Tuesday, June 20

คราวนี้ได้ทั้งเก็บและทั้งกิน

เมื่อเช้าไปได้ไปเก็บสตรอเบอรี่จริงๆแล้วค่ะ ไปกับแมรี่แอนกับคริส กว่าจะไปก็สายแล้ว แต่โชคดีที่วันนี้แดดไม่ร้อนมาก พอมีเมฆบ้าง เก็บไปได้เรื่อยๆไม่ร้อนเท่าไหร่
ต้นสตรอเบอรี่เป็นพุ่มเตี้ยๆปลูกเป็นแถวๆ เวลาไปเก็บก็จะมีคนคอยบอกว่าให้เริ่มเก็บที่แถวไหน ค่อยๆไล่ไปตามแถว พอเก็บเสร็จก็ปักไม้ไว้ว่าเก็บถึงตรงนี้ คนที่มาที่หลังจะได้เก็บต่อได้
แหวกพุ่มแล้ว ก็จะเจอสตรอเบอรี่แบบนี้ หอมหวานไปทั้งทุ่ง
สามคนเก็บกันอยู่สักสี่สิบนาที ได้มาเต็มตะกร้า อ้อมเก็บไปกินไปบ้างนิดหน่อย
ลูกไม่ใหญ่มากเท่าไหร่ นานๆถึงจะเจอลูกใหญ่ๆที

ได้มาทั้งหมด 8 ควอร์ท แมรี่แอนจ่ายไป 10 เหรียญ ถูกกว่าซื้อที่เขาเก็บให้เท่าตัวได้มั้ง

ปอลอป๋อหลอ: วันศุกร์นี้จะไปฮาวายแล้ว ไม่แน่ใจว่าจะได้อัพบล็อกก่อนไปหรือช่วงที่อยู่ที่นั่นรึเปล่า เพราะวันพฤหัสตอนเช้าคริสมีประชุมที่แถวเมือง Rochestor นิวยอร์ค คิดว่าจะขับรถไปวันพรุ่งนี้บ่าย ค้างคืนที่นั่นแล้วกลับมาบ้านค่ำวันพฤหัส วันศุกร์ก็เครื่องออกตั้งแต่เจ็ดโมงเช้า อ้อมไม่แน่ใจว่าที่โรงแรมที่ฮาวายมีอินเตอร์เน็ตฟรีรึเปล่า ถ้าไม่มีคงไม่ได้มาอัพจนกลับวันที่ 3 ก.ค. นู่น คงมีเรื่องให้เขียน รูปให้โหลดเพียบ เอาเป็นว่าอาจจะลาไปสักสองอาทิตย์นะคะ

อาหารที่อยากทานวันนี้: ราเมนอร่อยๆ ใจไปฮาวายแล้วค่ะ แต่คริสบอกว่าที่ฮาวายไม่มีราเมนอร่อยเท่าที่ญี่ปุ่น แหม มันจะอร่อยเท่าได้ไง แต่ที่อ้อมเคยทานอ้อมก็ว่าอร่อยใช้ได้แหละน่า ดีกว่าไม่มีทาน

Monday, June 19

all about food

คำเตือน: กรุณาหาทิชชู่หรือผ้าเช็ดหน้ามาเตรียมไว้ก่อนอ่านบล็อกนี้ ไม่เช่นนั้นคีย์บอร์ดของท่านอาจเปียกน้ำลายได้ ถ้าจะให้ดีควรมีของกินติดมือไว้ก่อนจะได้ไม่เกิดอาการแสบท้องด้วยโรคน้ำย่อยจู่โจมกระทันหัน
Warning: Please get yourself a handkerchief or napkin before reading this blog; otherwise, your keyboard may get wet. It is also recommended that you have something to munch on in hand so that your stomach will not be irritated by sudden excessive enzyme attack.
-------------------
เริ่มด้วยอาหารฝา-หรั่งก่อน
Start with western food.

