Sunday, July 30

ลิลลี่

ต้นลิลลี่
บานชูช่อ
อยู่ในสวน ซูมใกล้ๆดอกใหญ่ๆดูชัดๆ
รอแย้มกลีบ
ล่อผีเสื้อ
หอมหวลเอย


----จบกลอนมั่วค่ะ----

Friday, July 28

Baseball Game

เอาเรื่องเก่ามาเขียนหน่อย เดือนที่แล้วไปดูเบสบอลที่คลีฟแลนด์มาสองเกม เกมแรกดิอินเดียนส์แข่งกับนิวยอร์คแยงกีส์ ที่เป็นทีมที่มีแฟนๆมากที่สุดในลีก ขนาดวันนั้นเป็นวันธรรมดา คนไม่น่าจะเยอะ (ปีนี้ดิอินเดียนส์เล่นห่วยมาก แฟนๆเลิกซื้อตั๋วมาดูแล้ว) แต่พอเป็นทีมแยงกีส์มาคนเพียบ ถึงขั้นต้องต่อแถวเข้าสเตเดียม ไม่เคยเจอมาก่อน ที่สำคัญค่าที่จอดรถขึ้นราคาเป็นเท่าตัวเฉยเลย ปกติเสียแค่ $3 เพราะจอดไกลสเตเดียมหน่อย ขึ้นเป็น $7 ซะงั้น ถ้าจอดใกล้ก็ $20 โห ขูดเลือดขูดเนื้อมาก คุยกับคริสว่านี่มันราคานิวยอร์คนี่หว่า
ไปดูเบสบอลก็ต้องทาน Nachos ชีสเยิ้มๆ อ้อมชอบพริก jalapeno ดองมากๆ แก้เลี่ยนดี
ดูเกมผ่านแก้ว(เบียร์) ไม่งั้นคงดูไม่สนุก

ดูสนามเบสบอลผ่านแว่นคริส คือกะให้เป็นรูปคอนเซ็ปท์ คอนเซ็ปท์อะไรก็ไม่รู้เหมือนกัน อยากให้ออกมาเท่ห์ๆแต่มันไม่เท่ห์เท่าไหร่ (อันนี้ต้องโทษนายแบบ อิอิ)

สายไหมก็มีขายค่า


คนเพียบ เยอะกว่าปกติ เป็นแฟนๆทีมแยงกีส์ซะครึ่งนึงได้มั้ง

ตอนนี้อ้อมมีตัวช่วยให้ดูเบสบอลสนุกขึ้นค่ะ ขวัญใจคนใหม่(คนเก่าคือคริสไง) รูปนี้ซูมสุดฤทธิ์ เสียดายไม่เห็นหน้า

ก็เลยต้องถ่าย scoreboard แทน ขวัญใจสาวๆคนนี้ชื่อ Grady Sizemore หล่อที่สุดในทีมเล้ยยยยยยยยยยย ยังหนุ่มยังแน่น โสดสนิท เล่นก็ดี อ้อมดูไปกรี๊ดไป ส่วนใหญ่กรี๊ดในใจนะ กรี๊ดออกหน้าออกตามาก คุณคริสงอนฮ่ะ
คริสบอกว่าเสื้อยืดทีมที่ขายดีที่สุด คือแบบที่เขียนว่า Mrs. Sizemore สาวๆซื้อกันเพียบฮ่ะ อ้อมชอบแซวคริสเล่นๆว่าอยากได้ซักตัว แหย่ให้คริสงอน หนุกดี :-)

ปิดท้ายด้วยรูปสเตเดียม



อ้อ วันนั้นอินเดียนส์แพ้รูดค่ะ อีกเกมที่ไปดูก็แพ้อีกเหมือนกัน ปีนี้ไม่มีหวังจะได้ไปเล่น playoff แน่ๆ อ้อมกับคริสมีตั๋วอีกสองเกม ยังไม่รู้จะไปดูดีรึเปล่า ขับไปไม่คุ้มค่าน้ำมัน แต่เกมที่จะไปดูแน่ๆคือวันอาทิตย์ที่ 13 สิงหา จะพาหลานๆคริสไปด้วย

