กินอย่างไรให้อ้วนพีสมกับอยู่เมกา

สองสามวันที่ผ่านมาอ้อมกับคริสกินกันกระจายค่ะ

เริ่มจากไปดูเบสบอลเมื่อวันพุธ ก่อนเข้าสนามก็ไปหาอะไรทานที่บาร์ใกล้ๆก่อน ร้านชื่อ Panini's ขายแซนด์วิชกับพิซซ่า อารมณ์แดกด่วนนั่นแหละ เพราะมันเป็นบาร์ด้วย

อ้อมกับคริสสั่ง grilled steak sandwich เหมือนกัน มันมาเป็น overstuffed sandwich จริงๆคือ มีทั้งเนื้อ โคลสลอว์ และ เฟรนช์ฟรายส์! เห็นหนาๆอย่างนี้ก็กินจนหมดล่ะค่ะ แล้วก็จิบเบียร์อีกนิดหน่อยก่อนไปดูเบสบอล

เมื่อวานมีโอกาสไปเมือง Kent ที่คริสเคยเรียนปริญญาตรี ทำธุระเสร็จก็ไปทานมื้อเย็นกันที่ร้าน Pufferbelly ใกล้ดาวน์ทาวน์ ร้านเป็นสถานีรถไฟเก่า นั่งสบายดี


ด้วยความหิวเพราะไม่ได้ทานข้าวกลางวัน ก็สั่งกันกระจาย เริ่มจาก baked brie เป็น appetizer ก่อน ชีสบรีก้อนเล็กอบมาร้อนๆ บิขนมปังฝรั่งเศสอุ่นๆจิ้มทาน หรือจะเอาชีสที่เค็มนิดๆมาปาดบนแอปเปิ้ลหรือทานกับองุ่นก็อร่อยไปอีกแบบ ส่วนจานหลัก อ้อมทาน grouper sandwich แซนด์วิชปลาทอด แต่ทำมาแบบรูเบ้น คือใช้ขนมปัง rye ใส่ชีสใส่ sauerkraut คริสทาน pulled pork sandwich เป็นหมูอบซอสบาร์บีคิว ใส่โคลสลอว์ด้วย มื้อนี้อร่อยมากๆ

ส่วนวันนี้ต้องไป Kent อีกรอบตอนเช้า ก็เลยไปทานมื้อสายกันที่ Mike's Place


สั่ง breakfast กันคนละจาน

มาเป็นไข่กระทะเลยฮ่ะ แต่กระทะอย่างยักษ์ หนักอึ้ง จาน corned beef นั่นของคริส อย่างเลี่ยน(แต่อร่อย) มีทั้งไข่ทั้งชีส ที่เป็นซอสสีเหลืองๆนั่นคือซอส cheddar cheese เจ้าค่ะ ส่วนอ้อมสั่งแบบเผ็ดๆมาทาน ก็ไม่ค่อยเลี่ยนเท่าไหร่ ทานไปได้แค่ครึ่งเดียว ที่เหลือเก็บกลับมาบ้าน ไม่รู้จะได้ทานรึเปล่าเพราะตอนนี้ 6 ชม.ให้หลังก็ยังอิ่มอยู่เลย

แถมรูปฮ็อตดอกวิ่งแข่งกันที่สนามเบสบอล ฮ่าๆ

เขาแข่งกันทุกครั้งที่มีแข่งเบสบอลค่ะ มีสามคน ketchup, mustard กะ onion ตอนนี้ ketchup ชนะบ่อยครั้งที่สุด คนดูทั้งเชียร์ทั้งเฮกันพอๆกับเบสบอลเลย แถมมีฉายภาพสโลว์โมชั่นซ้ำที่จอใหญ่ด้วยนา

สุดท้าย....ตอนนี้ The Indians ยังเป็นที่หนึ่งในสายจ้า วันที่ไปดูเป็นเกมสุดท้ายของสามเกมที่แข่งกับ Minnesota Twins อินเดียนส์ชนะอีก สรุปว่ากวาดชัยชนะมาหมดทั้งสามเกม (a sweep กวาดจริงๆ) พอเกมเลิกก็เลยได้เก็บภาพแฟนๆฉลองชัยชนะแบบนี้



ปล. แถมท้าย จากในรูปสังเกตได้ว่าร้านอาหารทั้งสามร้านตกแต่งคล้ายๆกัน แต่ Pufferbelly ดูดีที่สุด Mike's Place นี่จริงๆแต่งได้มั่วมากๆ ส่วน Panini's ไม่ค่อยลงทุนเท่าไหร่ เป็นบาร์เปล่าๆมากกว่า

ปล. อีกที วันนี้ฟาดพิซซ่าไปอีกสองชิ้นครึ่งเป็นมื้อเย็นค่ะ จุก!!

