Saturday, December 30

Another good Christmas...

อืม ก่อนเขียนเรื่องคริสต์มาสปีนี้อ้อมย้อนไปอ่านเรื่องคริสต์มาสปีที่แล้วที่เขียนเป็นภาษาปะกิดไว้ในบล็อกเก่า เอามาแปะให้อ่านกันตรงนี้ ถือเป็นการสรุปชีวิตในปีที่แล้วหลังจากที่ย้ายมาอเมริกาไปด้วยในตัวละกัน

January 18, 2006
it's been a while
ok, it's been so looooooooooooong since the last time i logged on to update this blog. not that i've been busy all this time. i'm just lazy, very lazy indeed.

what has happened since my birthday last year? i can say both a lot and not much.

let's recap.

Oct. '05: chris and lori came to thailand after i finished my career as an english teacher (in thailand, for now, anyway). we went to phuket with mom and dad and had a good time although i was down with a bad bad cold almost all the trip. the hotel "Evason Phuket Resort and Spa" wasn't as good as i thought it would be, though. it's too far and everything was expensive in there. and it doesn't cater thais at all. nothing is written in thai, from signs to notes in the room, not even their thai food menu. the food and the services were great, though, i have to give them that.
after the trip, it was the period of saying godbye to everyone, co-workers, students, friends, and family. tears, tears, tears, and tears!!!

i left thailand on oct. 19. it was really nice to be on the plane with chris next to me. couldn't help feeling a little sad inside, though. i was missing my family already. anyhow, we got to detroit, michigan fine. the immigration process didn't take very long. chris was in his 'long-plane-ride' mood, though. and i was also very tired. chris' parents came to pick us up at the airport and it tooks 4 hours to get home from there. we were both exhausted when we got home.

it took me a few days to unpack everything. we took over chris' dad's room. so i have a wall closet and a huge dresser just for all my stuff. and boy, are they full. i was kind enough to dedicate the tv armoire to chris. he still has stuff in the other two bedrooms in the house. haha

Nov. '05: i didn't do much at all. after i was done unpacking, then there was nothing left for me to do. thanksgiving was great, though. chris' brothers, jeff and doug, together with his family, came for a turkey feast. chris' mom, marianne, is a great cook. every dish was good. i'd already gained at least a few pounds by thanksgiving. and i'm sure i gained a few more after that meal.
the monday after thanksgiving, nov. 28, chris and i got married. yes, again...after almost two years since our wedding in bangkok. i officially became one of the three Mrs. Cathis's. the ceremony was very simple. it took 5 minutes. we had it done at the mayor's office with marianne and lori as our guests of honor.

Dec. '05: after we got married, chris and i went to peoria, illinois. chris had to be there for a job. i stayed in the motel room most of the time. we came home a few days before christmas. marianne already had the tree up and the house decorated. the presents for the boys (chris' two nephews, alex and chris) were already piling underneath the tree. chris and i bought almost all of the x'mas presents in thailand before we left, so it wasn't a big headache for both of us. everyone came on x'mas eve, with all the gifts. i couldn't believe how much stuff there was under the tree. actually, they weren't just only under the tree. they were all over the floor in the sun room where the tree was. think about it. chris and i got one or two gifts for every one in the family and everyone else did the same. there are 10 people in the family. each got about 6-7 presents. that's a LOT of presents. on x'mas day, it took us about three hours to open all the presents. i was exhausted by the time i opened my third present. each of us took turns, starting from the youngest one in the family, nephew chris, then alex, and then me!! it felt good, though, to be the third youngest. (i'm 18 years older than alex, but hey, who cares. i'm still the third!) i got a lot of stuff, all nice. chris and i didn't buy anything for each other. x'mas was also our 2nd anniversary. we decided to get a digital camera and an satellite radio for each other, but we waited for the big sales after x'mas. so we didn't celebrate our anniversary, but x'mas was great, nonetheless.

คริสต์มาสปีนี้ก็เหมือนกับปีที่แล้วคือทุกคนในครอบครัวมาฉลองกันที่บ้านพ่อแม่คริส อ้อมกับคริสเองออกจากนิวยอร์คตั้งแต่วันพฤหัส ถึงบ้านตอนบ่ายๆ พอวันศุกร์กับเสาร์ก็โดนพ่อคริสให้ออกไปซื้อของขวัญให้แมรี่แอนและหลานๆเพิ่ม เนื่องจากว่าพ่อคริสเพื่งซื้อทีวีจอแบนมาใหม่ก็เลยอยากซื้อชุดเครื่องเสียงดีๆให้แมรี่แอนได้ฟังซีดีเพลงเก่าๆ บ่ายวันศุกร์อ้อมกับคริสก็เลยต้องออกไปซื้อชุด Home Theater System ชุดยักษ์ กว่าจะได้มาก็ต้องขับไปซื้อที่อีกเมืองนึง ห่างออกไปตั้งชม.ครึ่งแน่ะ แถมกล่องใหญ่มากๆ ดีที่ยัดใส่รถกลับมาได้แบบทุลักทุเลเล็กน้อย