ปอลอป๋อหลอ: ขอบ่นคริสหน่อย อ้วนจะแย่อยู่แล้วยังไม่ยอมเปลี่ยนนิสัยการทานอาหาร เมื่อวานอ้อมทำก๋วยเตี๋ยวเนื้อสับให้พ่อกับแม่คริสทานตอนเย็น อ้อมเองไม่ได้ทานด้วยเพราะทานบุฟเฟต์อาหารจีนตอนบ่ายไป อิ่มมาก คริสก็ไม่ทานเพราะงีบหลับอยู่ หลังจากตื่นก็ขับรถพาแมดดี้ไปเข้าโรงเรียนฝึกหมาที่บ้านลอรี่ ระหว่างทางคริสแวะซื้อดับเบิ้ลชีสเบอร์เกอร์ที่แมคโดนัลด์ อ้อมงี้จี๊ดเลย หนอย ทำก๋วยเตี๋ยวเนื้อสับดีๆใส่ผักเพียบให้ทานไม่ทาน ดันเลือกทานชีสเบอร์เกอร์ เออ ตัวใครตัวมันก็แล้วกันฟระ อดเหน็บไม่ได้ว่า พ่อก็ผ่าตัดเปิดหัวใจตอนอายุสี่สิบกว่า นี่ตัวเองอยากจะทำลายสถิติครอบครัวหรือไง (เฮ้อ เหนื่อยใจ สามีอ้วน)


อาหารที่อยากทานวันนี้: น้ำพริกหนุ่ม หมูทอด ข้าวเหนียว

Wednesday, July 26

อัพเดท/บ่นนิดบ่นหน่อย

ไม่ได้เขียนมาหลายวันด้วยความขี้เกียจปนเซ็งชีวิตเล็กน้อยและปนคิดถึงบ้านมากๆ ไม่ค่อยได้ทำอะไรด้วยแหละหลังจากกลับมาจาก Cincinnati แบบมึนๆ มาวันนี้ถึงค่อยมีอารมณ์อยากเขียนขึ้นมาหน่อย แต่ไม่มีรูปให้ดูนะคะ ยังขี้เกียจถ่ายขี้เกียจทำรูป

อัพเดทไปทีละเรื่องละกัน อ้อ เนื่องจากว่ามีลูกศิษย์รีเควสต์ให้เขียนคำภาษาอังกฤษกำกับบ้างเพื่อการเรียนรู้ ก็จะมีคำศัพท์เทค-กะ-นิกเป็นภาษาอังกฤษสอดแทรกไปบ้างพอหอมปากหอมคอ (เอ นี่เงินเดือนก็ไม่ได้ ยังต้องทำหน้าที่ครูอีกหรือเนี่ย ฮ่ะๆ)

พืชผักสวนครัว: sweet basil ใบเหลืองอ๋อยเลย แต่ออกดอกพรึ่บพรั่บมาก คาดว่าดอกบานมีเมล็ดเมื่อไหร่ มันคงตายตามอายุขัย ส่วนโหระพา (Thai basil) ยังดกดีแต่ใบเล็กแกรนไม่โตซักที เก็บยอดๆมาทำแกงเขียวหวานเนื้อหม้อเบ้อเริ่มไปเรียบร้อยแล้ว อิอิ มะเขือเทศเชอรี่ก็ค่อยๆทยอยสุกแดงมีให้เก็บได้วันละสามสี่ลูกทุกวัน ผักกาดหอม (lettuce)ก็ง้ามงาม อ้อมเด็ดมาทำสลัดทานทุกวัน ลดความอ้วนไปด้วยในตัว