Butter Flying

I wish I could be… butter flying.
Hop hop flower to flower
Amidst the warm summer shower
Melt away, having spent the day
Tender, gentle, passionately
Letting the blind see;
Butter flying.

Poem by Christopher Cathis
Photos by Aom (taken at the butterfly garden of Arenal Lodge, Costa Rica)
All Rights Reserved

เมื่อเต่าทองบุก

ปีนี้สวนที่บ้านเจอเต่าทองวายร้ายบุกทำลายต้นไม้ไปหลายต้นค่ะ มากันเป็นฝูง ถล่มกัดกินใบไม้ตามต้นซะแหลกลาญ
ต้นนี้โดนถล่มเป็นต้นแรก


ดูใกล้ๆ ใบเป็นแบบนี้














ต้องแสงแดด


ตอนโชว์รูปที่ถ่ายพวกนี้ให้แมรี่แอนกับคริสดู เขาไม่ชอบกันแฮะ เขาบอกว่าดูมันหดหู่ ใบไม้แห้งๆ แต่อ้อมชอบลายเส้นโครงใบไม้มากๆ จริงๆช่วงต้นหน้าร้อน โครงใบไม้ที่โดนกินไปเนี่ยสภาพดีกว่านี้มากๆ ตอนนี้ลมพัดซะมันไม่เต็มใบไปแล้ว อ้อมมัวแต่รอให้อากาศดีๆ ฟ้าใสๆแล้วค่อยออกไปเก็บภาพ อยากได้ภาพสีฟ้าจัดๆตัดกับเส้นโครงใบไม้ ก็ได้สมใจ แต่มีปัญญาถ่ายได้แค่นี้แหละ

ดูโฉมหน้าตัวการ Japanese beatles ตัวร้ายที่ต้นไม้อีกต้น




ยั้วเยี้ยมาก


แต่ดอกไม้อื่นๆในสวนก็บานกันเต็มที่สวยงามดีค่ะ














ดอกหญ้าก็สวย


ปิดท้ายด้วยรูปคริสตัดหญ้าที่สนาม ใส่เสื้อเหลือง เรารักในหลวงด้วยน้า

ทานพาสต้าที่ Little Italy

เมื่อวันเสาร์ไปทานอาหารอิตาเลียนที่ส่วนที่เรียกว่า Little Italy ในคลีฟแลนด์มาค่ะ ที่ถ่อกันไปถึงนั่นก็เพราะว่าจะไปดูเบสบอลต่อเย็นนั้น

Little Italy ของคลีฟแลนด์ตั้งอยู่ไม่ไกลจากดาวน์ทาวน์มาก ถนนหลักของ Little Italy ก็คือ Murray Hill ก็อย่างที่ชื่อบอกนะคะ Little Italy เป็นส่วนที่ทางการเขาอนุรักษ์เป็น historic district ไว้ มีร้านค้าร้านอาหารอิตาเลียนอยู่เยอะแยะ เดินๆไปอาจเคลิ้มนึกว่าอยู่ในอิตาลี ฮ่าๆ จริงๆไปถึงอย่างนั้นหรอกค่ะ มันไม่ใหญ่มาก แค่สองบล็อคเอง พอได้บรรยากาศอิตาเลียนนิดๆเท่านั้นแหละ

ที่ไปที่นั่นก็เพราะอยากหาพาสต้าอร่อยๆทานมากกว่า ตอนแรกจะไปร้านชื่อ Mama Santa Restaurant แต่ดันปิด ก็เลยเข้าร้าน Trattoria on the Hill แทน

อ้อมทาน linguine ใน white clam sauce ส่วนคริสทาน spinach cheese raviloli ก้อร่อยใช้ได้ ที่ชอบที่สุดคือซอสที่เขาให้จิ้มกับขนมปังมากกว่า เป็นมะเขือเทศ กระเทียม โหระพา (sweet basil) กับ น้ำมันมะกอก หอมมากๆ