พอวันเสาร์พ่อคริสก็ขอให้ออกไปซื้อของให้หลานๆเพิ่มอีก ด้วยความกลัวว่าของที่ซื้อมาแล้วยังไม่พอ กับให้คริสซื้อของขวัญให้ตัวเองด้วย (แล้วเขาจ่ายตังค์คืนให้) ก็เลยออกไปซื้อเกมกับเครี่องบินจำลองให้หลานๆ คราวนี้อ้อมแอบแถมซื้อกางเกงที่ลดกระจุยที่ร้านแก็ปให้ตัวเองหนึ่งตัว หุหุ คริสก็ได้เกมกับหนังสือของตัวเอง ก่อนไปช็อปปิ้งก็แวะไปที่บ้านทิมกับมาร์ล่าเพื่อเปิดของขวัญคริสต์มาสกันล่วงหน้าก่อน อ้อมได้เสื้อกันหนาวมาหนึ่งตัวเป็น fleece เบาๆแต่อุ่นดี สไตล์ออกแบบ outdoor เล่นสกีอะไรปานนั้น ซึ่งก็ไม่ใช่แบบที่ชอบเท่าไหร่ ตอนนี้เอาไว้ใส่อยู่บ้านไปก่อน คริสก็ได้เสื้อแบบคล้ายๆกัน ส่วนของที่ให้ครอบครัวนี้ อ้อมกับคริสซื้อไว้นานแล้ว มีเสื้อเชิ้ตให้ทิม ชุดเจลอาบน้ำโลชั่นให้มาร์ล่าและรองเท้าบู๊ตให้แซมมี่ตัวแสบ


ครอบครัวทิม ชอบหัวกวาง(ที่ทิมล่ายิงเอง)ใส่หมวกซานต้า ฮ่ะๆ ดูโหดปนขำดี


พอวันอาทิตย์ (X'mas eve)ทุกๆคนก็มาที่บ้านกัน เจฟฟ์กับแนนซี่ แฟนสาวสุดฮ็อตมาถึงก่อน หลังจากนั้นดั๊กกับครอบครัวก็มา แมรี่แอนต้องทำอาหารเช้าตลอดทั้งเช้าเลยวันนั้น พอทานกันเสร็จก็ได้เวลาเปิดของขวัญชุดสเตอริโอของแมรี่แอน เปิดกันก่อนเพราะจะได้เซ็ตอัพระบบซะก่อนวันคริสต์มาส พอบ่ายๆก็เริ่มดื่มเบียร์ รีแล็กซ์กันไป ตกเย็นก็ทานสปาเก็ตตี้มีทบอลล์ที่อ้อมเป็นคนปั้น หลานๆทั้งสองเข้านอนไปก่อน ส่วนผู้ใหญ่ก็นั่งดูหนัง Fast and Furious Tokyo Drift กับ Mission Impossible III ที่เช่ามาเพื่อทดสอบระบบโฮมเธียเตอร์ หนังห่วยทั้งคู่เลย

ตื่นมาเช้าวันคริสต์มาส หม่ำ blueberry waffle กัน พอลอรี่กับชัค(แฟน)และแม่ชัคมาก็เริ่มเปิดของขวัญ กติกาก็คือเรียงตามลำดับอายุ เด็กเปิดก่อน ตอนเปิดก็ต้องบอกให้ทุกคนรู้ว่าเป็นของขวัญจากใครเปิดแล้วก็ต้องประกาศว่าคืออะไรแล้วก็ขอบคุณตามระเบียบ คือแรกๆไอ้ระบบนี้มันก็โอเค แต่เนื่องจากของมันเยอะเหลือเกิน จะมาทำแบบนี้ทุกรอบก็ไม่ไหว พอทำไปซักสองรอบ งานนี้ก็มั่วแล้วฮ่ะ เอาของออกมากองๆกันแล้วก็เปิดๆเลย คือมันได้กันคนละหลายชิ้นมากๆ นี่ขนาดปีที่แล้วพูดกันว่าจะลดปริมาณของขวัญลงแล้วนะ ดูรูปบรรยากาศที่แนนซี่ถ่ายเป็นรูปขาวดำ ปีนี้ไม่มีหิมะไม่เป็น white christmas เลยขอใส่เอฟเฟ็คท์หิมะในสไลด์หน่อย



Photobucket - Video and Image Hosting

คริสกับอเล็กซ์แกะของขวัญชิ้นแรก

Photobucket - Video and Image Hosting

เครื่องบินบังคับที่อ้อมกับคริสไปตามหาซื้อมาให้ตามที่พ่อคริสบอก

Photobucket - Video and Image Hosting
คริสใส่เสื้อทีมฟุตบอลที่อ้อมกับคริสซื้อให้

Photobucket - Video and Image Hosting

อเล็กซ์แกะของขวัญ

Photobucket - Video and Image Hosting

เจฟฟ์โชว์บัตรของขวัญที่ได้

Photobucket - Video and Image Hosting

ลอรี่กับชัค


ปีนี้อ้อมได้รองเท้าบู๊ตหนึ่งคู่ สเวตเตอร์หนึ่งตัว ผ้าพันคอหนึ่งผืน เจลอาบน้ำสองขวด โลชั่นหนึ่งขวด(มั้ง)ถุงเท้านิ่มๆไว้ใส่อยู่บ้านสองคู่ ชุดบำรุงเท้าและเล็บของ Burt's Bees ผ้าลูกไม้รองโต๊ะ ชุดช้อนส้อม แล้วก็บัตรของขวัญร้าน T.J. Max อาจจะมีอย่างอื่นอีกแต่จำไม่ได้แล้ว พ่อคริสแจกตังค์ด้วย อารมณ์เหมือนแต๊ะเอียเลย ของให้คริสปีนี้อ้อมทำเซอร์ไพรส์เล็กน้อย สั่งซีดี U2 มาสามแผ่นทางอินเตอร์เน็ต (คือมันไม่ได้มีโอกาสไปไหนเองโดยที่คริสไม่อยู่ด้วย) ของที่คริสให้อ้อมก็คือกระเป๋าโค้ชที่ซื้อที่ออร์แลนโด้ ซึ่งคริสให้เอาออกมาโชว์ด้วย แนนซี่กับคาซุมิก็กรี๊ดกันไปตามประสาสาวๆ ฮ่าๆ