เมื่อคืนวันศุกร์ไปทานอาหารอิตาเลียนที่ร้าน Carrabba's พอดีมีบัตรฟรี appetizer อยู่ แถมอ่านใน Consumer Reports เขาเรทให้ร้านนี้เป็นอันดับหนึ่งของร้านอาหารอิตาเลียน ไป
ถึงต้องรอโต๊ะ ก็เลยสั่งเบียร์เย็นๆมาดื่มกันที่บาร์ อ๊ะอ๊ะ อย่าหาว่าเป็นเมรีขี้เมานะ อากาศมันร้อนมากๆได้เบียร์เย็นเจี๊ยบเข้าไป ค่อยยังชั่วหน่อย
Last Friday we went to Carrabba's for Italian food. We went there because we had a coupon for a free appetizer from the last time we ate there and we've also read that this restaurant was rated number one for Italian food by Consumer Reports . When we got there, we had to wait for our table, so we went to the bar and ordered two beers. Oh no, no, no, don't think I'm a real drinker. The weather was so hot that day we needed some icy cold beer to cool ourselves down. (Sounds like an excuse?) Boy, was it good!!หลังจากได้โต๊ะ พนักงานเสริฟก็เอาขนมปังอุ่นๆมาให้ทานกับ...

After we got our table, the waitress brought us warm bread.... น้ำมันมะกอกที่ใส่เครื่องเทศ เกลือ พริกไทยหอมๆไว้
which we dipped in olive oil which had some good fragant seasonings.

แล้วก็รออาหารที่สั่งค่ะ ดูบรรยากาศในร้านก่อน คนเยอะ

Then we waited for our food. Take a look at the atmosphere. It was very crowded. แต่นแต๊น แอ็พมาแล้ว (แอ็พเพอไทเซอร์นะคะ ไม่ใช่แอ็บนอร์มัล) รู้สึกจะเรียกว่า Scotty Johnson เป็นแอ็พประจำวัน ชีสนุ่มๆอบมาในซอสมะเขือเทศเบาๆ ทานกับขนมปังกระเทียมอบร้อนๆเช่นเดียวกัน อร่อยๆๆๆ

Here is the appetizer we ordered. I think it's called Scotty Johnson. It was a special appetizer of the day. Goat cheese baked in light tomato sauce (called Pomodoro sauce, if I recall it correctly) served with freshly baked garlic bread. Yummy!

ถัดมาเป็นซีซาร์สลัด โรยชีสมาเพียบ น้ำสลัดอร่อย รู้เลยว่าโฮมเมด ไม่ใช่มาจากขวด

Then came Caesar salad. It was also good, loaded with permasan cheese. The dressing was nice and you could tell it was home made.

สลัดหมด จานหลักก็มา (คราวนี้ทำตามกฎ แอ็พหนึ่ง จานหลักหนึ่ง) จานหลักเป็นไก่ย่างยัดไส้ชีสกับแฮม คริสเลือกพาสต้าใส่ซอสขาวเป็นจานเสริม ตัวไก่หอมเตาย่างดี ไม่แห้งด้วย ส่วนพาสต้าก็อร่อย คนเสริฟใจดีแบ่งเสริฟเป็นสองจานให้เลย แบ่งกันทานจานเดียวก็อิ่มแล้ว (จริงๆอิ่มตั้งแต่สลัดแล้ว) อีกจานห่อกลับบ้าน

And our only entree came. (We did go by our rule, one appetizer and one entree, this time). It's grilled chicken with ham and cheese stuffing. Chris chose fetuccini with alfredo sauce as a side dish. This dish was excellent. The grilled chicken was not too dry and you could smell the grill. The pasta was also well done. The waitress was kind enough to have this dish divided into two portions and served it in two plates. We could only finish one plate and took the other half home.

ทรมานพุงกะทิกันยังไม่พอ ไปหาไอติมทานต่อที่ร้าน Cold Stone Creamery หลังจากเดินช็อปปิ้งกันแค่ครึ่งชม. (อ้อมได้กางเกงสามส่วน กับเสื้อกล้ามมาสองตัวจากร้าน Old Navy อิอิ) ร้านนี้เป็นร้านไอติมผัดบนหินแช่แข็ง เหมือนที่สเวนเซ่นส์บ้านเราก็มีนั่นแหละ สั่งไอติมแบล็คฟอเรสต์ไป พนักงานก็ตักไอติมลูกยักษ์ออกมาผัดกับเชอรี่และบราวนี่ชิ้นบักเอ้ก ที่นี่ไอติมมีสามขนาดเรียกเก๋ๆว่า ชอบ ชอบมาก กับ ขาดไม่ได้ (กรุณาอ่านภาษาอังกฤษข้างล่างประกอบ) อ้อมกับคริสสั่งขนาดกลางมา ไม่ชอบมากก็ต้องชอบวะ ไม่งั้นกินไม่หมด ลูกหญ่ายสุดๆ

As if we hadn't tortured our stomach enough with excessive consumption, we headed to Cold Stone Creamery for ice cream after spending half an hour shopping in the area. (I got a pair of capris and two tank tops at Old Navy. ;-)) Here at Cold Stone Creamery, we ordered Black Forest ice cream, which was chocolate ice cream "stir-fried" with cherries and a HUGE piece of brownie. Ice cream here comes in three sizes, Like It, Love It, and Gotta Have It. We ordered Love It. It was a LOT of ice cream to be loved, that's for sure.