อิ่มหนำสำราญแล้วก็ไปดูเบสบอลที่ Jacobs Field ตามเคย วันนั้น Cleveland Indians แข่งกับ New York Yankees ทีมที่แฟนอินเดียนส์ตัวจริงเกลียด เพราะแยงกี้ส์เงินหนา ชอบใช้เงินหว่านซื้อฉกผู้เล่นดีๆที่ทีมอื่นเสียเวลาพัฒนาปั้นมากับมือไป แต่ขอโทษ แฟนๆแยงกี้ส์ก็เยอะจริงๆ ทั้งสามเกมที่แข่งกับแยงกี้ส์นี่ตั๋วขายหมดเรียบ เป็นแฟนๆแยงกี้ส์ซะครึ่งนึงได้มั้ง



วันนั้นคนเยอะมากๆ คนแน่นเต็มร้านอาหารกับบาร์แถวๆดาวน์ทาวน์ทุกร้าน ค่าที่จอดรถที่ปกติเคยเสีย $3 ขึ้นเป็น $15!! จ๊ากกกกกกกกก แต่ก็ต้องยอมเสียไป ค่าตั๋วที่ซื้อล่วงหน้าออนไลน์ไว้ก็แสนแพง ก่อนเข้าสนามนี่อ้อมกับคริสบอกว่า They'd better friggin' win! (They = The Indians) เพราะเสียตังค์ค่ามาดูเกมนี้เยอะเหลือเกิน แถมแพ้เกมแรกไปแล้วด้วย ที่อยากไปดูก็เพราะว่าทั้งอินเดียนส์ทั้งแยงกี้ส์กำลังสูสีกันในตำแหน่ง wild card เพื่อเข้ารอบ playoff เอ่อ พูดไปก็ยาว สรุปว่าอินเดียนส์ต้องชนะนั่นแหละ

ผลของเกมนั้นเป็นไงไม่อยากพูดถึงค่ะ อ้อมกับคริสกลับตั้งแต่เกมยังไม่จบ ตอนนั้นแยงกี้ส์นำไปแล้ว 7-1 ช้ำใจมาก ไม่น่าเสียตังค์มาดูเลยตรู สรุปว่าอินเดียนส์แพ้แยงกี้ส์ไปสามเกมรวดในซีรีส์นี้ ฮ่าๆ ปีนี้ยังไม่ชนะแยงกี้ส์เลยสักครั้ง แต่ไม่เป็นไร ตอนนี้ยังเป็นที่หนึ่งในสายคู่กับ Detroit Tigers อยู่ ไม่ได้ wild card ก็ไม่เป็นไรถ้าเป็นที่หนึ่งในสาย แต่ดูจากการเล่นที่ผ่านๆมาในครึ่งหลังของซีซั่นนี้ ท่าจะไปไม่ถึงดวงดาวแหงๆ ฮ่าๆ

ตัดแล้วจ้า ตัดบริจาคซะเลย

ตัดแล้วจ้า ไว้มาสองปีครึ่ง ตัดไปเรียบร้อยแล้ว

ตามเจตนารมณ์เดิมที่ตั้งใจไว้เมื่อเดือนมีนาปีที่แล้วว่าจะบริจาคผมให้มูลนิธิที่รับทำวิกให้เด็กๆที่เป็นมะเร็ง เมื่อวานได้ฤกษ์ไปตัดเสียที ฤกษ์อะไรก็ไม่รู้ล่ะ วันพุธอีกต่างหาก น่าจะเป็นเพราะว่าอากาศร้อนมากๆด้วย เลยเริ่มรำคาญผมยาวๆของตัวเอง ลองกะๆดูก็คิดว่าน่าจะยาวพอตัดได้แล้วก็เลยชวนคริสไปร้านตัดผมทันที ร้านที่ตัดเป็นร้านที่เพื่อนคริสแนะนำมา ตอนแรกพยายามโทรไปจองคิวกับช่างที่เขาแนะนำด้วย แต่ดันไม่มีคนรับ ฝากข้องความไว้ก็ไม่โทรกลับ แต่ด้วยความตั้งใจว่าจะตัดก็เลยลองเสี่ยงไปที่ร้านเลยละกัน ปรากฎว่าช่างที่เพื่อนแนะนำมาไม่อยู่จริงๆ แต่โชคดีมีช่างว่างพอดี (ปกติตัดผมร้านดีๆหน่อย ต้องนัดช่างก่อน)ก็เลยเอาซะเลย