อ้อ จริงๆแล้ววันนั้นคือวันครบรอบแต่งงานปีที่สามของอ้อมกับคริสด้วย อ้อมก็แอบเซอร์ไพรส์ให้การ์ดคริสไปสองใบ ไม่มีอะไรมาก เซ็งเหมือนกัน มันตรงกับเทศกาลก็เลยไม่ได้ฉลองกันสองคน แต่ก็ไม่เป็นไร

พอแกะของขวัญกันเสร็จก็พักผ่อนกัน บ่ายแก่ๆก็ทานข้าวเย็นเป็นอาหารเทศกาลทั้งหลาย มีแฮม, cheesy potatoes, baked green beans, ambrosia, cranberry sauce หลังจากนั้นทุกคนก็ทยอยกันกลับบ้าน

ก็ผ่านไปอีกปีสำหรับคริสต์มาส แป๊บๆก็ฉลองคริสต์มาสที่นี่กับครอบครัวคริสไปสองรอบแล้ว(ไม่นับสองปีก่อนแต่งงาน) ปิดท้ายด้วยรูปหมู่

Photobucket - Video and Image Hosting


Photobucket - Video and Image Hosting

Thursday, December 28

ต๊ะไว้ก่อน...เดี๋ยวมาเขียนค่ะ

วันนี้เปลี่ยนสีบล็อกหลังคริสต์มาสจบไป แต่ยังไม่ได้ build อารมณ์เขียนเรื่องคริสต์มาสเท่าไหร่ (ทำราวกับว่าตัวเองเป็นศิลปินต้องมีอารมณ์ก่อนถึงจะเขียน ฮ่าๆ)

ตอนนี้อยู่นิวยอร์คแล้วด้วยค่ะ เพิ่งกลับมาเมื่อวาน เดี๋ยวขอเวลาอีกนิดจะเขียนเรื่องคริสต์มาสให้อ่านค่ะ

ปล. ขอขอบคุณเว็บ wellstyled.com สำหรับ color scheme ของบล็อก ใครที่ใช้ blogger ตัวใหม่แล้วไม่ถูกใจกับสีที่เค้าให้มา คลิกที่นี่เข้าไปดู color scheme generator ได้ อยากได้สีไหนก็ก็อปโค้ดไปใส่ใน html template ของตัวเองได้ค่ะ

Saturday, December 23

Merry Christmas

เปลี่ยนสีบล็อกให้เข้ากับเทศกาลค่ะ ตอนนี้อยู่บ้านแล้ว วันนี้วันเสาร์ พรุ่งนี้พี่ๆคริสก็จะมาค้างคืนกันที่บ้านรอเปิดของขวัญวันคริสต์มาสวันจันทร์ ของขวัญใต้ต้นคริสต์มาสเริ่มกองใหญ่ขึ้นเรื่อยๆแล้วค่ะ รูปต้นคริสต์มาสที่เห็นข้างล่างนี่คือต้นที่บ้านที่แมรี่แอนตกแต่งเองนะคะ เป็นต้นปลอมแต่ก็สวย ถ่ายรูปไว้ตั้งแต่สองอาทิตย์ที่แล้วตอนยังไม่มีของขวัญ กว่าจะถึงคริสต์มาสของก็คงกองล้นใต้ต้น กินเนื้อที่ครึ่งห้องได้ (คอบครัวใหญ่ค่ะ)

Photobucket - Video and Image Hosting

ornaments ทั้งหลายเป็นของเก่าที่แมรี่แอนค่อยๆเก็บสะสมมาทั้งนั้น มีลูกบอลของคริสสมัย high school ขวดแชมแปญขวดเล็กๆที่เห็นตกทอดมาจากคุณยายคริส สังเกตุปีนะคะ 1919





Merry Christmas ทุกๆคนค่ะ
มีความสุขกับครอบครัวในวันหยุดนี้นะคะ

Photobucket - Video and Image Hosting

ปล. คิดถึงบ้านมากๆเลย วันหยุดอย่างนี้เป็นวันครอบครัวจริงๆ คืดถึงพ่อ แม่ พี่แอ้มที่สุดค่ะ

Tuesday, December 19

Florida Trip: Days 5-6

ขอสรุปที่ไป Disney World หน่อยว่าประทับใจมากๆ เหมือนกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง ได้อยู่ในโลกแห่งจินตนาการ เที่ยวทั้งวันไม่เจออะไรที่ทำให้หงุดหงิดเลย มองไปทางไหนก็มีแต่ครอบครัว เด็กๆเต็มไปหมด ทึ่งมากๆว่าคุณ Walt Disney แกจินตนาการกว้างไกลจริงๆ ตึกแต่ละตึกของเครื่องเล่นต่างๆนี่ดูข้างนอกก็ไม่ใหญ่ แค่พอเข้าไปเดินวนไปวนมาอยู่ข้างไหน โห ทำไมมันกว้างใหญ่จัง engineered ดีมากๆ ที่สำคัญคือเขาสร้างมาให้รองรับคนเยอะๆได้ดีมากๆ จริงๆช่วงที่อ้อมไปเขาบอกว่าเป็นช่วงที่ดีที่สุด (หลัง Thanksgiving ก่อน Christmas) คือคนไม่เยอะแล้วแต่มันก็เยอะอยู่ดี แต่การจัดการคนเขาดีมากๆ อย่างตอนที่ดูพลุเสร็จ เดินมาขึ้นรถไฟไปลานจอดรถ แค่ยี่สิบนาทีอ้อมกับคริสก็ออกมาอยู่บนไฮเวย์เรียบร้อยแล้ว กลับโรงแรมแบบอิ่มเอมใจมากๆ นอนอมยิ้มหลับเลย