ดูหน้าตากันชัดๆ ใส่ในถ้วยวอฟเฟิลช็อกโกแล็ตกับถั่ว

Here's how it looked in a waffle bowl dipped in chocolate and nuts.


ไขมันก้อนยักษ์ กินจนหมดอยู่ดี

A big ball of fat...but we finished it anyway.

---------------------

เฮ้อ อันนั้นมื้อใหญ่นอกบ้าน คราวนี้มาดูอาหารที่แมรี่แอนทำทานกันในบ้านบ้าง เริ่มด้วย ฟรุตสลัด ใส่แคนตาลูป แตงโม สตรอเบอรี่ บลูเบอรี่ องุ่น สับปะรด แช่เย็นๆ

Whew!! That was our BIG dinner out. Let's look at what Marianne made for dinner at home. Start with chilled fruit salad loaded with cantaloupe, watermelon, strawberries, blueberries, grapes, and pineapple.

แต่แค่ฟรุตสลัดมันจะเป็นดินเนอร์ได้ยังไง ต้องนี่ด้วย ชีสเบอร์เกอร์ย่างเอง พอใส่เครื่องเข้าไปแล้วสูงปรี๊ด งับไม่ลงเลย

Only fruit salad is not dinner, though. How about a home made cheeseburger. Pretty tall, eh?

มื้อนี้สำหรับเย็นวันร้อนๆช่วงซัมเมอร์ ร้อนๆแบบนี้เครื่องดื่มที่ขาดไม่ได้คือชาเย็น

A nice meal for a hot summer night. The beverage had to be iced tea.

อ๊ะๆ ยังไม่หมด ของหวานคือ มาร์ชแมโลว์ปิ้ง ปล่อยถ่านร้อนๆมอดไปเฉยๆได้ไง เสียของ

...and the meal was finished with grilled marshmallow. How could we have wasted all that hot coal in the grill?

ย่างให้เกรียมนิดๆข้างนอก ข้างในละลายหน่อยๆพอยืดๆดี

Yummy gooey marshmallow.

อีกมื้อนึงที่อร่อย แซนด์วิชใส่บาร์บีคิวหมูย่าง ทานกับโคลสลอว์

Another meal: barbecue pulled pork sandwich with coleslaw.

อันนี้ไม่ใช่มื้อใดมื้อหนึ่งแต่เป็นต้นหอมที่ข้างบ้านปลูกเองแล้วเขาให้มา ต้นอวบมากๆๆๆ ปกติอ้อมไม่ชอบทานต้นหอม(มันเหม็น) แต่ต้นหอมที่เห็นนี้อร่อยแฮะ กลิ่นไม่แรงมาก
This is not a meal in itself, but I just want to show how big home grown green onions can be. We got these from our neighbor.

-----------------

ถึงตาอาหารไทยที่อ้อมทำเองบ้าง (ไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไหร่มั้ง?) ข้าวราดเนื้อผัดโหระพากับไข่ดาว อาหารสิ้นคิดค่ะ

Now it's the turn of Thai food I cooked myself. (not very interesting, huh?) Stir-fried beef with Thai basil and a fried egg on top of white rice (a typical dish when you're out of ideas).

ไข่ยัดไส้ Thai omlette.

เห็นก็รู้แล้วใช่มั้ยคะ ว่าห่อไม่เป็น งกไส้ไปหน่อยเลยออกมาเป็นไข่พับครึ่ง กลัวไม่อิ่มง่ะ เลยโปะไส้ไปตรึม ห่อไม่มิดเลย

The filling was supposed to be properly enclosed in the eggs (four sides folded), but this is the best I could do after putting too much filling on the eggs. My husband and I eat a lot, you know. We needed all that meat to stuff ourselves up! จานสุดท้ายแล้วจ้า บะหมี่น่องไก่พะโล้ ชามใหญ่เกิน(แต่ทานเกือบหมด)อีกแล้ว

And the last dish, noodles with chicken and egg stew (with Chinese five spices). I made too much as usual.