ช่างที่ตัดให้ชื่อ Lana เขาถามว่าอยากได้ทรงไหน ก็เอารูป Jessica Alba สุดสวยในผมทรงบ๊อบเทให้เขาดู บอกเอาแบบนี้แหละ แล้วก็บอกเขาว่าจะบริจาคผมด้วย เขาก็โอเค มัดผมหางม้าให้ก่อน แล้วจัดการเอากรรไกรมาตัดๆ จริงๆต้องเรียกว่าเถือผมออกมากกว่าเพราะผมอ้อมหนาเหลือเกิน พอตัดหางม้าเสร็จก็ไปสระผม แล้วเขาก็ตัดแต่งผมให้เป็นทรง เป่าแห้งเรียบร้อย ได้มาอย่างที่เป็น ในรูปมันไม่ค่อยเทเท่าไหร่ แต่ถ้าดูข้างๆจะดูเทกว่านี้ ค่าตัดแพงนิดนึง $29 ทิปอีกก็ปาเข้าไปสามสิบกว่าเหรียญ แต่ออกมาถูกใจเลยแหละ ก่อนตัดก็กลัวมากกว่าช่างที่นี่จะไม่คุ้นกับผมคนเอเชีย คนนี้ก็คงไม่คุ้นกับผมหนาแบบนี้ เพราะเขาบอกว่าเขาต้องควักอุปกรณ์ที่มีทั้งหมดออกมาใช้กับหัวอ้อม ฮ่าๆ แต่สุดท้ายก็ออกมาดีเกินคาด

จริงๆจะว่าทรงใหม่ก็ไม่ใช่ เคยไว้ทรงนี้สมัยเรียนมหาลัย สิบกว่าปีก่อนนู้น (แต่ตอนนี้หน้าเหี่ยวกว่าเดิมเยอะ หงอกอีกต่างหาก)

พรุ่งนี้ว่าจะเอาผมไปส่งที่ไปรษณีย์ ใครที่อยากทำแบบนี้บ้าง เช็คเว็บไซต์ของ Locks of Love กับ Wigs for Kids ดูได้ค่ะ อ้อมเลือกที่จะบริจาคกับ Locks of Love เพราะข้อจำกัดน้อยกว่า

Guidelines ของ Locks of Love มีดังนี้ค่ะ

- สามารถบริจาคผมที่ผ่านการดัดหรือย้อมได้
- ผมที่ตัดมานานหลายปีแล้วก็สามารถบริจาคได้ ถ้ามัดเป็นหางม้าหรือถักเปียไว้ (แมรี่แอนยังมีผมที่ตัดเก็บไว้ตั้งแต่ตอนสิบเอ็ดขวบ เดี๋ยวจะส่งไปพร้อมกัน)
- ผมที่ผ่านการกัดสีไม่สามารถใช้ได้ (ถ้าไม่แน่ใจ ถามช่างผมดู)
- ไม่สามารถบริจาคผมที่กวาดจากพื้นได้
- ผมที่ผ่านการซอยใช้บริจาคได้ ถ้าส่วนที่ยาวที่สุดยาวเกิน 10 นิ้ว
- ผมที่ผ่านการซอยสามารถมัดแยกชั้นเป็นหลายๆหางม้าได้
- ผมที่หยิกสามารถวัดความยาวให้ได้อย่างน้อย 10 นิ้วโดยการดึงให้ตรง
- ผมต้องยาวอย่างน้อย 10 นิ้ว จึงจะนำไปทำวิกได้
- ผมที่สั้นกว่า 10 นิ้วจะถูกแยกจากหางม้าไปขายเพื่อนำรายได้มาช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายในการถักวิก ถึงแม้ผมสั้นจะไม่สามารถนำไปทำเป็นวิกได้โดยตรงแต่ก็ช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างมาก
- ผมขาวก็บริจาคได้ โดยจะถูกนำไปขายเพื่อแบ่งเบาค่าใช้จ่ายในการทำวิก

บริจาคอย่างไร?