แต่แล้ว......วันรุ่งขึ้นตื่นขึ้นมา อ๊ากกกกกกส์ จิตใจที่เป็นเด็กเมื่อวานแหลกสลายไปค่ะ ร่างกายมันเตือนว่าเราแก่แล้วนะ เดินมากๆอย่างนี้ไม่ไหวนะ ปวดขามากๆๆๆๆๆ ช่วงน่องงี้อย่างกับมีใครเอาค้อนมาทุบๆๆ บีบนิดนึงก็เจ็บแล้ว ยิ่งเวลาเดินลงบันไดนี่ ปวดสุดแสน เดินถ่างๆไปหลายวันเลย กว่าจะหายปวดก็อาทิตย์นึงแน่ะ จริงๆโทษใครก็ไม่ได้ต้องโทษความอยากเก๋ของตัวเอง ดันใส่รองเท้าแตะติดกระพรวนสุดแบนที่ซื้อตอนไปช็อปปิ้งกับโอ๋ไปเดินท่อกๆอย่างนั้นทั้งวัน (วันนั้นคริสเรียกอ้อมว่า Tinkerbell เดินไปที่ไหนรองเท้าก็ดังกรุ๊งกริ๊งๆ อ้อมบอกว่ากันพลัดหลงกันไง)

กลับมาเรื่องทริปวันถัดมา

12/07/06 Day 5: ตื่นแต่เช้าหน่อยแบบระบมๆกันทั้งคู่ เช็คเอาท์ออกจากโรงแรมตอนแปดโมงครึ่ง วันนี้ต้องขับหกร้อยไมล์ไปหาหวานที่เมือง Durham, Northa Carolina ก็ขับขึ้นเหนือกันไป ดูอุณหภูมิลดลงไปเรื่อยๆ กรี๊ดส์ ช่วงนั้นลมหนาวมาพอดี จิตเริ่มตกไม่อยากเจออากาศหนาว แต่ทำไงได้ แค่ได้หลบช่วงที่หนาวจัดๆทางเหนือไปที่ฟลอริด้าก็บุญแล้ว

ไปถึงโรงแรม Washington Duke Inn & Golf Club ที่ฮงแฟนหวานทำงานอยู่และจองไว้ให้ในราคาสุดพิเศษ ห้องธรรมดาปกติคืนละสองร้อยเหรียญ ฮงจองได้ราคา 55 เหรียญรวมแท็กซ์แล้ว วู้ฮู้ ขับเข้าไนโรงแรมก็อึ้งไปนื้ดนึง เพราะโรงแรมมันดูดีจริงๆ ในขณะที่อ้อมกับคริสก็โทรมซะ คิดดูว่าตอนเช็คอินเห็นผู้หญิงใส่เสื้อขนมิงค์ผู้ชายใส่สูทมางานเลี้ยงกัน อ้อมกับคริสมาแบบสุดโทรม อ้อมก็หน้าตาไม่ได้แต่ง แต่ยังดีใส่รองเท้าบู๊ตเรียบร้อย แต่คุณคริสใส่สเวตเตอร์แมนยูตัวเก่งที่มันเริ่มซีดๆแล้วกับกางเกง lounge pants ที่มีขอบยางยืดรัดข้อเท้าด้วย (กางเกงใส่อยู่บ้านดีๆนี่เอง)กับรองเท้าแตะทับถุงเท้า!! ฮือออออออ อายเค้าซะ เช็คอินเสร็จเดินกลับไปที่รถที่จอดอยู่ bellboy สุดสุภาพก็เข้ามาถามว่าให้ช่วยยกกระเป๋ามั้ย ต้องรีบบอกไปทันทีว่าไม่ต๊องไม่ต้อง คือไม่มีเงินสดเหลือติดตัวกันเลยฮ่ะตอนนั้น มิสามารถให้ทิปได้ แถมตอนเปิดประตูรถ ไฟในรถก็จะติดมองไปในรถงี้อ๊ายอายเพราะรถรกมากๆ พอขึ้นรถกันก็ขำกันซะ ตรูเช็คอินโรงแรมสี่ดาวในชุดรองเท้าแตะ แถมเงินก็ไม่มีติดตัว ฮ่าๆ

เดินลากกระเป๋ากันขึ้นห้องแบบเหนียมๆหน่อย เสียบกุญแจเปิดประตูห้องเข้าไป โอ้ ว้าว ห้องสวยจัง เอ มันมีห้องรับแขกด้วย ว้าย นี่มันห้องสวีทนี่นา สรุปว่าฮงอุตส่าห์อัพเกรดห้องให้เป็นห้องสวีทที่ราคาปกติคืนละสี่ร้อยเหรียญ วู้ฮู้อีกรอบ ขอแต๊งกิ้วฮงมากๆอีกรอบจ้า ดูรูปห้องนะคะ สวยเรียบและสบายมากๆ



