบุญครอง
4 แมคโดนัลเปิดที่แรกที่โซโก้
5 ฟู้ดคอร์ทมีที่แรกที่มาบุญครอง
6 ยังเรียกสถานที่ต่อไปนี้ว่า เวิลด์เทรด รีเจนท์ฮิลตันโดยที่ไม่ยอมจำว่ามันเปลี่ยนเป็นเซ็นทรัลเวิลด์ โฟร์ซีซั่น ราฟเฟิล ส่วนฮิลตันไปเปิดใหม่ตรงแม่น้ำแล้ว
7 เคยกินฟาสต์ฟู้ดเหล่านี้ซึ่งไม่มีแล้ว ทาโก้ ป๊อบอาย เวนดี้โฮเบอร์เกอร์เชคกี้ส์พิซซ่า
8 แฮปปี้แลนด์ แดนเนรมิต ถ้าไม่เคยไปเสียชาติเกิดเป็นที่สุด
9 ดูหนังแบบที่มันมีราคาตามผังที่นั่ง
10 เคยเล่นไอซ์บนเวิลด์เทรด (เห็นมั้ย ยังเรียกว่าเวิล์ดเทรด)
11 ค่าทางด่วนราคา 10 บาทแล้วเปลี่ยนเป็น 15 แล้วเป็น 30 จนถึง 40 ในตอนนี้
12 ดอนเมืองมีแค่ 1 เทอร์มินัล สุวรรณภูมิคืออะไรที่ไม่เคยได้ยิน
13 พ่อแม่เติมน้ำมันทีละ 200
14 เคยใช้ floppy disk แผ่นเท่าจาน
15 คอมไม่มีเมาส์
16 เคยใส่แบรนด์ต่อไปนี้ NEXT, Dr.Martin, Banana Republicเคยใส่กางเกงยีนส์สีต่าง ผู้หญิงเคยผูกโบว์ใหญ่เท่าผ้าสไบ ผู้ชายเคยห้อยกระดิ่งที่รองเท้าไม่รู้ทำไปทำไม
17 เคยมีเพจ ถ้าจะให้ดีต้องรุ่น advisor
18 แต่ก่อนมือถือไม่มี 01 เบอร์บ้านไม่มี 02
19 แต่ก่อนไม่มีชื่อถนนหรือชื่อย่าน แบบนี้ รัชวิภา รัชโยธิน เลียบทางด่วน
20 เคยติด IBC แล้วเปลี่ยนเป็น UTV แล้วมันก็มารวมกันเป็น UBC
21 เคยดู เฮนเบะ บุนบู เมียมนิทานชีวิต แคสเปอร์ผีน้อย บาบ้าปาร์ป้า
22 เคยเรียนดรุณศึกษา หนูมาลีหนูมาลัย หรือมานะมานี
23 สอบเอ็นระบบเก่า วัดใจทีเดียวไม่มีลุ้น
24 ชอบของแถมที่มากับรองเท้าบาจา เช่นโจรสลัดที่อยู่ในถัง
25 คอนเสิร์ตไมเคิลแจ๊กสัน คอนเสิร์ต gun n roses คอนเสิร์ตบอนโจวี่
26 เคยมีเกมกดและพัฒนาเป็นนินเทนโด
27 แม่ชอบอ่านนิตยสาร ลลนา สตรีสาร สกุลไทย สตรีสารจะมีภาคพิเศษสำหรับเด็กด้วยซึ่งมีการ์ตูนน่ารักๆ หลายเรื่อง เช่น ต๋อมจอมยุ่ง เจ้าขนฟู คนพิลึก
28 เกิดทันหนังสือเด็กแนวสมัยก่อน เช่น ปลื้ม ไปยาลใหญ่
29 ชอบกินไอติมโฟร์โมสต์
30 เกิดทันโฆษณายุคหวานใส เช่น ขอเสื้อคืนด้วยค่ะ, อุ๊ยส้มหล่น ,จะให้เธอน่ารักน้อยกว่านี้หรือให้ผมกล้ามากกว่านี้ดีนะ, รักเจรักช็อคโกบาร์
31 เกิดทันยุคหนังวัยรุ่น สะแด่วแห้ว กลิ้งไว้ก่อน มีดารานำจำพวก มอสเต๋าโมทย์
33 ถ้าแก่มากจะทัน พาเลซ โรม ถ้าแก่ไม่มากนักจะทันไวเบรชั่น ชาร์กกี้ ทอรัส ดิสคัฟเวอรี่
34 สามารถบอกชื่อศิลปินค่ายคีตา ได้มากกว่า 3 คนเฉลย : อ้อมสุนิสา นีโน่ ฝันดีฝันเด่น เอ็มสุรศักดิ์ แจ็กจิล เคดีรอม ยูโฟต่อนันทวัฒน์ พงพัฒน์ ยุ้ย ทีสะเกิ๊ต โก้นฤเบศร์
35 นอกจากสามหนุ่มสามมุมแล้วยังทัน ตะกายดาว คนค้นคน นางฟ้าสีรุ้ง
36 จะมีการฺ์ตูนโผล่มาเวลา ช่องทีวีมีปัญหา เช่น นกหัวขวาน
37 ดอลล่าร์ละ 25 บาท ปอนด์ละ 40 โอ้แม่เจ้า เคยมีสมัยนั้นจริงๆ เหรอ
38 เกิดทัน การดูเลเซอร์ มีร้านให้เช่าดูที่สยามด้วย
39 เกิดทันยุคที่นักร้องแกรมมี่ต้องมีเพลงอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอยู่ในอัลบั้ม
40 สยามเซ็นเตอร์และชิดลม ไฟไหม้ในเวลาใกล้เคียงกันทำให้ช่วงนั้นไม่มีห้างจะเดิน
41 คนข่าวสมัยนั้นที่ดัง คือสมเกียรติ์ อรุณโรจน์ วิทวัส
42 ยุทธการขยับเหงือกเทปแรกๆ มีเสนาปัญญา เสนากิ๊ก และก็มีเสนาโค้ก อรุณติ๊กกลิ่นสี แหม่มสุริวิภาส่วนโน้ตอุดม หอย วิทย์มาทีหลัง
43ถ้าท่านใดสามารถตอบได้ว่าวันนี้พี่เบิร์ดร้องเพลงกี่เพลง/ติ๊นาเปลี่ยนเสื้อผ้าทั้งหมดกี่ชุดจได้รับนาฬิกาคาเรร่าสำหรับสุภาพบุรุษ 1 เรือนและสุภาพสตรี 1 เรือนสำหรับเงินค่าเข้าประตูในวันนี้จะนำไปซื้อตู้ยาพร้อมเครื่องเวชภัณฑ์ให้โรงเรียนวัดไผ่อีเห็น
44 ชอบพูดว่าตัวเองยังไม่แก่ แต่ที่แท้เวลาได้ยินเพลงสมัยก่อนจำพวกเจ นูโว ยูเอชทีจะยิ้มแป้น แถมยังชอบไปดูคอนเสิร์ตย้อนยุคทั้งหลายและชอบไปที่เที่ยวที่เปิดเพลงเก่า
45 สมัยนั้นโบจ๊อยก็ว่าโป๊มากแล้วเจอเกิร์ลลี่เบอรี่เข้าไปโบจ๊อยกลายเป็นมิดชิดไปเลย
46 ยังไม่มี airport tax
47 เกลียดยาแดง แสบชิบหาย
48 ฮิตเสื้อนักศึกษาตัวใหญ่ หรือพอดีๆ ไม่ใช่รัดติ้วเป็นแหนมมัดเหมือนสมัยนี้
49 ซูกัส ทรีบอล์ ห่อเป็นแบบท็อฟฟี่ คอร์นพัฟเป็นถาดดึงออกมาป๊อกกี้แกะกล่องจากด้านบนไม่ใช่ตรงกลางแบบนี้ และยังมี มั้นมัน ทวิสตี้จิ๊กกะดี้ ริงโก้ กาก้า
50 เคยดูเขาทราย เขาค้อ สามารถ ซึ่งเวลาต่อยแข่งถนนโล่งไปหมดไม่มีคนออกจากบ้าน