- ผมยาวอย่างน้อย 10 นิ้ว
- ต้องมัดผมเป็นหางม้าหรือถักเปียไว้ก่อนตัด
- ผมต้องสะอาดและแห้งสนิทก่อนส่งไปรษณีย์
- ใส่หางม้าหรือหางเปียที่ตัดแล้วในถุงพลาสติก แล้วใส่ซองกันกระแทก
- กรอกแบบฟอร์มบริจาคผม Hair Fonation Form หรือเขียนชื่อและที่อยู่ในกระดาษใส่ในซอง
- ส่งผมบริจาคไปที่

Locks of Love
2925 10th Avenue N
Suite 102
Lake Worth, FL 33461-3099

เขาบอกว่าพอส่งไปแล้ว ทาง Locks of Love จะส่งการ์ดขอบคุณมาให้ภายใน 90 วันค่ะ

Weekend Recap: งูดำ นักกอล์ฟ เกี๊ยวซ่า ตีกอล์ฟ

หมู่นี้ยังสปีดตกอยู่ค่ะ ขี้เกียจเขียน ได้แค่อาทิตย์ละเรื่องนี่แหละ ช่วงนี้มันร้อนนนนนนนนนนนนเหลือเกิน ออกไปข้างนอกทีไร แทบจะละลาย ขนาดแมดดี้ที่ว่าซ่าๆ ชอบออกไปข้างนอกเดี๋ยวนี้ออกไปทีไร เธอจะพยายามอยู่แต่ใต้ร่มไม้ ฮ่าๆ

เข้าเรื่องดีกว่า ขอเล่ารวบยอดตั้งแต่วันพฤหัสที่แล้วเลยละกัน ตอนบ่ายๆคริสเดินออกไปสูบบุหรี่นอกบ้านแล้วก็เห็นงูดำ ตัวใหญ่ใช้ได้อยู่ใน drive way เห็นอย่างนี้ก็ต้องหาทางไล่มันไปเพราะไม่อยากให้แมดดี้ออกมาเจอะ แต่ด้วยความที่คริสกลัวงูมาก ก็เลยไปเรียก Tyler หนุ่มน้อยบ้านตรงข้ามมาจัดการให้หน่อย ไทเลอร์นี่ก็คร้อยกี้มาแบบ Crocodile Hunter เลย จัดการจับหางดึงตัวงูเสร็จสรรพ พองูหนีขึ้นต้นไม้ก็เอาไม้แหย่ลงมา แล้วก็จับซะอยู่หมัด แล้วก็เอาไปปล่อยที่ชายป่าหลังบ้าน

หลังจากหมดเรื่องงูไป ตอนเย็นนั้นอ้อมกับคริสไปทานข้าวเย็นที่ร้านอาหารไทยใกล้ๆ Akron กับเพื่อนคริสและครอบครัวเขา ทานๆอยู่ก็เห็นโต๊ะใกล้ๆกัน มีหนุ่ม(ไม่มาก)เอเชียนสี่คนมานั่ง แต่งตัวแบบนักกอล์ฟ ตัวงี้ดำแดงแดดมาเลย ดูแล้วก็รู้ว่านักกอล์ฟแน่นอน ช่วงนั้นมีแข่ง PGA Tour ที่สนามกอล์ฟ Firestone ใกล้ๆ Akron ด้วย เห็นแล้วก็แบบว่าใช่เลย นักกอล์ฟแหงๆ พอเขานั่งเสร็จ หูอ้อมก็สู่รู้ อ่ะได้ยินเขาพูดภาษาไทยกัน คนไทยชัวร์ป๊าบ นั่งๆพิจารณาเขาไปอีกหน่อย เอ..หนึ่งในนั้นตัวดำปิ๊ดปี๋เลย น่าจะเป็นคุณธงชัย ใจดี โปรกอล์ฟบ้านเราแน่ๆ ก็ไม่กล้าเข้าไปทักเขาหรอก จนทานเสร็จลุกจ่ายตังค์ออกไปคุยกันข้างนอกแล้วเห็นเขาออกมากันทั้งกลุ่มแล้วนั่นแหละ ถึงได้ถามเขาว่าเป็นคนไทยเหรอ (ถามนำอ่ะ คือจริงๆสใส่เกือกรู้อยู่แล้ว) มาแข่งกอล์ฟเหรอ (เผื่อได้ตั๋วดูฟรี) และก็ถามคนที่ตัวดำที่สุดนั่นแหละ ว่าใช่พี่ธงชัยรึเปล่า พี่เขาก็บอกว่าครับ พูดอะไรไม่ทัน คริสได้แต่บอกว่า Good luck เหะเหะ แหม นี่ถ้ามีกล้องถ่ายรูปติดตัว คงขอถ่ายรูปคู่ไปแล้ว (ทัวร์นาเม้นท์นี้ พี่ธงชัยได้ที่ 46 ส่วนผู้ชนะก็เชื้อสายไทยเหมือนกัน ไทเกอร์วูดส์ไง)