บ้านในฝัน: ก็ยังไม่ได้ทำอะไรมากหรอกค่ะ วันอาทิตย์ไปดูบ้านใหญ่บนที่ผืนใหญ่บอกขายราคาถูก แต่ปรากฏว่าไม่ไหวเลย ตัวบ้านเหมือนใช้ (ประทานโทษ) teen เขี่ยๆทำ ที่ดินถึงผืนใหญ่ก็ใช้งานไม่ได้ เป็นเนินชัน ตัดหญ้ายากมีโอกาสเสี่ยงคอหักตายได้ นี่หละน้าเขาถึงว่า (เอ้า เด็กๆ เตรียมจด) "If it sounds too good to be true, it probably is. ถ้ามันฟังดูดีเกินจะเป็นจริงได้ มันก็คงดีเกินจริงจริงๆ" (งงมั้ย) สรุปว่าของถูกและดีไม่มีในโลก อ้อมกับคริสก็ต้องหาบ้านต่อไป คราวนี้ปักใจแล้วว่าจะสร้างในที่ข้างๆบ้านพ่อกับแม่คริสแน่นอน

เมื่อวานคริสต้องไปซื้อของที่ Home Depot อ้อมก็ติดรถไปด้วย คริสก็ซื้อของกับคนงานไป อ้อมก็ไปเดินดูพวกวัสดุสร้างบ้าน เช่น พื้นไม้ กระเบื้อง อะไรพวกนี้ ไปยืนน้ำลายไหลหยดแหมะอยู่หน้ากระเบื้องแก้ว ชอบจริงๆ แต่ราคาก็อ่ะนะ กลุ้มใจตัวเอง รสนิยมวิไลแต่งบในกระเป๋าไปไม่ถึง พอคริสเสร็จธุระ ก็ไปดูบ้านตัวอย่างกันสองแห่ง แห่งแรกคือ Wayne Homes ไปถึงก็คุยกับเซลส์หนุ่มพูดเก่งนิดหน่อยแล้วก็ไปดูบ้านสองชั้น แปลนชื่อ Wilmington ตัวบ้านก็ดูดีเลย ไม่เล็ก floor plan ก็ใช้ได้ (สำหรับอ้อมนะ ส่วนคุณคริสนี่ไปดูที่ไหนๆก็ติ จะย้ายผนังเขาบ้าง ขยายไอ้นู่นบ้างไอ้นี่บ้าง) ราคาเริ่มต้นที่ $154,900 ดูเสร็จก็กลับมาคุยกับเซลส์อีกที เขาก็ถามว่าเป็นยังไง ก็บอกว่าบ้านดูดี แล้วคริสก็บอกว่าอยากได้บ้านแบบที่ปลูกแล้วคุ้มสุดน่ะ เขาก็เชิญเข้าไปนั่งในออฟฟิส พอนั่งปุ๊บเขาก็บอกว่าถามอ้อมกับคริสว่ามีลูกรึยัง จะมีกี่คน แค่เนี้ยแหละ แล้วก็บอกว่าอย่างอ้อมกับคริสนี่ถ้าอยากได้แบบคุ้มสุดให้ลืมไอ้หลังสองชั้นที่เพิ่งดูมาได้เลยแล้วก็แนะนำบ้านที่เป็น split level ขนาดเล็กกว่ามากให้ ราคาเริ่มต้นที่ $97,000 (บ้าน split level นี่สร้างถูก เพราะอย่างที่ชื่อบอก มันจะมีสามระดับ ใช้พื้นที่ห้องใต้ดินเป็นพื่นที่อยู่อาศัย (living space) ด้วย) อ้อมกับคริสก็พยายามอธิบายว่า เอ่อ ไอ้ที่ๆมีอยู่เนี่ย แถบนั้นมันมีแต่บ้านหลังใหญ่ๆ จะไปปลูก split level ก็คงดึงราคาบ้านแถวนั้นให้ร่วงระนาวมาตามกัน คุณเซลส์ก็ยังดึงดันโฆษณาไอ้หลังถูกๆนี่อยู่ได้ แถมจะแนะนำเงินกู้แบบไม่ต้องวางเงินดาวน์ให้ด้วย เราก็คิดในใจ ไอ้หอยหลอด นี่หน้าชั้นดูจนมากหรือไง เงินดาวน์ชั้นก็มี ที่ชั้นก็มีแล้วย่ะ ชั้นจะอยากปลูกบ้านสองชั้นมันก็เรื่องของชั้น สุดท้ายก็ขอแบบแปลนบ้านสองชั้นมาดูเพิ่ม พ่อคุณให้มาแต่แบบบ้านขนาดเล็กๆ ที่เล็กกว่าบ้านที่อ้อมกับคริสอยากได้ไปหลายร้อยตารางฟุต ออกมาจากบริษัทนี้แบบงงๆ ขำกันว่า เออ เราคงดูจนจริงๆ แต่เซลส์พลาดมหันต์ ถ้าไม่ได้ราคาดีจริงๆ อย่าหวังเลยว่าจะกลับไปอีก

