Saturday, January 26

เปลี่ยนหมอ เปลี่ยนโรงพยาบาล เท้าเริ่มบวม

เมื่อสองอาทิตย์ก่อนมีนัดกับหมอคนเดิมที่โรงพยาบาล The Kingdom เหมือนเดิม พอไปถึงโรงพยาบาลก็ได้รู้ว่าไอ้ที่นัดไว้ล่วงหน้าอ่ะ มันไม่ได้รวมนัดอัลตราซาวนด์ที่หมอสั่งด้วย ฮ่วย ใครจะไปรู้วะว่าต้องนัดแยกกัน คือไปทำนัดเองที่แผนก x-ray ก่อนจะไปนัดหมอ ตอนที่นัดกับหมอ คนที่ทำนัดให้ไม่เห็นบอกเรานี่หว่าว่าต้องนัดอัลตราซาวนด์ก่อนทั้งๆที่ใบหมอสั่งมันก็เย็บอยู่ติดกับใบนัดนั่นแหละ นางพยาบาลก็ไม่บอกเราด้วย สรุปว่าต้องเดินไปที่แผนก x-ray เพื่อลองขอนัดเขาดูในวันนั้นเลย ทางนั้นก็บอกเต็ม แทรกให้ไม่ได้ ผู้ชายซาอุคนนึงที่นั่งอยู่ที่เคาน์เตอร์ OB/GYN เขาก็ดีมากเลย เสนอว่าเดี๋ยวลองโทรหาหมอละกัน เผื่อหมอจะโทรไปบอกทางนั้นให้แทรกเราได้ ต่อโทรศัพท์ให้เสร็จสรรพ พออ้อมคุยกับหมอ หมอบอกแล้วแต่ทางแผนก x-ray อ้าว หมอไม่ช่วยกันเลยนี่หว่า สรุปว่าไปวันนั้นเสียเที่ยว ต้องนัดใหม่อาทิตย์ถัดไป ตอนนั้นก็ชักเริ่มตุ่ยๆกับบริการของทางรพ.และหมอแล้ว ประกอบกับที่ไม่ได้ถูกชะตากับหมอคนนี้มากนักตั้งแต่แรก คือเขาก็โอเค แต่ไม่ถึงกับประทับใจ ก็เลยลองถามถึงหมอชื่อ Dr. Fatimah ที่เพื่อนที่ทำงานแนะนำมาอีกรอบ จากที่เคยถามตอนแรกเลยที่มาแล้วได้คำตอบว่าหมอคิวเต็มไปอีกสองเดือน คราวนี้ลองถามใหม่ ผู้ชายซาอุคนเดิมนั่นแหละ เขาบอกตรงๆว่าหมอ Fatimah ย้ายไปทำที่อื่นแล้ว อ๊ะ เข้าทาง เลยถามแย้บต่อว่าแล้วหมอ Fatimah คนนี้ดีกว่าคนที่อ้อมหาอยู่ที่โรงพยาบาลนี้มั้ย ฮู้ย พี่แกตอบมาตรงๆ ฟันธงดีกว่า 100%! อ้อมกับคริสก็เลยถามต่อ งั้นติดต่อหมอได้ไงอ่ะ เขาก็พาเดินออกมาจากเคาน์เตอร์หาเบอร์หมอ เบอร์โรงพยาบาลที่หมอทำให้เสร็จสรรพ ก็ขอบอกขอบใจเขาไป

หลังจากนั้นก็เลยได้ไปดูโรงพยาบาลใหม่ ชื่อ The Specialized Clinic Hospital อยู่กลางเมืองใกล้ย่านช็อปปิ้งเลย ดูสถานที่ ดูค่าใช้จ่าย แล้วก็โอเค เป็นโรงพยาบาลเอกชนระดับเดียวกัน ค่าใช้จ่ายก็ไล่เลี่ยกัน ก็เลยขอนัดหมอ วันรุ่งขึ้นก็ไปหาหมอเรียบร้อย หมอน่ารักกว่าคนเก่าจริงๆด้วย ดูมีประสบการณ์มากกว่าอีกต่างหาก โอเคเลย ค่อยยังชั่วหน่อย ไม่งั้นคงต้องเปลี่ยนหมอเปลี่ยนรพ.ไปด้วยจนกว่าจะคลอด ฮ่าๆ