ส่วนวันศุกร์ อ้อมพาแมดดี้ออกไปเข้าห้องน้ำที่สนาม แหม เจองูดำอีกแล้ว กลางสนามเลย ดีที่แมดดี้ไม่เห็น อ้อมเองก็เล็งๆดู เออ ตัวมันเล็กกว่าที่ไทเลอร์จับ คนละตัวกันแน่นอน ไม่รู้มาตามหาเพื่อนรึเปล่า เพราะอากาศร้อนมากๆ งูไม่น่าออกมาเลื้อยเพ่นพ่านกลางแดดเล้ย คราวนี้ไม่ได้จับไปปล่อยที่ไหนล่ะ อ้อมแค่ถ่ายรูปเก็บไว้ มันเลื้อยไปอยู่ใต้ระเบียงบ้าน







เรื่องงูดำนี่ รู้ว่ามีอยู่หลายตัวอยู่ที่หลังโรงนามานานแล้ว ใกล้ๆบ้านก็มีถนนชื่อ Black Snake Hill สมัยก่อนคงชุมจริงๆ

จบเรื่องงู เย็นนั้นมีงานปาร์ตี้ที่บ้านเพื่อนบ้านทิม บ่ายวันนั้นอ้อมหลังขดหลังแข็ง ห่อเกี๊ยวซ่าไปร่วมแจมร่วม 70 ตัว เฮือก ก่อนออกจากบ้านหม่ำเองไปสองตัว คริสกินไปอีกสี่ห้าตัว ฮ่าๆ เป็นของฮิตที่ปาร์ตี้ บางคนจำได้ว่าปีที่แล้วอ้อมก็ทำไปเหมือนกัน รีบมาตักทานใหญ่เลย มีผู้ชายคนนึงมาทักอ้อมก่อนกลับบ้านว่าเป็นคนทำเกี๊ยวซ่าเหรอ ใส่"ผง"(cracks)อะไรในนั้นเปล่า อร่อยมากกกกกกกกกกกก ฮ่าๆ บอกไม่ได้ใส่อ่ะ แค่หนักกระเทียม คืนนั้นกลับบ้านดึก เหนื่อยเลย

วันเสาร์ หลานๆคริสมาค้างที่บ้านก็เลยพาไปเล่น miniature golf ที่เมืองใกล้ๆ ปกติปู่ย่าจะเป็นคนพามา แต่เนื่องจากแมรี่แอนขาเจ็บเพราะแมดดี้วิ่งชน อ้อมกับคริสก็เลยพาไปแทน





ตีกันตอนบ่ายกลางแดดเปรี้ยงๆนี่แหละ พอถึงหลุมที่ 10 อ้อมเริ่มงอแง เพราะมันร้อน และไม่มีน้ำดื่มติดตัว พอหลุมที่ 16 ยื่นคำขาดคริสว่าไปซื้อน้ำให้ทานเดี๋ยวนี้นะ ไม่งั้นจะเป็นลม หน้ามืดไปนิดหน่อยจริงๆช่วงนั้น แต่สุดท้ายก็เล่นครบ 18 หลุมจนได้ อย่าถามถึงผลการเล่น ฮ่าๆ อ้อมได้ที่สาม คริสได้ที่หนึ่ง ตีเกิน amateur par ไปแค่ 3 ช็อต ส่วนอ้อมนี่ เก้าหลุมแรก ฟอร์มดีมากๆ เก้าหลุมหลัง ล่อเกินสิบช็อตไปหลายหลุมอยู่ ก็มันร้อนนี่นา สมาธิเริ่มเสีย ตีเสร็จก็ไปตีหลุมโบนัสกันด้วย ต้องพัตขึ้นเนินทางแคบๆกะน้ำหนักให้ลูกอล์ฟลงตะกร้าเพื่อจะได้ตั๋วเล่นฟรีหนึ่งใบ ปรากฎว่าคริสทำได้อีกอ่ะ โอ สามีชั้นเซียนมากๆ แต่ที่สำคัญก็คือหลานๆสนุกกัน ค่ำนั้นทานดินเนอร์เสร็จก็พาไปดูหนังเรื่อง The Simpsons นุกใช้ได้ แต่ชอบเวอร์ชั่นฉายทางทีวีมากกว่า รู้สึกมุขจะคมกัดเจ็บกว่าในหนัง

จบแล้วค่า รายงานวันหยุด เจอกันอาทิตย์หน้า (ถ้าไม่มีเรื่องอื่นที่น่าตื่นเต้นให้เขียนก่อน อิอิ)