ถ้ารู้จักมากกว่า 30 ข้อ แสดงว่าคุณแก่นะครับ


I got this from a forwarded email. I'm sure a lot of you have seen it, but I can't help posting it here. It made me smile. (^0^) I don't think I'm old, just a 'former' generation.

Thursday, October 5

I'm back in Ohio...

We came back from NY yesterday. Chris has to be in scary Gary, Indiana for a few days for another short job. They are draining the tank in NY anyway, so the crew have to wait to wait until next week before they can go in and start working on the inside of the tank. (They just finished painting the outside.)

Chris took off to Gary this morning with the laptop and the camera. So i'm left here at home with no computers with Thai font (hence, I'm writing in English.) and no camera to take pictures of beautiful color-changing trees outside!! It's getting to be very pretty around here. Chris is coming back on Sunday afternoon, and we'll be going back to NY on Tuesday. I hope I can take some pictures here on Monday. Until then, I don't know if I'll be updating my blog again. It's no fun writing in English any more!!

The only good thing about staying home for a few days is that I get to spend time with Maddie. The good thing about staying home without Chris is that we'll have just enough time apart to miss each other again. haha We've spent so much time together lately. Not that it's bad, but maybe being apart for a short while can spice things up between us a bit. hehe

P.S. I feel like eating Kai' Ko-lae today. I miss Pattani food!! I miss Grandma (Khun Yaay)'s cooking too. I guess I'll have to be happy with leftover steak from last night for now. (-_-")

Sunday, October 1

แมดดี้ลูกแม่.....