เมื่ออาทิตย์ที่แล้วก็ไปอัลตราซาวนด์ช่วงไตรมาสที่สองแบบละเอียดมา หมอก็ดูว่ามีอะไรผิดปกติมั้ย คราวนี้คริสได้เข้าไปดูด้วย ก็ได้เห็นเจดดิ้นดุกดิกๆ เห็นกระดูกสันหลัง เห็นหัวใจเต้นตุบๆ เห็นมือเห็นขา และหมอก็คอนเฟิร์มว่าผู้หญิงนะ หลังจากคริสถามไปสามรอบว่าผู้หญิงหรือผู้ชาย จนหมอต้องหันมาถามคริสว่าเป็นคนอะไร มาจากไหน เพราะปกติมีแต่คนซาอุที่แคร์ว่าลูกชายหรือลูกสาว ฮ่าๆ

ตอนนี้ก็โล่งใจไปหนึ่งเปลาะล่ะค่ะที่ลูกแข็งแรงดี ตอนนี้น้ำหนักเจดอยู่ที่ 550 กรัม หรือหนึ่งปอนด์ ตามเกณฑ์อายุครรภ์เป๊ะเลย ดิ้นทุกวัน ส่วนใหญ่จะเป็นตอนบ่ายๆ หลังจากที่อ้อมงีบกลางวันแล้วตื่นมา โดยเฉพาะเวลาอ้อมหิว กับตอนกลางคืน บางทีก็รู้สึกแค่ตอดๆ แต่บางทีก็รู้สึกเหมือนท้องผลุบเข้าผลุบออกเลย มันส์ดีเหมือนกัน

อ้อมเองก็ทำน้ำหนักขึ้นมาใช่ย่อย ตอนนี้อยู่ที่ 55 กิโลแล้ว เดือนครึ่งที่ผ่านมาขึ้นมาพรวดเดียว 3 กิโล เร็วไปหน่อย ตอนนี้จะพยายามให้ช้าลง สงสัยเพราะทานของหวานมากไป อาการที่เพิ่งเริ่มเป็นเมื่อสักสามสี่วันที่ผ่านมาก็คือ ข้อเท้ากับเท้าบวม อันนี้ก็ตามปกติเหมือนกัน เส้นเลือดที่ลงไปที่ขาโดนกดก็เลยเกิดอาการน้ำคั่งที่ขาได้ ที่เป็นมากๆก็คือวันที่มีสอนนั่นแหละ ทั้งยืนทั้งเดินวันละ 4-5 ชม.ไม่บวมได้ไง แต่โชคดีมากๆที่ตอนนี้หมดสอนแล้ว ไม่ต้องสอนไปอีกสามอาทิตย์เพราะหมดเทอมแรกล่ะ แถมที่ทำงานก็น่ารักมาก เขาเสนอคุมสอบแทนให้ อ้อมจะได้ไม่ต้องเดินหรือยืนมาก ช่วงนี้เลยสบายค่ะ =^_^=

ดูรูปพุงโย้ๆดีกว่า โตกว่าสองอาทิตย์ที่แล้วมากกกกกกกกกก แถมหน้าก็บวมฉึ่งเลย ให้ดูรูปหน้าตรงไม่ได้ค่ะ

Photobucket


กับรูปเสื้อผ้าเจดที่เริ่มซื้อเตรียมๆไว้บ้างแล้ว เพราะตอนนี้ร้านค้าลดราคากันกระจาย

Photobucket


และชุด travel system รถเข็นเด็กพร้อม car seat ลดราคาอยู่เหมือนกันเลยรีบซื้อไว้ก่อน

Photobucket


ที่นี่น่ากลัวมากๆเพราะเขาไม่ให้เด็กๆนั่ง car seat กันเลย เด็กเล็กก็แม่อุ้ม ไอ้ที่โตหน่อยก็ยืนกันเต็มรถไปหมด เห็นแล้วเสียวแทนเพราะคนที่นี่ขับรถแย่มากๆ ทั้งอันตรายทั้งงี่เง่า เมืองไทยว่าแย่แล้ว ที่นี่แย่กว่าสิบเท่าค่ะ เพราะงั้นลูกเราต้องนั่ง car seat แบบถูกต้องตาม standard เท่านั้น เพื่อความปลอดภัยค่ะ