Photobucket - Video and Image Hosting

แถมยังมีเซอร์ไพรส์จากหวานและฮงด้วย การ์ดอวยพรครบรอบแต่งงานล่วงหน้าและ chocolate truffles ที่ฮงทำเอง ขอบใจมากๆจ้า รสชาติเข้มข้นอร่อยสุดๆ ฮงควรทำขายได้

พักกันนิดๆ คริสเปลี่ยนกางเกงเป็นกางเกงยีนส์ใส่รองเท้าคัทชู ดูดีขึ้นมานิดนึง ฮ่าๆ แล้วฮงกับหวานก็มาหา พาไปทานข้าวเย็นที่ร้านจีนที่อร่อยมากๆ

Photobucket - Video and Image Hosting

หวานกับฮง หวานคือลูกพี่ลูกน้องคนเก่ง(และสวย)ของอ้อมที่เรียนที่ Duke University

Photobucket - Video and Image Hosting

หิวจัดเลยไม่ได้ถ่ายรูปอาหารตอนก่อนทาน สั่งมาเยอะมาก มีติ่มซำกับซาละเปาด้วย แต่เหลือแค่นี้แหละ จานทางขวาคือปลานึ่งซีอิ๊วที่อร่อยมากๆ (อ้อมไม่ได้ทานปลามานานมากๆแล้ว เจอจานนี้เข้าไปได้ทานปลาดีๆกินสมใจอยาก) มื้อนี้ฮงกับหวานเลี้ยงอีกต่างหาก

Photobucket - Video and Image Hosting

ถ่ายรูปคู่กับหวานนิดนึง

Photobucket - Video and Image Hosting

ทานเสร็จขับรถไปวนดู Duke Chapel หน่อย

Photobucket - Video and Image Hosting

อากาศหนาวมากๆ ลมก็แรง รีบๆวิ่งไปดูถ่ายรูปมือสั่นๆได้แค่นี้

กลับโรงแรมเข้านอน กรี๊ด มี turn down sevice มาเปิดผ้าคลุมเตียงไว้ให้เรียบร้อยพร้อมช็อกโกแล็ตอีกสองชิ้นเล็กๆ เตียงสบายมากกกกกกกกกกกๆๆๆๆ หมอนก็หนานุ่ม คริสเข้าเตียงไปก่อนอ้อมตั้งนาน พอลงนอนในผ้าห่มแล้วไม่ลุกอีกเลย ฮ่าๆ ปกติคริสเข้านอนหลังอ้อมทุกคืนนะ


12/08/06 Day 6: วันรุ่งขึ้นอ้อมกับคริสสั่งอาหารเช้า room service มาปรนเปรอตัวเอง ไหนๆได้ค่าห้องถูกแล้ว

อาหารเช้าโดยเฉพาะแพนเค้กอร่อยมากๆ หอมสุดๆ น้ำส้มคั้นก็คั้นสดๆแน่นอน

อิ่มหมีพีมันแล้วก็อาบน้ำขัดสีฉวีวรรณด้วยสบู่ oatmeal สุดดีของโรงแรมแล้วก็แต่งตัวเก็บของเช็คเอาท์ออกมา ว่าจะไปเดินไปเจอหวานที่ Chapel แต่เนื่องจากวันนั้นอากาศหนาวมากๆๆๆ อุณหภูมิติดลบ เลยเดินไปจากโรงแรมไม่ไหว ขาอ้อมก็เดี้ยงอยู่ก็เลยขับรถไปแทน จริงๆมันก็ไม่ไกลเลยแหละ จอดรถเจอหวานเสร็จก็เดินไปดู Duke Chapel อีกรอบ เข้าไปหาซื้อของที่ระลึกใน bookstore ของมหาวิทยาลัยก่อน ปกติร้านในแคมปัสแบบนี้จะมีเสื้อยืดที่เขียนว่า Duke Mom, Duke Dad ขายให้ครอบครัวนักศึกษา อ้อมพยายามเดินหา Duke Cousin แต่มันไม่มีอ่ะ ฮ่าๆ แหม เราภูมิใจของเรา ลูกพี่ลูกน้องเรียน Duke อุตส่าห์จะหามาใส่ยืดบ้าง เลยได้มาแค่เสื้อยืด Duke soccer ของคริสกับเสื้อยืดเขียนว่า Duke ธรรมดาๆของอ้อม



ตึกเก่าๆในแคมปัส แดดแรงฟ้าใสสวยแต่หนาวสะท้านสุดๆ

Photobucket - Video and Image Hosting

หน้า Duke Chapel


ข้างในโบสถ์ สวยดี เป็นโบสถ์แบบ gothic ยอดแหลม ข้างในมีหลุมฝังศพตระกูล Duke ด้วย

เสร็จจากนี้ก็ร่ำลาหวาน ถ้าพี่ว่างช่วงหวานรับปริญญาสปริงปีหน้าก็จะไปหาอีกรอบนะจ๊ะ ออกจากแคมปัสก็ขับรถขึ้นเหนือกลับบ้าน ผ่าน Virginia ที่วิวสวยก็พยายามถ่ายรูปมา