เอิ๊กๆๆ เฮ้อ เรอไปสามรอบ หมดแล้วค่ะ อิ่มกันรึยังเอ่ย Burp!! Huh, that was it. Are you full yet?

ปอลอป๋อหลอ: เปลี่ยนรูปโฉมใหม่ หวังว่าคงไฉไลกว่าเดิมนะคะ คราวนี้หน้ากว้างขึ้นจะได้ใส่รูปใหญ่ขึ้นได้ ว่าจะลองหัดทำกราฟฟิครูปต่างๆด้วยก็เลยเอากรอบรูปทิ้งไป อ้อ ถ้าจะคอมเม้นท์คลิกที่ Comments (ตัวเลข) ข้างล่างนี้ มันจะโชว์คอมเม้นท์ที่มีคนเขียนไว้แล้วในหน้าเดิมนี่แหละ เวลาจะเขียนเม้นท์ก็คลิกที่ Post a comment ข้างใต้คอมเม้นท์สุดท้ายนะคะ หน้าต่างคอมเม้นท์จะเปิดเหมือนแบบเดิมค่ะ วันนี้ฟิตเขียนสองภาษา แต่เหนื่อยจัง ไม่รู้เมื่อไหร่จะเขียนแบบนี้อีก อยากฝึกเขียนภาษาอังกฤษบ้าง ชักรู้สึกว่าภาษาเขียนถดถอยอีกแล้ว

อาหารที่อยากทานวันนี้: ไม่มีค่ะ เห็นรูปพวกนี้แล้วจุก รู้สึกผิดด้วยว่ากินเข้าไปเยอะขนาดนี้ได้ไง(วะ)

Saturday, June 17

พืชผักสวนครัว(3)

ขอเขียนสั้นๆคั่นเวลาหน่อย ต้นมะเขือเต๊ดที่ไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ดูบล็อกที่แล้วเจ้าค่ะ แต่ละต้นสูงสักฟุตนิดๆได้แล้ว มีดอกด้วยน้า

ไม่รู้วอลล์มาร์ทเอาอะไรมาขาย สงสัยเป็นมะเขือเทศ GMO แน่ๆ ต้นนิดเดียวออกดอกแล้ว

ดูดอกใกล้ๆ ดอกจิ๊ดเดียวเองค่ะ


ต้นนี้ต้นถั่วที่แมรี่แอนลงเมล็ดไว้เมื่ออาทิตย์ที่แล้วเอง งอกเป็นต้นแล้ว ท่าจะโตเร็ว เห็นแล้วนึกถึงนิทานเรื่องอะไรน้า ที่เด็กปีนต้นถั่วที่โตเร็วมากๆ แจ็คผู้ฆ่ายักษ์ใช่มั้ย


ปอลอป๋อหลอ: ตอนนี้อากาศที่นี่ร้อนแล้วค่ะ กลางวันประมาณเกือบ 90 F ได้ แดดเปรี้ยงเลย อ้อมออกไปช่วยแมรี่แอนตัดต้นไม้ตอนกลางวันแดดแจ๋ๆมาสามวันติดกันแล้ว ได้เหงื่อดี แต่หน้าเยินเพราะอ้อมไม่ชอบใส่หมวก ตรงแก้มงี้แห้งเป็นขุยเลย แถมกระ (ที่คุณสามีใจร้ายเรียกว่า age spot) ขึ้นตรึม คาดว่าโลชั่นกันแดดที่ใช้อยู่คงแห้งเกินไป โลชั่นอื่นๆที่มีอยู่ก็ผสมพวกกรดกันเหี่ยวทั้งนั้น ทาแล้วแสบ ก็เลยต้องไปซื้อโลชั่นธรรมดาไม่มีน้ำหอมสำหรับคนผิวบอบบางมาทาก่อนทาครีมกันแดด (ไม่รู้ว่าตัวเองกลายเป็นคนผิวบอบบางไปได้ไง แต่ก่อนโดนแดดเท่าไหร่ไม่เห็นเป็นอะไรเลย สงสัยเป็นไปตามอายุ) ใช้มาสองวันแล้วหน้าดีขึ้นนิดนึง แต่มันเยิ้มเลย หน้าที่เคยใส(อยู่แป๊บนึง เพราะทุ่มทุนซื้อ SK-II) ตอนนี้หมดสภาพแล้วค่ะ จะซื้อ SK-II มาใช้อีกที่นี่ก็แพงเอี้ยๆ แพงกว่าเมืองไทยเกือบครึ่งเท่า ไม่เป็นไร ใช้ยี่ห้อตาม drug store ไปก่อนละกัน มีสามีแล้ว ไม่ต้องสวยมาก คริสบอกตลอดว่ายังไงก็รัก เหะเหะ ไม่รู้ว่าถ้าอ้วนกว่านี้อีกสักสิบกิโลจะยังพูดเหมือนเดิมรึเปล่า