Friday, January 18

เรื่องเล่าจากซาอุ (ตอนที่ 3): อยู่ compound (ที่ไม่ค่อยจะดี) เป็นอย่างไร

ชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในริยาดส่วนใหญ่จะอยู่กันใน compound นะคะ คอมพาวนด์ก็จะมีรั้วรอบขอบชิด มีการรักษาความปลอดภัยเป็นอย่างดี คือเรียกได้ว่ามียามถือปืนกลปืนยาวคอยเช็คดูรถทุกคันที่ผ่านเข้าออกนั่นแหละ ถ้าไม่ได้อยู่ในคอมพาวนด์นั้นก็ต้องมีการแลกบัตรก่อนถึงจะเข้าไปได้ แถมยามต้องได้รับการแจ้งล่วงหน้าด้วยว่าจะมีใครมาหาใครที่บ้านหลังไหน

คอมพาวนด์ที่อ้อมกับคริสอยู่นี่ชื่อว่า Al Yamama I อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของตัวเมืองริยาด ก็ไม่ได้ไกลจากตัวเมืองมาก ขับรถไปทำงานในเมืองก็ประมาณ 15-20 นาทีถ้ารถไม่ติด หรือไปช็อปปิ้งกลางเมืองก็ประมาณ 20-30 นาที

คนที่อยู่ที่คอมพาวนด์นี่ส่วนใหญ่จะเป็นคนที่ทำงานที่เดียวกับอ้อมกับคริส ก็เลยมีทั้งคนต่างชาติและซาอุปะปนกันไป ซึ่งตรงนี้แหละมันทำให้คอมพาวนด์นี้ไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่นัก โดยทั่วๆไปคอมพาวนด์ทั้งหลายจะมีแต่ต่างชาติ ซึ่งก็หมายถึงว่าพอเรากลับบ้านเข้าไปในคอมพาวนด์แล้วเนี่ย เรามีอิสระ ไม่ต้องทำตามกฎซาอุที่ให้ผู้หญิงคลุมตัวคลุมผม บริการสาธารณะก็แยกหญิงชายออกจากกัน แต่ที่ Al Yamama I นี่ไม่งั้นสิคะ หน้าบ้านก็ซาอุ หลังบ้านก็ซาอุ เพราะงั้นอ้อมจะออกไปเดินหน้าบ้านทีก็ต้องควัก abaya ออกมาใส่ สระว่ายน้ำที่ออกกำลังอะไรทั้งหลายก็ไม่เปิดให้ผู้หญิงเข้าไปใช้ได้ด้วยข้ออ้างที่ว่าไม่มีผู้หญิงมานั่งเฝ้าให้ คือถ้าวันไหนเปิด ผู้ชายเข้าได้เท่านั้น ถ้าผู้หญิงจะใช้ก็ต้องรอวันที่เปิดให้ผู้หญิงเท่านั้น ซึ่งก็ไม่ได้เปิดให้ผู้หญิงใช้มานานสองสามปีแล้วมั้ง แถมที่นี่ก็เรียกว่าไม่ได้รับการดูแลเท่าที่ควร เนื่องจากสถานที่ทำงานของอ้อมเอง (ของรัฐบาลซาอุนี่แหละ) เซ็นสัญญาเช่าคอมพาวนด์แต่ไม่ได้จ้างเจ้าของคอมพาวนด์ให้ดูแลด้วยเนื่องจากแพง ก็เลยจ้างคนมาทำเอง ก็เลยห่วยสิคะ สระว่ายน้ำก็ไม่ได้มีการดูแล ร้านอาหารที่สปอร์ตคลับก็ปิดไป มีซุปเปอร์มาร์เก็ตเล็กๆอยู่ที่นึง ตอนแรกที่มาก็ยังเปิดตลอดเวลาไม่ปิดช่วงสวด ตอนนี้ปิดช่วงสวดด้วยแล้ว ฮ่วย