ขับถึงบ้านตอนสองทุ่มครึ่ง เพลียเหมือนกัน แต่ทริปนี้คุ้มมากๆ ได้ทำอะไรที่อยากทำทุกอย่าง ไม่ว่าจะดู Cirque du Soleil ไป Disney World หรือมาแวะเยี่ยมหวาน ได้พักที่โรงแรมดีๆ คริสได้หายเครียดเรื่องงานไปหน่อยนึง (ตอนหลังแอบมาบอกว่ารู้สึกผิดนิดๆที่ไม่ได้อยู่คุมจ๊อบที่นิวยอร์ค แต่อ้อมไม่รู้สึกผิดไปด้วยนะ แอบดีใจอีกต่างหากที่ไม่ได้อยู่ที่นิวยอร์คตอนมันหนาวสุดๆ ฮ่าๆ) ทริปนี้เหมือนเป็นทริปเติมพลังได้ชาร์จแบต ตอนนี้อารมณ์อ้อมดีขึ้นเยอะ รอแพลนทริปหน้าต่อไป ^.^ อุอุ

Monday, December 18

Florida Trip: Day 4 (4)

หลังจาก Splash Mountain ก็ค่ำแล้วค่ะ ตอนนั้นหิวกันมากๆ เดินหาร้านอาหารทานกัน ร้านที่ไม่ใช่ฟาสต์ฟู้ดก็เต็มทุกร้าน แต่จะให้กินเบอร์เกอร์หรือฮอทดอกก็ไม่เอาแล้วล่ะ เลยเดินๆกันไปจนถึง Main Street U.S.A. ข้างหน้า เจอะร้านอาหารอีกร้านก็เลยใส่ชื่อจองที่ไปเลย แล้วก็นั่งรอโต๊ะ เขาบอกว่า 45 นาที - ชม.นึง เอิ๊กส์ คริสก็นั่งรอแบบหมดแรงสุดๆ ส่วนอ้อมยังพอไหวขออกไปเดินถ่ายรูปตอนกลางคืนหน่อย ที่ยังไม่กลับโรงแรมเนี่ยเพราะจะอยู่ดูพลุตอนสองทุ่มค่ะ

Photobucket - Video and Image Hosting

ไฟสวยเชียว คนก็เยอะ นั่งจองที่กันข้างถนนรอดูพาเหรดรอบทุ่มนึง

Photobucket - Video and Image Hosting

คึกคักมาก ทั้งผู้ใหญ่ผู้เด็ก

Photobucket - Video and Image Hosting

ตู้โชว์หน้าร้านขายนาฬิกาของที่ระลึก

Photobucket - Video and Image Hosting

Photobucket - Video and Image Hosting

Photobucket - Video and Image Hosting

ไฟที่ปราสาทซินเดอเรลล่าเปลี่ยนสี

เดินกลับมาถ่ายรูปที่ร้านขายของต่อ ถือคติไม่ซื้อถ่ายรูปอย่างเดียว ถึงของมันจะน่ารักขนาดไหนก็เถอะ

กลับมาถึงร้านอาหาร ยังไม่ได้โต๊ะเลย แถมคริสสภาพเป็นอย่างนี้ไปซะแล้ว

Photobucket - Video and Image Hosting

แต่รออีกไม่นานก็ได้โต๊ะ สั่งไม่มากอย่าง แอ๊พหนึ่ง จานหลักหนึ่ง

Photobucket - Video and Image Hosting

อาหารก็อ่ะนะ ราคามหาโหด สั่งเสร็จเขาก็เอาขนมปังเย็นๆกับ sun-dried tomato dipping มาเสิร์ฟ ดิปปิ้งอร่อยแต่ขนมปังเย็นเชียว

Photobucket - Video and Image Hosting

สลัด tamatoes and mozzarella ก็อร่อยนะ สงสัยเพราะหิว ใบ basil ที่แปะมางี้เหี่ยวเชียว

Photobucket - Video and Image Hosting

จานหลักสั่งมาแบ่งกัน เรียกว่า Chicken Florentine มั้งถ้าจำไม่ผิด ก็พอแหลกล่าย มันบดออกอาการแข็งแบบวางตากลมไว้นานแล้ว

จริงๆสั่งของหวานด้วย แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมา สรุปว่าอาหารเฉยๆมาก ถ้าไม่หิวคงไม่อร่อยเท่าไหร่ แต่ก็เห็นใจเขา ร้านต้องรับรองคนจำนวนเยอะมากๆ จะให้พิถีพิถันแบบร้านดีๆทั่วไปคงไม่ได้ (แต่ราคางี้สุดโหด จ่ายเท่านี้ ทานข้างนอกคงกินราวกับราชา)

ทานเสร็จได้เวลาดูพลุพอดี สวยซึ้งมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ตระการตาสุดๆ

พยายามถ่ายรูปแล้วไม่เวิร์ค ก็เลยถ่ายวิดีโอคลิปมาด้วย แต่ไฟล์ช่วง grand finale มันใหญ่ไปเอาลงเน็ตไม่ได้ (คืออ้อมยังย่อไฟล์ไม่เป็น) ดูช่วงกลางๆไปก่อนละกันนะคะ เพลงประกอบก็อาจจะฟังอู้อี้หน่อย ออกแนวหลอนนิดๆ ฮ่ะๆ ตอนดูพลุนี่อ้อมยิ้มแบบมีความสุขมาก คริสบอกว่าเห็นอ้อมยิ้มแล้วชื่นใจ อร๊ายยย เขิน


ดูพลุเสร็จก็รีบเดินไปขึ้นรถไฟฟ้ากลับไปที่รถโดยด่วนก่อนคนจะเยอะมากๆ กลับไปสลบที่โรงแรม วันรุ่งขึ้นก็ออกจากฟลอริด้าไปหาหวานที่ Durham, North Carolina