อาหารที่อยากทานวันนี้: เนื้อย่าง คอหมูย่างจิ้มแจ่ว อืม น่าทำทานแฮะ ใช้เตาบาร์บีคิวย่างได้ ย่างพริก มะเขือเทศ หอมแดง กระเทียม ตำทำแจ่ว แต่หาหอมแดงลูกเล็กที่นี่ไม่ได้อ่ะ ครกก็ไม่มีให้ตำ ว้า ปั่นก็คงได้ แต่ไม่อร่อยเท่าตำแหงๆ

Thursday, June 15

พืชผักสวนครัว(2)

พืชผักสวนครัวที่ลงไว้เมื่อสองอาทิตย์ที่แล้ว ตอนนี้งอกงามดี(เกือบทุกต้น)ค่ะ เริ่มด้วย sweet basil ใบหนามากๆ แต่แอบมีเหลืองนิดๆ ไม่รู้ทำไม น่าเก็บมาทานแล้วล่ะ อยากเอามาลองใส่ในป่อเปี๊ยะสดดู

ต้นพริกอภิมหาเผ็ดต้นนี้แหละที่ดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ใบเป็นสีเหลืองๆ น้ำตาลๆด้วย แต่ใบใหม่ยังงอกออกมาเรื่อยๆ คงไม่เป็นไร

ต้น lettuce หลายๆประเภทที่ลงเมล็ดไว้ ตอนนี้งอกแล้ว
เทียบขนาดกับนิ้วมือ
รูปนี้ถ่ายเมื่อสองวันก่อนเมื่อเช้าตอนไปรดน้ำดูผักกาดพวกนี้ใบยาวขึ้นอีกซัก 2-3 มิลได้มั้ง โตเร็วจริงๆ หวังว่ากระต่ายป่าน้อยๆทั้งหลายคงไม่มากินไปซะก่อนเราเก็บทาน

ต้นผักชี ลงเมล็ดไว้ ขึ้นแล้วเช่นกัน คราวนี้แหละจะได้มีรากผักชีทานเสียที เอ ถ้าอ้อมจะถอนรากถอนโคนมัน ไปลงเพิ่มดีกว่าแฮะ
อันนี้ โหระพาในกระถาง โรยเมล็ดไว้เพียบ คือจริงๆ ตอนปลูกแมรี่แอนบอกแล้วว่าไม่ต้องโรยเยอะ แต่อ้อมกลัวมันไม่ขึ้นทั้งหมด วันรุ่งขึ้นก็เลยแอบไปโรยเพิ่ม ปรากฏว่าตอนนี้ขึ้นมาเพียบเลย ไม่รู้แมรี่แอนงงรึเปล่า ทำไม Thai basil มันงอกดีจัง โรยนิดเดียว ขึ้นมาเป็นสองเท่า ฮ่าๆ แต่ถ้ามันมากไปคงได้มีถอนทิ้งกันบ้างแหงๆ

ที่ไม่ได้รูปมาให้ดูคือต้นมะเขือเทศ ทุกต้นงามดี อ้อมรดน้ำต้นไม้พวกนี้ทุกเช้า ชักเริ่มสนุก ได้มีลุ้นว่าต้นที่เราปลูกมันจะได้ทานมั้ย หายกลัวการปลูกต้นไม้แล้วจ้า