ดูรูปบ้านก่อนดีกว่าเดี๋ยวบ่นต่อ

Photobucket


Photobucket


Photobucket


Photobucket


Photobucket


จริงๆก็พอใจกับตัวบ้าน(เรียกว่าวิลล่า)นะคะ กว้างขวางใช้ได้เลย สองห้องนอนสองห้องน้ำ มีเฟอร์นิเจอร์พร้อม มีเครื่องซักผ้าเครื่องปั่นผ้าให้เสร็จสรรพ ครัวก็ใหญ่ อยู่สบายๆ จนกระทั่งได้ไปเห็นคอมพาวนด์อื่นๆนี่แหละ ถึงได้รู้ว่าไอ้ที่เราอยู่นี่มันลูกเมียน้อยนี่หว่า เช่น ที่ Al Yamama II รั้วติดกันเนี่ย การรักษาความปลอดภัยก็ดีกว่า สภาพทั่วๆไปก็ดีกว่ามาก หน้าบ้านแต่ละบ้านมีสวนสวยงาม (ไม่ใช่ต้นไม้โทรมๆอย่างหน้าบ้านเรา) สระว่ายน้ำอย่างใหญ่ มีร้านอาหารอย่างดี ที่สำคัญมีกิจกรรมให้เด็กๆมากมายค่ะ จะพ่อจะแม่ก็พาเด็กๆไปเรียนนู่นเรียนนี่เสริมความรู้ได้ทั้งนั้น อยู่ในนั้นไม่ต้องคลุมตัวคลุมผม อยากใส่อะไรก็ใส่ ได้ไปเยี่ยมพี่คนไทยที่อีกคอมพาวนด์นึง หูว์ ดีกว่าอีก มีโรงเรียนอินเตอร์อยู่รั้วติดกัน มีวารสารของตัวเองบอกข่าว แจ้งกิจกรรมเด็กๆ เรียกว่าเหมาะมากๆสำหรับครอบครัว อยู่ที่นี่เน้นครอบครัวเป็นหลักค่ะ คนโสดๆจะไม่ได้อยู่คอมพาวนด์แบบนี้หรอก

เฮ้อ พูดไปก็หาว่าบ่น ที่อยู่ที่มีก็ใช่ว่าไม่ดี แต่ก็ขอบ่นล่ะค่ะ กลับบ้านจากทำงานเหนื่อยๆทั้งทีก็อยากผ่อนคลายเป็นตัวของตัวเองจริงๆ แต่อยู่ใน Al Yamama I นี่มันทำไม่ได้นะ ที่เซ็งมากกว่าคือเรื่อง facilities ทั้งหลายที่มันน่าจะดีกว่านี้ คิดดูละกันว่าอยู่ที่ซาอุไม่มีอะไรอย่างอื่นให้ทำ โรงหนังก็ไม่มี ร้านกาแฟส่วนใหญ่ก็ไม่มีที่ให้ผู้หญิงนั่ง มีแต่ห้างให้เดินช็อปปิ้ง ถ้าเราหากิจกรรมอะไรทำได้ในคอมพาวนด์นี่ก็ดีกว่าออกไปเดินห้างมากๆ นี่อ้อมอยากไปเดินออกกำลังบนสายพานในยิมกับคริสก็ทำไม่ได้ จะไปว่ายน้ำก็ว่ายไม่ได้ ที่สำคัญก็คือหลังคลอดอ้อมจะกลับไปทำงานก็ต้องฝากเจดไว้กับ daycare ที่นี่ ยังไม่ได้ไปดูเองเลย คิดว่าก็น่าจะโอเคแต่ปัญหาก็คือนางพยาบาลดันไม่พูดภาษาอังกฤษ กลัวเวลามีปัญหาแล้วจะพูดกันไม่รู้เรื่องนี่แหละ

แต่....ตอนนี้ก็มีข่าวลือแพร่สะพัดอยู่ว่าทุกคนอาจจะต้องย้ายออกจากที่นี่ค่ะ เพราะสัญญาเช่าจะหมดในเดือนมิถุนา แถมเจ้าของที่ก็อยากได้ที่คืนจะแย่อยู่แล้วเพราะมันโทรมลงไปมากๆ (อย่างว่าให้ซาอุอยู่ซาอุดูแลก็อาจเป็นเช่นนี้ได้น่ะแหละ) ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆก็ลุ้นกันล่ะค่ะว่าเขาจะย้ายเราไปอยู่ที่ไหน ถ้าต้องย้ายบ้านช่วงเดือนพฤษภาคงสนุกน่าดู กำหนดอ้อมคลอดพอดี ฮ่ะๆๆ