Saturday, December 16

ถึงหยูเพื่อนรัก

ขอคั่นเรื่องทริปมาอวยพรเพื่อนสุดที่รักมักที่เลิฟก่อน วันนี้ก็ถึงวันที่เพื่อนเป็นฝั่งเป็นฝาเสียทีนะ เสียดายมากๆเลยที่ไม่ได้ไปงาน (จริงๆอยากไปหัวหินอ่ะ ฮ่าๆ) เมื่อกี้ก็พยายามโทรเข้ามือถือของเพื่อนๆ แต่ไอ้บัตรโทรศัพท์ใบใหม่มันเฮงซวยไม่เห็นใจคนไกลบ้านโทรไม่ติดซักที เลยอดอวยพรเจ้าสาวด้วยตัวเองเลย ยังไงก็ขอฝากความคิดถึงทั้งหมดจากเพื่อนคนนี้ไว้ที่โพสต์นี่ละกันนะ

ขอให้หยูกับป๊อปรักกันให้มากๆ มีอะไรก็ค่อยๆคุยกัน ขอให้สร้างครอบครัวที่แข็งแรงมั่นคงและอบอุ่นร่วมกันนะจ๊ะ

ปล. 1 อย่าลืมส่งรูปมาให้ดูเยอะๆด้วย (อันนี้บอกเพื่อนๆคนอื่นด้วย เอารูปมาดูซะดีๆ)
ปล. 2 ถ้าจะมีลูกรีบมีเลยนะ ไม่ต้องรอชั้นมีก่อน ฮ่าๆ
ปล. 3 นามสกุลใหม่อะไรอ่ะ เออ ป๊อปชื่อจริงชื่ออะไรยังไม่รู้เลย

Florida Trip: Day 4 (3)

จากนั้นก็เดินไป Tomorrowland โลก(สมมติ)อนาคต เป้าหมายคือ Space Mountain ซึ่งเป็นรถไฟเหาะในอวกาศ(ที่แคบๆมืดๆ) อ้อมแอบเสียวเล็กน้อยเพราะไม่ได้นั่งรถไฟเหาะมานานแล้ว แถมไม่ค่อยถูกกับอะไรแบบนี้ซักเท่าไหร่ บางทีแค่นั่งรถธรรมดายังมึนเลย แต่ก็เอาวะ มาแล้วต้องเล่น คริสบอกของที่นี่มีแต่ระดับเดะๆ kiddyๆ อ้อมไม่เป็นไรหรอก

Photobucket - Video and Image Hosting

ทางเข้า Tomorrowland

Photobucket - Video and Image Hosting

อ้อมว่าส่วน Tomorrowland นี่เป็นส่วนที่ดูเก่าที่สุดในปาร์ค คือแทนที่จะดู เป็นโลกอนาคตดูมันย้อนยุคแบบเชยๆยุค 70's มากๆ ก็คงเป็นเพราะว่ามันมีมาตั้งแต่ช่วง 70's ที่ Disney World เปิดนั่นแหละ การดีไซน์เลยเป็นยุคนั้นแต่ก็น่ารักดี

Photobucket - Video and Image Hosting

ก่อนไปเล่น Space Mountain แวะไปเล่น Buzz Lightyear's Space Ranger Spin ก่อน นั่งรถที่บังคับให้หมุนซ้ายขวาได้ มีปืนเลเซอร์ให้คนละกระบอกคอยยิงเป้าตามข้างทางเก็บคะแนน ดูเหมือนให้เด็กเล่นแต่มันส์ดีแฮะ แต่เจ็บใจมากเนื่องจากคริสเป็นคนบังคับซ้ายขวา อ้อมเลยไม่สามารถยิงเป้าทางด้านอ้อมได้เท่าไหร่ คนิสทำคะแนนได้เกินครึ่งแสน อ้อมได้แค่ไม่ถึงหมื่นเลย ฮึ

จากนั้นก็ไปต่อคิวสักประมาณ 15 นาทีก็ได้ขึ้นรถไฟเหาะ Space Mountain มันส์มาก เร็วและหักเลี้ยวแคบๆหลายรอบ ทั้งขบวนรถมีอ้อมกรี๊ดๆอยู่คนเดียว ตอนลงจากรถคนที่นั่งข้างหน้าถึงกับหันมาดูหน้าอ้อม ฮ่าๆ เขาคงคิดในใจว่าคิดดี้ๆเดะๆแค่เนี้ยะ กรี๊ดทำไม อย่างที่คริสบอกว่าจริงๆมันไม่ได้น่ากลัวมากเลย แบบเด็กๆก็เล่นได้มากกว่า คริสบอกว่าอยากเล่นของจริงต้องไป Cedarpoint สวนสนุกในโอไฮโอที่ติดอันดับโลก อันนั้นอ้อมไม่ไหวชัวร์ๆ หัวใจวายคารถไฟแน่ๆ

เสร็จจากนั้นมาแวะร้านขายของ แต่ไม่ซื้ออะไรเลยอีกรอบ

Photobucket - Video and Image Hosting

ขอใส่หูมินนี่หน่อย ต้อนรับคริสต์มาส

Photobucket - Video and Image Hosting

เรนเดียร์มิกกี้ตัวอวบกับซานต้ามิ่นนี่ ฮ่าๆ

Photobucket - Video and Image Hosting

เดินกลับไป Fontierland มีพาเหรดรอบแรกพอดี

Photobucket - Video and Image Hosting

ตอนนั้นสองลุงป้าก็เริ่มเหนื่อยแล้วค่ะ เดินกันไปแบบเหี่ยวๆ จะไปขึ้น Splash Mountain แต่คนเยอะก็เลยไปเสียบตั๋วรับ fastpass ซึ่งเป็นตั๋วที่ทำให้เราสามารถกลับมาที่เครื่องเล่นได้ในเวลาที่กำหนดเพื่อที่จะไม่ต้องต่อคิวเดินไปข้างหน้าแถวได้เลย วันนั้นคนไม่เยอะ ได้เวลารอแค่ชม.เดียว