หลังจากนี้ก็ไปดูบ้านของอีกบริษัทนึงชื่อ Riceland Homes ตัวบ้านตัวอย่างเก่าเชียว ออกแนวคันทรี่มากๆ แต่ดูแล้วรู้ว่าสร้างดี งานเนี้ยบ ที่นี่ราคาเริ่มต้นของแต่ละแปลนสูง แต่ราคานี้รวมอัพเกรดหลายๆอย่างที่ต้องจ่ายเพิ่มที่บริษัทอื่น เช่น เคาน์เตอร์ทอปในครัวเป็น solid surface และประตูเป็นไม้ตัน แค่อัพเกรดพวกนี้ก็เป็นพันๆเหรียญแล้ว บริษัทนี้เป็นบริษัทเล็ก เหมือนเป็นผู้รับเหมาทั่วๆไป แต่ก็ดีตรงที่ว่าเรามีอิสระเลือกวัสดุได้ ไม่เหมือนกับ home builder ใหญ่ๆทั้งหลายที่ต้องใช้ของที่เขามีเท่านั้น กลับมาถึงบ้านก็มานั่งดูแปลนที่ชอบกัน แต่ก็ยังไม่ถูกใจมาก คาดว่าคงต้องไปนั่งคุยกับเขาว่าจะปรับเปลี่ยนตรงไหนได้บ้างแล้วให้เขาโค้ตราคาให้ กะว่าจะเริ่มปลูกฤดูใบไม้ผลิ (spring) ปีหน้าอยู่ดี ยังมีเวลา

แมดดี้ เดอะ แม้ดด้อก: หลังจากที่แมดดี้กลับมาจากการไปตากอากาศช่วงวีคเอนด์ที่บ้านลอรี่ เธอก็ดูสงบเสงี่ยมดียกเว้นเวลาคึกจริงๆที่จะวิ่งวนรอบบ้านพร้อมทั้งกระโดดขึ้นลงโซฟา ไอ้ขึ้นนั่งบนโซฟานี่ แมดดี้เลียนแบบเทย์เลอร์ชัดๆ เห็นครั้งเดียว เอามั่งเลย

เมื่อคืนนี้พ่อกับแม่คริสเพิ่งชมแมดดี้อยู่ว่าโตขึ้นแล้ว ดูสงบขึ้นแล้ว พูดจบไปไม่ถึงชั่วโมง อ้อมก็ได้กลิ่นตุๆโชยมา ใช่เลยคุณแมดดี้ปล่อยของหนักใน sunroom กลิ่นสุดบรรยาย อ้อมก็ต้องเช็ดสิ กลิ่นแรงมากๆ เกือบอ้วกอาหารเย็นออกมา แหวะ พอตอนกลางคืนอ้อมกับคริสก็ปล่อยให้แมดดี้นอนนอกกรง คือสงสารเพราะว่าอากาศร้อน คืนก่อนก็ปล่อยให้นอนบนเตียงจนถึงตีสาม พออ้อมก็ได้ยินเสียงกุกกักๆ ก็เลยลากเข้ากรงไปก็โอเค เมื่อคืนนี้ก็เลยชะล่าใจ ปล่อยให้นอนข้างนอกอีก ตีสามเวลาเดิม ได้ยินเสียงกุกกักอยู่ที่ประตูห้อง อ้อมก็เรียกแมดดี้ให้มาที่เตียงจะได้เอาเข้ากรง เรียกเสร็จ เอ่อ กลิ่นมาเลย เหม็นมากๆ คริสก็ตื่นขึ้นมาบอกแมดดี้อึแน่ๆ ใช่เลย กองเบ้อเริ่มอยู่หน้าประตู สดๆเปียกๆ แหวะๆๆๆ คราวนี้ให้คริสเก็บ อ้อมลากแมดดี้มาขังกรง เช็ดเสร็จคริสต้องเอาสเปรย์ปรับอากาศมาฉีด ยิ่งแย่ใหญ่ ตอนนี้เปิดแอร์ปิดหน้าต่างนอนด้วย ปรากฏว่าคืนนั้นฝันร้ายมาก ฝันว่าต้องเก็บอึแมดดี้ที่เกลื่อนกลาดไปหมด อี๋ย์ๆๆๆๆ ถ้าใครอ่านแล้วหยะแหยงคลื่นไส้ก็ขออภัยนะคะ อ้อมยังแหยงอยู่เลย แมดดี้อายุก็สี่เดือนแล้ว ไม่รู้เมื่อไหร่เธอจะอั้นได้เวลาอยู่นอกกรง ตอนนี้เธอก็ต้องทนนอนในกรงร้อนๆไปก่อนละกัน ช่วยไม่ได้ ทำตัวเอง