Saturday, January 12

เจดถีบแม่แล้วจ้า

ขอเขียนย้อนหลังหน่อย เมื่ออาทิตย์ที่แล้วได้รู้สึกว่าเจดดิ้นดุ๊กดิ๊กๆอยู่ในพุงแล้วค่ะ เออ จริงๆต้องเขียนย้อนหลังไปถึงอัลตราซาวนด์ครั้งแรกที่นี่เลยมั้ง ไปหาหมอที่โรงพยาบาล The Kingdom ซึ่งเป็นโรงพยาบาลเอกชนที่ริยาดนี่ หมอก็ดูแบบคร่าวๆให้ ก็ได้เห็นกระดูกสันหลัง เห็นลูกนอนอยู่หัวใจเต้นตุบๆ แล้วหมอก็ดูขาดูก้นด้วย เห็นชัดอยู่เหมือนกัน อ้อมก็เลยถามหมอว่าผู้หญิงหรือผู้ชาย หมอก็บอกว่า "It looks like a she." ค่ะ ตอนนี้ก็เลยเรียกลูกว่าเจด Jade ที่แปลว่าหยก เป็นชื่อที่อ้อมคิดไว้นานแล้ว

ทีนี้เมื่อสองอาทิตย์ก่อน อ้อมก็เริ่มเข้า week ที่ 21 แล้ว ตามหนังสือเขาว่าน่าจะรู้สึกว่าลูกดิ้นได้ตั้งแต่ช่วง week ที่่ 16-22 อ้อมก็ขักเริ่มกังวลหน่อยๆ เอ...ชักจะข้าไปหน่อยแล้วจนป่านนี้ยังไม่รู้สึกเลย กลัวว่าตัวเองเหนื่อยไปไม่มีเวลาผ่อนคลายอย่างจริงจัง ทำให้ไม่รู้สึกซักที หรือไม่งั้นก็หมายความว่ามีอะไรผิดปกติรึเปล่า จนบ่ายวันที่ 3 มกรา กลาง week 21 นั่นแหละ ลองนั่งพักผ่อนดูทีวีแบบสบายๆอย่างจริงจังดู (ปกติอยู่บ้านวันหยุดก็ทำงานบ้าน ทำกับข้าวตุนไว้ไปเรื่อยเปื่อย ไม่ค่อยได้อยู่นิ่งๆมาก) สักพักรู้สึกเหมือนมีอะไรเต้นๆตุบๆอยู่ในท้องค่ะ เหมือนมีหัวใจเต้นตุบๆอยู่ ก็ไม่แน่ใจว่าใช้เจดดิ้นรึเปล่า แต่ก็หันไปบอกคริสแหละ พอแม่โทรมาเย็นนั้นก็เลยถามแม่อีกที แม่ก็บอกว่าใช่แล้วล่ะ ดีใจมากๆเลย เจดมาถีบแม่ตามเวลา เหมือนกับจะบอกแม่ว่าไม่ต้องกังวลล่ะน้า หนูสบายดีค่ะ =^_^=

Photobucket


ตอนนี้ก็รู้สึกว่าเจดดิ้นดุ๊กดิ๊กอยู่ในพุงทุกวันแล้วค่ะ เธอจะคึกหน่อยช่วงบ่ายๆเย็นๆหลังจากอ้อมเลิกงานกลับบ้านมาได้พักผ่อนหน่อยแล้ว แต่บางทีสอนๆอยู่เจดก็ดิ้นให้รู้สึกอยู่เหมือนกัน ดุ๊กดิ๊กๆเหมือนมีปลาว่ายอยู่ในพุงค่ะ ลูกดิ้นทีแม่ก็แฮปปี้นะคะ

ปล. กลัวน้ำหนักขึ้นไม่พอ เพิ่งขึ้นมาได้แค่ 4-5 โลเอง ช่วงนี้เลยโด๊ปด้วยโรตีกล้วย เหอะๆ ไปเจอแผ่นโรตีแช่แข็งในซุปเปอร์มาร์เก็ตเลยลองซื้อมาทอดดู ใส่เนยตอนทอดเยอะหน่อย ออกมากรอบมันอร่อย ขุนตัวเองไม่พอขุนคริสด้วยค่ะ

Photobucket

Friday, January 4

เรื่องเล่าจากซาอุ (ตอนที่ 2): เที่ยวตลาด Batah

รีบมาเขียนก่อนที่จะต้องไปตรวจการบ้านกองพะเนินค่ะ จริงๆไปที่ตลาด(ที่นี่เรียกว่า souk) นี้มาหลายอาทิตย์แล้ว ตลาด Batah อยู่ในตัวเมืองริยาด เป็นตลาดห้องแถวที่ใหญ่มากๆ มีหลายบล็อค ขายสินค้าต่างๆกันไปตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบนั่นแหละ เป็นตลาดขายส่งด้วย น่าจะเหมือนประตูน้ำบ้านเรา