ปอลอป๋อหลอ: แถวนี้มีกระต่ายป่าเยอะมาก ตัวเล็กตัวน้อยวิ่งกันให้เห็นๆ วันก่อนแฮนน่าห์ตะครุบมาได้ตัวนึง ตัวจิ๊ดเดียว แต่แฮนน่าห์เป็นหมาใจดี คือไม่กัด แค่คาบไว้ในปากเฉยๆเหมือนคาบลูก แต่เห็นอย่างนั้นอ้อมกับแมรี่แอนก็กรี๊ดแล้ว แฮนน่าห์ โน๊ว์โนว์ โนว์โน๊ว์!!! กรี๊ดกันลั่นไปหมด แต่ทำอะไรไม่ถูก แฮนน่าห์เห็นเรากรี๊ดก็เลยปล่อย ปรากฏว่าแมดดี้กับเหมียวเหมียวกระโจนเข้าไปตะครุบต่อ อ้อมกับแมรี่แอนก็กรี๊ดๆกันอีกรอบ ดีที่มันหนีไปซุกอยู่ในโรงรถได้ หลังจากนั้นเลยต้อนทั้งหมาและแมวเข้าบ้าน กะว่าให้เจ้ากระต่ายน้อยได้หาทางออกจากโรงรถกลับรังได้ สองวันถัดมาจีจี(พี่สาวแมดดี้)มาที่บ้าน อ้อมปล่อยให้สองสาววิ่งเล่นกันข้างนอก ได้เรื่องเลย จีจีตะครุบกระต่ายมาได้ตัวนึง อ้อมดูขนาดตัวแล้ว อาจจะเป็นตัวเดิมที่รอดมาได้รอบที่แล้ว แต่คราวนี้ถึงตามันชะตาขาด จีจีคาบมันเอาไว้ในปากแล้วก็ไปหลบอยู่ใต้ต้นสน อ้อมกรี๊ดก็ไม่ปล่อย เรียกลอรี่ออกมาช่วยก็ไม่ทันซะแล้ว มันกัดแบบกร้วมๆ ลอรี่บอกว่าได้ยินเสียงกระดูกหักกร๊อบๆ สยองมาก กว่าจะเอาจีจีออกมาได้ ก็ไม่เห็นซากกระต่ายน้อยซะแล้ว คาดว่าจีจีคงรับประทานเข้าไปหมดตัว อี๋ย์ แหวะมากๆๆ ดีที่แมดดี้ไม่ได้ร่วมด้วย -_-" ไม่งั้นอ้อมคงกอดแมดดี้ไม่ลงไปอีกหลายวัน

อาหารที่อยากทานวันนี้: ก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กแห้งยำ ทำทานเองก็ได้ แต่ยังขี้เกียจอยู่เพราะต้องซื้อถั่วมาบดเอง แถมถั่วงอกที่นี่ก็แพ้งแพง ว่าจะเพาะเองดูแต่ก็ยังขี้เกียจอีกเช่นเคย

Wednesday, June 14

Trade Show

เมื่อวันจันทร์ตามคริสไปออกร้าน(เรียกงี้รึเปล่าหว่า)ที่ Akron อ้อมไปช่วยคริสจัดบูธ(จริงๆคือโต๊ะตัวเดียว)ตั้งแต่เช้า หอบหิ้วทีวีไปโชว์ดีวีดีเกี่ยวกับ metallizing ด้วย งานนี้เป็น conference ของ county ต่างๆในโอไฮโอ ก็มีวิศวกรของเมืองต่างๆมาประชุมกันด้วย เป้าหมายหลักของคริสก็คือไปคุยกับวิศวกรพวกนี้แหละ ให้เขารู้จักว่า metallizing คืออะไร เผื่ออีกหน่อยมีงานซ่อมสะพานหรือแท็งค์น้ำ จะได้นึกถึงเราด้วย อ้อมก็ไปแกร่วๆอยู่ที่งานตลอดวัน มันก็ไม่ได้มีคนมากนัก แต่คริสก็ได้คุยวิศวกรหลายคนอยู่ อ้อมจะช่วยอธิบายอะไรบ้างก็ไม่ค่อยถนัด ไม่ค่อยรู้เรื่องทางเทคนิคของเขาเท่าไหร่ ถ้าต้องไปงานแบบนี้อีก อ้อมคงต้องศึกษาให้มากกว่านี้จะได้ช่วยคริสได้เผื่อเวลามีคนอื่นมาที่บูธตอนที่คริสไม่อยู่หรือกำลังคุยกับคนอื่นอยู่ พอตอนเที่ยงลอรี่ก็มาสมทบเปลี่ยนเวรให้อ้อมกับคริสได้ไปทานข้างกลางวันกัน จริงๆที่งานเขาก็มีอาหารกล่องให้ แต่คุณคริสดันลงทะเบียนไว้แค่คนเดียวก็เลยได้มากล่องเดียว ไม่พอรับประทาน ก็เลยให้ลอรี่ทานไป ส่วนอ้อมกับคริสออกไปหาอะไรทานข้างนอกแทน คริสน่ะอยากออกมาข้างนอกอยู่แล้วล่ะ จริงๆอยากออกตั้งแต่เที่ยงด้วยซ้ำเพราะมีถ่ายทอดบอลโลกคู่อเมริกากับเช็ก แต่อ้อมดูตารางเวลาประชุมแล้วบอกว่าอย่าไปตอนเที่ยงเลย ตอนเที่ยงคนน่าจะมาที่งานกันเพราะเป็นช่วงพักทานข้าว คนคงจะมาที่บูธเยอะ ปรากฏว่าจริงค่ะ สรุปกว่าจะได้ออกไปทานข้าวก็บ่ายโมงครึ่งไปแล้ว บอลจบพอดี อเมริกาแพ้ไป 3-0 ตามความคาดหมาย อุตส่าห์แอบมีลุ้นว่าไม่แน่ๆ แต่ก็แพ้จริงๆ