ระหว่างรอ คริสก็หลบไปสูบบุหรี่ตามเคย อ้อมก็ทำตัวพลังเยอะ ไปขึ้น Swiss Family Tree House บ้านต้นไม้(ปลอม) ตอนเดินกลับไปหาคริส สวนกับคนเอเชียครอบครัวนึงเดินกันมา คนนึงในนั้นหน้าเหมือนเพื่อนเก่ามากๆ แต่ปากหนักไม่ได้ลองทัก กลับมาหาคริส คริสยังถามเลยว่าเห็นคนไทยกลุ่มนั้นรึเปล่า (คริสนี่ก็เก่ง แยกได้ออกด้วย) อ้อมบอกเห็นแถมเหมือนเห็นเพื่อนด้วย แต่ไม่ได้ทัก แง้ เสียดายมากๆเลย ออนนี่จ๊ะ ถ้าอ่านบล็อกพี่อยู่ก็บอกกันด้วยนะ ว่าใช่ออนนี่หรือเปล่า

ระหว่างรอขึ้น Splash Mountain ก็อยากไปถ่ายรูปกับมิกกี้ ก็เลยต้องกลับไปที่ Toontown คราวนี้ฉลาดแล้ว ไม่ขอเดิน ขอนั่งรถไฟที่วิ่งวนๆรับคนอยู่ในปาร์คแทน

Photobucket - Video and Image Hosting


Photobucket - Video and Image Hosting

รถไฟผ่าน Big Thunder Mountain Railroad รถไฟเหาะแบบเบบี้ๆ อันนี้อ้อมกับคริสกลับมาขึ้นก่อน Splash Mountain

Photobucket - Video and Image Hosting

หน้าตารถไฟที่วิ่งวนไปวนมาในปาร์ค แบบโบราณๆน่ารักดี ขึ้นรถกันทุกคนแล้วคนขับจะตะโกนว่า "All Aboaaaaaaaaaaard!"

Photobucket - Video and Image Hosting

นั่งไปแป๊บเดียวก็ถึง Mickey's Toontown Fair (กลุ้มใจ เพิ่งฉลาดเอาตอนบ่าย ตอนเช้าเดินซะเมื่อยไปหมด) ลงที่สถานีแล้วก็เดินไปบ้านพี่มิกกี้

เข้าไปต่อคิวถ่ายรูปกับมิกกี้

Photobucket - Video and Image Hosting

รูปคู่กับมิกกี้ พี่มิกกี้เป็นสุภาพบุรษมากๆ เอาแขนมาให้ควงด้วย (แต่พี่มิกกี้ตัวเล็กกว่าที่คิดอ่ะ อย่างว่าเขาสำหรับเด็กๆ เรามันเด็กควายแล้วก็เลยสูงกว่าพี่มิกกี้อีก เอิ๊กส์)

Photobucket - Video and Image Hosting

รูปหมู่ =^_^=

Photobucket - Video and Image Hosting

ก่อนจาก พี่มิกกี้หอมมือด้วย วุ้ย แอบเขินอ่ะ อิอิ

อิ่มเอมใจได้เจอมิกกี้เสร็จก็นั่งรถไฟกลับไป Frontierland เป้าหมายคือ Splash Mountain แต่ไปขึ้น Big Thunder Mountain Railroad ที่เห็นในรูปข้างบนกันก่อนเป็นการซ้อม

Photobucket - Video and Image Hosting

ทางเข้า Splash Mountain ซึ่งก็อารมณ์เดียวกันกับล่องแก่งที่แดนเนรมิตแต่โปรดักชั่นเจ๋งกว่าเยอะ

Photobucket - Video and Image Hosting

ที่เห็นข้างหลังคือ Splash Mountain ภูเขาสูงๆนั่นสูงกว่า 50 ฟุต ระทึกใจมากตอนพุ่งลงมา เสียวไส้ดีแท้ๆเพราะมันสูง ตอนอยู่ข้างบนยอดนั่นเห็นวิวหมดทั้งปาร์คเลย ตอนลงมาก็กรี๊ดกันสนั่น ตัวไม่เปียกเท่าไหร่ที่ห่วงคือกระเป๋า ฮ่าๆ อ้อมกอดกระเป๋าใบใหม่ไว้แบบแนบแน่นมาก ประมาณว่าตรูยอมเปียกเองดีกว่าให้กระเป๋าเปียก คริสก็เสียวไปด้วย พอโดนสาดก็จะถามว่ากระเป๋าเปียกมั้ย (ไม่ถามถึงตัวอ้อมนะ) แถมบอกว่าน้ำสกปรกกระเป๋าต้องด่างแน่ๆเลย แต่พอแห้งแล้วก็ไม่เป็นไรอ่ะ ไม่มีรอยเหลือเลย อุอุ รอดไป

หมดเรื่อง ride ต่างๆแล้วจ้า ลุงกับป้าแรงหมด เดินกันไปก็บ่นกันไปว่าถ้ามีลูกจะมีแรงพาลูกมาได้ไงวะเนี่ย แต่สงสัยถ้ามีลูกคงไม่มีปัญญาพาลูกมาได้อยู่ดี แพงเหลือเกิน ฮ่าๆ