ตอนที่ไปนั่นเดินได้แค่ส่วนเล็กๆของตลาดเท่านั้น ผู้คนมากมายดีค่ะ ส่วนใหญ่คนขายของจะเป็นต่างชาติ ทั้งอินเดีย ปากี บังกลาเทศ มีตลาดฟิลิปปินส์ด้วย แต่ไม่ได้ไป พี่คนไทยที่ได้รู้จักที่นี่เขาบอกว่าแต่ก่อนตลาด Batah นี้คนไทยยึดครองเกือบครึ่ง แต่หลังจากกรณีเพชรซาอุ คนงานไทยน้อยลงมาก ตอนนี้ก็เลยเป็นชาติอื่นๆไปแทน แรงงานหลักก็เป็นฟิลิปปินโนซะส่วนใหญ่ (ไอ้เราก็ดันหน้าเหมือนน้องปิน เดี๋ยววันหลังค่อยเขียนเรื่องนี้) แหม เราเลยอดทานของไทยเลย ของชำไทยๆหาไม่ค่อยได้ค่ะ

ลองดูรูปดีกว่า ไม่ได้ถ่ายมามากเลย เพราะไม่ค่อยอยากพกกล้องไปไหนมาไหน บางที่ห้ามถ่ายรูปด้วย เพราะกลัวไปถ่ายติดหน้าสาวซาอุเข้า

Photobucket
ตลาดห้องแถว มีซอกซอยให้เดินระหว่างตึก


Photobucket
น้องแมวในตรอก


แวะร้านขายเครื่องเทศกับถั่ว (อาบังขายถั่ว อิอิ)

Photobucket
ได้ถั่วมาทานเล่นอร่อยดี ถูกกว่าซื้อในซุปเปอร์มาร์เก็ตมาก


ไม่ได้ซื้ออะไรอย่างอื่นเลยค่ะ คุณภาพของที่ขายไม่ดีเลย ที่น่าซื้อที่สุดก็คงจะเป็นทอง ทองที่นี่ราคาไม่แพง น่าจะใกล้กับบ้านเรา แล้วฝีมือช่างก็ดี งานสวย ไม่ได้ถ่ายรูปตลาดทองมาให้ดูค่ะ ไม่กล้า เหะเหะ ตอนที่อยู่ในร้านทองร้านนึงเจ้าของร้านก็จะไปตีกับแขกอีกคนซะงั้น เลยต้องรีบเดินออกมากลัวโดนลูกหลง

ก่อนออกจากบาตะห์ก็แวะซื้อน้ำอ้อยสดทานค่ะ แก้วละ 2 riyals ก็ประมาณ 20 บาทบ้านเรา ยืนดูเขาทำอยู่ก็ว่าสะอาดดีเลยกล้าทานค่ะ ถ้าไม่ท้องก็คงไม่คิดมากหรอกแต่นี่ท้องอยู่ก็ไม่กล้าเสี่ยงค่ะ หวานเย็นชื่่นใจดี

Photobucket



ออกจากบาตาห์มา ได้ไปแวะซื้อปลาที่ตลาดปลา ตลาดไม่ใหญ่มาก กลิ่นก็นะ ตลบอบอวลตามแบบตลาดปลา ปลาที่นี่สดใช้ได้ ราคาไก็ไม่แพง ได้ปลาทูตัวไม่ใหญ่นักมาโลนึง โลละ 5 riyals เอง กับจาระเม็ดขาวมาสองตัว ซื้อเสร็จเขาจะมีคนมาคอยรอล้างควักไส้ทำความสะอาดให้ค่ะ เสียค่าล้างปลาเพิ่มอีกโลละ 3 riyals ก็โอเค ดีกว่ามาทำเองเพราะทำไม่เป็น ฮ่าๆ แค่ทอดปลาทานในบ้านคริสก็เหม็นจะแย่แล้ว วันนั้นทอดจาระเม็ดทานเลยสองตัว ทำน้ำปลาพริกแกล้มด้วย โอ้ว์ อร่อย เพราะไม่ได้ทานมานานนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนมากๆ

Photobucket


ไปก่อนล่ะค่า วันหลังมาเขียนใหม่ เหลืออีกหลายเรื่องที่อยากเขียนเลย

ปล. สกุลเงินที่นี่เรียกว่า riyal ค่าเงินคงที่ 3.75 riyal = 1 US. dollar อ้อมคิดง่ายๆก็ 1 riyal = 10 บาท