ตั้งแต่มาที่นิวยอร์คนี่ ทุกอย่างก็โอเค ได้มีเวลาอยู่คนเดียว สบายดี เสียอย่างเดียว คิดถึงแมดดี้มากกกกกกกกกก ตอนแรกคิดว่าจะเอาแมดดี้มาอยู่ด้วยทีหลัง หลังจากดูโรงแรมแล้วว่าโอเค แมดดี้อยู่ด้วยได้ เอาเข้าจริง ถึงโรงแรมที่อยู่นี้จะโอเคแต่ก็ไม่ดีสำหรับแมดดี้เท่าที่บ้านอยู่ดี อ้อมก็ให้คริสคอยถามแมรี่แอนว่าแมดดี้อยู่บ้านเป็นไงบ้าง ตอนแรกแมรี่แอนก็เหมือนจะบ่นๆว่า แมดดี้เป็น pain in the butt แต่พอมาอาทิตย์หลังนี้ พ่อคริสเริ่มมาแนวแบบ เอ ถ้าแมดดี้มาอยู่นิวยอร์คคงจะไม่สะดวกนะ ไม่มีที่ให้วิ่งเล่น ต้องปรับตัวเยอะ ที่สำคัญลอรี่ก็คอยเทรนอยู่เกือบทุกวัน และแมรี่แอนก็พาแมดดี้ไปโรงเรียน (obedience school)ทุกวันจันทร์ด้วย อ้อมก็คิดในใจ ตรูว่าแล้ว พ่อแม่คริสหลงแมดดี้แล้วแน่ๆ ฮ่าๆๆ สรุปว่าระยะหลังนี่แมดดี้ทำตัวเรียบร้อยและที่สำคัญอ้อนเก่งมาก ชอบเรียกร้องความสนใจขอให้คนโน้นคนนี้เล่นด้วย โดยเฉพาะพ่อคริส (คาดว่าพ่อคริสคงตามใจให้ขนมกินบ่อยๆ พอๆกับแมรี่แอนที่ชอบแจกแหลก)ก็เลยเอาเป็นว่าให้แมดดี้อยู่บ้านไปนั่นแหละ ดีที่สุด แต่อ้อมน้ำตาตกใน ฮือ... คิดถึงมันนะ ไม่ได้เจอมาเกือบเดือนแล้ว

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาลอรี่พาหมามาประกวดแถวที่นิวยอร์คนี่ แล้วก็เอาแมดดี้ติดมาด้วยเพื่อฝึกให้ชินกับการไปตามโชว์ต่างๆ เย็นวันนั้นก็เลยนัดเจอกับลอรี่ทานข้าวเย็นด้วยกัน จะได้เจอแมดดี้ด้วย อ้อมกับคริสก็ตื่นเต้น เอ แมดดี้จะจำมอมมี่กับแดดดี้ได้มั้ยเนี่ย เปิดกรงออกมาเธอก็กระโดดใส่ แล้วก็หันไปดูอย่างอื่นทันที ฮ่าๆ อ้อมกับคริสสลดไปเล็กน้อย เนื่องจากแมดดี้ไม่ใส่ใจเท่าที่ควร

พอวันเสาร์ลอรี่ก็พาหมาไปประกวด เสร็จแล้วก็เอาแมดดี้มาทิ้งไว้กับอ้อมและคริสที่โรงแรม ให้แมดดี้นอนด้วยหนึ่งคืน คราวนี้แมดดี้กลับมาเป็นแมดดี้ตัวเดิมแล้ว แมดดี้น่ารัก คึกคักเวลาลงเล่นมาก ที่สำคัญยังคอยเดินตามอ้อมอยู่ เวลาอ้อมเข้าห้องน้ำก็เฝ้าอยู่หน้าห้อง ฮือ แล้วก็ยังกระโดดขึ้นมานอนบนเตียงใกล้ๆอ้อมกับคริสเหมือนเดิมเลย

แมดดี้ตัวสูงขึ้นเยอะ ดูไม่เป็นลูกหมาเพราะอายุหกเดือนครึ่งแล้ว ลอรี่บอกว่าน่าจะสูงขึ้นอีกซักหนึ่งนิ้วก่อนจะหยุดโต ซึ่งถือว่าใหญ่มากสำหรับตัวเมียของพันธุนี้
ตอนนี้แมดดี้ก็กลับบ้านไปกับลอรี่เรียบร้อย แต่เดี๋ยวอาทิตย์หน้าอ้อมคงได้กลับไปอยู่บ้านซักอาทิตย์ เพราะคริสต้องวิ่งรอกไปอีกจ๊อบนึง ก็จะได้อยู่แมดดี้อีกหน่อย ก่อนกลับมาอยู่ที่นิวยอร์คอีกนานเลย

Photobucket - Video and Image Hosting

แถมรูปแมดดี้น้ำลายหก อยู่ข้างเตียง อืม...เพราะอะไรน้า

Photobucket - Video and Image Hosting

เฉลย...แดดดี้กำลังหม่ำชิปส์และชีสดิปอยู่