Wednesday, July 1

เที่ยว UAE (ทำไมมันต่างจากซาอุราวหน้ามือกับส้น...อย่างนี้วะ) Part 1: Riyadh - Dubai - The Palm

เมื่อเดือนเมษาได้หยุดอาทิตย์นึงก็เลยไปเที่ยว UAE กัน (ทำงานเป็นครูที่ซาอุสบายอย่างนี้นี่แหละ หยุดบ่อยสุดๆ) ไปคราวนี้เรียกได้ว่าทริปประหยัดเพราะคริสมีเพื่อนทำงานอยู่ที่นั่น ที่พักก็เลยฟรี เขากำลังจะย้ายกลับเมกาเดือนมิถุนาแล้ว เลยรีบไปซะก่อน

เริ่มจากไฟลท์ที่บินไป เนื่องจากจองตั๋วช้า เลยไม่ได้ตั๋วบินตรงราคาประหยัด เลยต้องไปต่อเครื่องที่บาห์เรน ออกจากริยาดห์ได้ก็โล่งไปเยอะ (ถอดอบายาตั้งแต่อยู่ในเครื่องเหมือนยกภูเขาออกจากอก คนที่อยู่ซาอุจะเข้าใจว่าได้ออกนอกประเทศเมื่อไหร่เหมือนได้ไปชุบชีวิตใหม่) เจดก็คึกคักใช้ได้ แต่ไม่งอแงเลย ดูนู่นดูนี่ดูดนมแม่บ้างไปเรื่อย มามีเรื่องให้เสียวตอนจะลงที่บาห์เรน เครื่องค่อยๆลดระดับลงเรื่อย เราก็มองลงไป ก็เห็นเมืองเห็นสนามบินข้างล่าง บาห์เรนเป็นเกาะเล็กนิดเดียวเอง ซักพัก เอ๊ะทำไมเครื่องบินเลยไปอีกเนีย มองลงไปไม่เห็นอะไรเลย ทะเลนี่หว่า ดูเวลา เอ ก็น่าจะแลนด์ได้แล้ว แต่ไม่ยักกะแลนด์ซักที บินไปอีกหลายนาทีมาก แล้วจู่ๆกัปตันก็ดึงเครื่องเชิดหัวขึ้นสุดฤทธิ์ แบบรู้สีกว่าหน้าแหงนหลังติดเบาะเลย เราเริ่มมองหน้ากัน บินมาหลายไฟลท์ในชีวิตนี้ไม่เคยเจอแบบนี้เว้ย อาการไม่ดี อีกซักพักกัปตันก็ประกาศว่ารันเวย์ไม่ว่างต้องรอกันอีก โห แล้วลดความเร็วลดระดับลงต่ำขนาดนั้นทำไมตั้งแต่แรกวะนั่น ถ้าไม่ดึงเครื่องขึ้นขนาดนั้นก็คงได้ลงกลางทะเลไปแล้วสิเนี่ย

พอเครื่องลงก็ต้องไปต่อเครื่องไฟลท์ถัดไปทันที คนก็รอผ่านเครื่องตรวจกันเยอะมาก แต่เจ้าหน้าที่น่ารักมากเห็นเราอุ้มเด็กมาก็กวักมือเปิดที่กั้นให้ไปลัดคิวไปผ่านเครื่องสแกนทันที ไปถึงดูไบก็เจอเจ้าหน้าที่น่ารักอีกแหละ อ้อมไม่ได้ทำวีซ่าไปเพราะมีบัตรคนต่างด้าวที่ซาอุ เข้าดูไบได้ แต่ต้องไปสแกนตาก่อน คุณยามเห็นเราอุ้มเจดก็มาเล่นด้วยแล้วก็พาไปหน้าเคาน์เตอร์เลยอีกเหมือนกัน ไม่ต้องรอ น่ารักจริงๆ เทียบกับที่สนามบินที่ริยาดห์ก็นะ...อย่าให้พูดดีกว่า

หลุดออกมาจาก passport control ได้ก็ต้องมารอกระเป๋ากับรถเข็นและคาร์ซีทอีกนานเหมือนกัน พอได้ของก็แวะเข้า duty free ซื้อเบียร์ซื้อไวน์เพียบ ถือเป็นของฝากเพื่อนคริสไปด้วย คืนนั้นกว่าจะได้เข้านอนก็ดึกพอสมควร อ้อมกินเบียร์ไปกระป๋องนึงก็หลับสบาย ส่วนคริสกินไปหลายอยู่ เช้าวันรุ่งขึ้นแฮงโอเวอร์ซะ ส่วนหนูเจดก็ดันเป็นหวัดขี้มูกยืด ไข้ขึ้นนิดๆ คงเพราะฟันจะขึ้นด้วย วันรุ่งขึ้นเลยไม่ได้ทำอะไร เดินข้ามไปทานข้าวที่ร้านริมหาดเฉยๆ เพื่อนคริสเช่าอพาร์ทเม้นต์อยู่ที่ Palm Jumeirah ตัวตึกอยู่ตรงโคนต้นปาล์มนั่นแหละ ก็หรูหราดี ทะเลก็สวยใช้ได้ หาดทายขาว มันแปลกๆหน่อยที่มองไปดันเห็นตึกสูงระฟ้า แทนที่จะเห็นแต่เส้นขอบฟ้าเหมือนทะเลทั่วไป

Photobucket
หาดทราย(ปลอม)ขาวๆ


Photobucket
โคนต้นปาล์ม


จากคอนโดเพื่อนคริสเดินข้ามถนนไปอีกฝั่งก็จะเป็นคอนโดที่ติดทะ้เล มียิมมีสระว่ายน้ำ ร้านอาหาร เฉพาัะให้คนที่อยู่ใน The Palm เท่านั้น ต้องมีบัตรถึงจะผ่านเข้าไปได้

Photobucket
สระว่ายน้ำติดทะเล


Photobucket
หาดสวยมองเห็นโรงแรมหรูของดูไบ


Photobucket


เย็นนั้นไปทานบาร์บีคิวที่บ้านเพื่อนของเพื่อนคริส อยู่ในปาล์มเหมือนกันแต่เป็นช่วงใบปาล์ม หรูจริงอ่ะ บ้านไม่ถึงกับใหญ่มากแต่ห้องต่างๆก็สวยดี ดูน่าอยู่ มีสระว่ายน้ำเล็กๆอยู่หลังบ้านที่ติดกับหาดทราย ไม่ไดุ้่ถ่ายรูปตัวบ้านมาเพราะเกรงใจเขา หนูเจดก็เป็นไข้อยู่เลยไม่ได้ว่างมาก ได้แต่รูปชายหาดปลอมๆยามเย็นมา

Photobucket


Photobucket


Photobucket


โพสท์นี้ร้างไปนาน ตั้งต้นเขียนตั้งแต่สองเดือนที่แล้วแต่เขียนไม่เสร็จ ลืมรายละเอียดไปเยอะเลยว่าแต่ละวันทำอะไรบ้าง ไม่อยากให้รูปเยอะเกิน เอาเป็นว่าจบที่ The Palm ก่อนละกัน