Sunday, July 23

ดอกไม้หน้าร้อนจ้า

ช่วงนี้ขี้เกียจเขียนค่ะ คิดถึงบ้านเหลือเกิน เอารูปดอกไม้ที่อ้อมค่อยๆถ่ายเก็บไว้ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมาไปดูแก้ขัดก่อนนะคะ



โพสต์หน้าเขียนเรื่องอะไรดี
ถ้าไม่ขี้เกียจจะถ่ายรูปแมดดี้มาให้ดูกันดีกว่า เสาร์อาทิตย์นี้แมดดี้ไปอยู่บ้านลอรี่ ที่นี่เลยเงียบซะ
แต่ขอบอกว่าอ้อมได้นอนหลับสบายเต็มตื่นที่สุด อิอิ

Thursday, July 20

ไป Cincinnati, Ohio/Covington, Kentucky

Tชีพจรลงเท้าอีกแล้วค่ะ เมื่อวันอังคารคริสกับอ้อมไป Cincinnati มา เมืองนี้เป็นเมืองใหญ่(สำหรับที่นี่)อีกเมืองในโอไฮโอ อยู่ทางใต้ติดกับรัฐ Kentucky ขับรถจากบ้านไปประมาณ 4 ชม.ได้ ทริปนี้ไปแค่สองวัน คริสมีประชุมดูแทงค์น้ำวันพุธตอนบ่ายโมง จริงๆจะออกจากบ้านเช้าวันนั้นเลยก็ได้แล้วขับกลับ แต่เนื่องจากว่าเผอิญ Josh ซึ่งเป็นเพื่อนเก่าตั้งแต่สมัยเรียนที่ฮาวายย้ายไปอยู่ที่นั่น ก็เลยตกลงว่าจะไปตั้งแต่เย็นวันอังคาร จะได้ไปสังสรรค์กันหน่อย ไม่ได้เจอกันมาหลายปีแล้ว
ขับผ่านดาวน์ทาวน์ Cincinnati อยู่ติดแม่น้ำเลย
สนามเบสบอลของเมือง ตอนแรกว่าจะมานั่งดูเบสบอลที่นี่กันแล้วก็จิบเบียร์คุยกันไปด้วย แต่อ้อมกับคริสดันเจอรถติดเลยสายไปครึ่งชม. เกมเริ่มไปเรียบร้อยแล้ว ก็เลยไม่ได้ไป

เพื่อนจอชจองห้องที่พักไว้ให้อ้อมกับคริสที่เมือง Covington ในเคนตั้กกี้ ซึ่งก็แค่ข้ามแม่น้ำจาก Cincinnati ไปอีกฝั่งก็ถึงแล้ว ที่ๆไปพักนี่เป็น bed and breakfast (B&B) คือเป็นบ้านคนเอามาทำเป็นโรงแรม จอชบอกว่าอาหารเช้าเด็ดมาก งานนี้จอชเป็นสปอนเซอร์ให้ B&B นี้ชื่อ Amos Shinkle เป็นบ้านเก่าอายุร้อยกว่าปี สวยมากๆ เจ้าของเป็นเกย์ฮ่ะ แก่แล้วด้วย "พาร์ทเนอร์"แกเพิ่งเสียไปเมื่อต้นปีนี่เอง ไปถึงก็แบบ B&B คือขอกุญแจมาไปไขห้องเลย เป็นกันเองดี เสียดายที่ถ่ายรูปมาไม่เยอะ มาถ่ายตอนเช้าหลังเช็คเอาท์แล้วแบบมึนๆ (เดี๋ยวจะบอกว่าทำไม)