อ้อมกับคริสเดินออกไปทานข้าวกันที่ Quaker Square เป็นตึกเก่าเล็กๆ มีร้านขายของสามสี่ร้านกับร้านอาหารอีกหนึ่ง บรรยากาศดีใช้ได้ เขาตกแต่งให้ดูเก่า แอนทีคๆหน่อย พวกของที่ขายก็น่ารักดี ดูเป็นธีมเดียวกันไปหมด คือ ออกแนวคันทรี่ๆ แบบ old style ดูรูปประกอบจากสไลด์โชว์ละกันนะคะ อ้อมไปเดินเล่นที่นั่นอีกทีหลังจากทานข้างเสร็จแล้ว ได้การ์ดวันเกิดกะมาทำเซอร์ไพรซ์คริสตอนไปฮาวาย กับช็อกโกแล็ตอีกนิดหน่อย


พอห้าโมงครึ่งงานก็เลิกค่ะ อ้อมกับคริสก็เก็บของขับรถกลับบ้าน เนื่องจากตื่นแต่เช้ามืดเลยเหนื่อยกันทั้งคู่เลย

อาหารที่อยากทานวันนี้: ยำเนื้อย่าง ยำวุ้นเส้น ยำหมูยอ ยำมาม่า สารพัดยำ ยำอะไรก็ได้!!

Tuesday, June 13

Dog Show

เมื่อวันเสาร์อ้อมกับคริสพาแมดดี้ไปดู Dog Show ที่ Canton (เมืองใกล้ๆ ห่างไปครึ่งชม.) ไม่ได้เอาแมดดี้เข้าประกวดกับเขาหรอก แต่ลอรี่บอกว่าให้เอาแมดดี้ไปลองดูว่าแมดดี้จะทำตัวยังไงเวลาเจอคนเจอหมาเยอะๆ อีกหน่อยเวลาลอรี่ส่งประกวดจริงๆจะได้ไม่ตื่นคนมาก งานนี้ลอรี่ก็จูงหมาของตัวเองเข้าประกวดด้วย อ้อมก็ไม่เคยดู dog show เหมือนกันก็เลยอยากไปดูด้วย

งานนี้คนเยอะใช้ได้ แมดดี้ตื่นที่ตื่นคนมากๆ แทบจะไม่ยอมเดินเองเลย ขนาดเอาชีสให้กินยังไม่กิน ลอรี่บอกว่าแปลว่าเธอเครียดจัดมาก สุดท้ายก็เลยต้องพาไปใส่กรงไว้ในรถลอรี่ไว้ก่อน แล้วอ้อมกับคริสก็มาดูลอรี่จูงหมาประกวด

ตัวอ้อมเองไม่ค่อยเห็นความสำคัญของงานประกวดหมาแบบนี้เท่าไหร่ มันก็ดีที่ได้เห็นหมาสวยๆตามสายพันธุ์ แต่ถึงที่สุดแล้วพอได้รางวัลมาแล้วใครภูมิใจ ตัวหมามันรู้มั้ย หรือเจ้าของเท่านั้นที่ภูมิใจเหลือเกินที่หมาชั้นสวยเริ่ดสุด อ้อมว่ามันเป็นธุรกิจไปหมดแล้ว แต่ละคนทุ่มสุดฤทธิ์ที่จะได้หมาดีๆ ก็คงจะได้ผสมพันธุ์ขายลูกได้ราคาดี เห็นยอมขับรถหอบกันมาไกลๆมาประกวดเก็บคะแนน อ้อมเห็นมากันเป็นรถบัส รถอาร์วีก็มี ดูทุ่มเทม้ากๆมาก ไม่เก็ตค่ะ ไม่เก็ต dog people จริงๆ

ดูบรรยากาศโต๊ะ grooming เห็นแล้วนึกถึงโรงพยาบาล ห้องผู้ป่วยอนาถาด้วยนะ เตียงติดๆกัน มีสายน้ำเกลือระโยงระยาง ฮ่ะๆ แต่จริงๆเห็นแต่ละคนเขาเอาใจใส่หมาของตัวกันสุดๆแล้วก็ดีเหมือนกัน ทั้งแปรงทั้งเล็มขนกันซะออกมาสวยเฉียบทุกตัวเลย


เช่น ดูตัวนี้ ตัวใหญ่ หมาที่ประกวดจนชินแล้วเนี่ย จะดูสงบมากๆ ไม่มีร้องไม่มีดิ้นเลย เชื่อฟังดีมากๆ นี่ก็ตัวใหญ่ ขนเงามากๆ แปรงกันอย่างดี
ตัวนี้ตัวจิ๋ว น่ารักมากๆ ถ่ายมาได้ไม่หมด มีหน้าตาแบบนี้อีกห้าหกตัวอยู่ใกล้ๆกัน อ้อมจะยื่นมือไปลูบหัว เจ้าของหันมาบอกว่าห้ามจับ กำลังจะเข้าสนามแข่งแล้ว จ๋อยเลย ขอโทษเขาไป ไม่รู้นี่หว่าว่าขนห้ามกระดิกก่อนลงสนามมาดูพันธุ์ Belgian Turveren แบบแมดดี้บ้าง หน้าตาเป็นแบบนี้ ตัวนี้สีดำตลอดตัว (พันธุ์ต่างไปนิดหน่อย) อีกหน่อยแมดดี้โต หน้าตาจะเป็นแบบนี้ แต่ขนคงสีอ่อนกว่า
ลอรี่จูง Player ประกวด ไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกันว่าต้องทำอะไรบ้าง หรือกรรมการดูอะไร อีกหน่อยลอรี่ก็คงจูงแมดดี้เข้าประกวดด้วย อ้อมคงไม่ทำอะไร ดูเฉยๆปล่อยลอรี่เขาทำไป
Player เป็นตัวผู้ สวยนะ ขนฟูมากๆ ได้ชนะที่หนึ่งแต่ไม่ได้รางวัลสูงสุดคือ best in breed ลอรี่บอกว่ากรรมการลำเอียง เพราะตัวที่ชนะเลิศเป็นแชมเปี้ยนมาก่อนแล้ว กรรมการก็เลยให้ไป ทั้งที่ Player "แสดง"ดีกว่าเยอะ (อ้อมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าดูยังไง แต่สุดท้าย อ้อมก็ว่ามันขึ้นอยู่กับความคิดเห็นของกรรมการคนเดียวซึ่งจะลำเอียงไปทางไหนก็ได้)
ดูลอรี่เสร็จก็กลับมาที่บ้าน ตอนที่ขับรถกลับมา แมดดี้น่าสงสารมาก คงแบบ emotionally drained เครียดจัดจนเหนื่อย หลับมาตลอด ไม่ยอมไปนอนเบาะหลังด้วย มานอนซุกอยู่ข้างอ้อม แต่พอถึงบ้านเธอก็หายค่ะ ซ่าเหมือนเดิม นี่คริสจะถ่ายรูปด้วย ต้องคว้าไว้ ไม่งั้นไม่อยู่นิ่ง (อาจดูเหมือนบีบคอเล็กน้อย แต่จริงๆแค่จับเท่านั้นนะคะ)
ถ่ายกับอ้อมที่สนาม

เสร็จแล้วแมดดี้ไปเล่นมวยปล้ำกับแฮนน่าห์ต่อ ดูสไลด์โชว์แล้วกันนะคะ แฮนน่าห์เป็นหมาที่ใจดีที่สุดในโลก แม่พระจริงๆ