หลังจากเก็บของเข้าห้องแล้วก็ออกไปหาอะไรทานและดื่มกันแถวๆนั้นแทนที่จะไปดูเบสบอล เพราะถ้าจะไปดื่มกันที่สนามเบสบอลนี่ คงหมดตัวก่อนมึน(เมา) จอชพาเดินผ่านบ้านเก่าๆทั้งหลายไปผับเยอรมันที่ย่านเที่ยวกลางคืนของที่นั่น ไปถึงก็ขอนั่งข้างในเลย เพราะอากาศร้อนมากๆๆๆ สั่งเบียร์สั่งชิปส์กันมาทาน ที่นี่เบียร์หลากหลายมาก ส่วนใหญ่อิมพอร์ตมาจากยุโรป ราคาก็ไม่ถูกค่ะ

มองออกไปดูบรรยากาศภายนอก มีผับอื่นอีกหลายแห่งอยู่ใกล้ๆกัน เมืองนี้เป็นเมืองคนเยอรมันเก่า อีกสองเดือนก็จะมีงาน Octoberfest ด้วย

บรรยากาศในร้าน รูปมืดหน่อยนะคะ ไม่อยากใช้แฟลช
สรุปว่านั่งกินดื่มคุยเมาท์ความหลังกันกระจายตั้งแต่ทุ่งครึ่งยันเกือบตีหนึ่ง สั่งเบียร์กันไม่รู้กี่รอบ มึน(เมา)มากๆ ความรู้สึกย้อนกลับไปเหมือนสมัยเป็นนักเรียนอีกครั้ง สมัยนั้นอิสระดีแท้ เพื่อนๆที่ฮาวายก็แสนดีปาร์ตี้กันทุกอาทิตย์ สังสรรค์กันหนักมาก (แต่ก็เรียนกันดีๆนะ)

ตื่นเช้ามาได้เรื่องเลย อ้อมท้องเสียและแฮงโอเวอร์ ฮือๆ ท้องไส้ปั่นป่วนมากๆ แถมมึนด้วย กว่าจะตื่นมาอาบน้ำแต่งตัวกันกับคริสก็ปาเข้าไปเก้าโมงเช้าแล้ว สายสุดเลย จอชต้องมาเคาะห้องปลุก ลงมาข้างล่างก็สั่งเบรคฟาสต์มาทาน อย่างหรูค่ะ

เริ่มด้วยน้ำส้ม ผลไม้ ชากาแฟ

coffee cake ที่หวานหอม (แต่อ้อมกระเดือกไม่ค่อยลง)

เบรคฟาสต์ชุดใหญ่

อ้อมสั่ง scrambled eggs, wheat toast, bacon และ goetta (ที่เห็นเป็นแผ่นๆใต้เบคอน รูปข้างล่าง) goetta นี่เป็นอาหารพื้นบ้านของแถบนี้ เขาบอกว่าเป็นอาหารของคนเยอรมันที่อพยพมาสมัยก่อน คล้ายๆไส้กรอกแต่ร่วนๆหน่อย อร่อยดีแต่อ้อมทานไม่ลงจริงๆ อารมณ์ตอนนั้นอยากทานข้าวต้มหมูหยองเบาๆ ไม่ใช่อาหารเช้าหนักๆไขมันจุกอกอย่างนั้น ถ้าฝืนกินเข้าไปคงได้อ๊อกออกมาหมด สรุปกินไปได้ไม่กี่คำ เพื่อนจอชรับไปกินต่อเกือบหมด ซึ่งก็ดีแล้วเพราะเกรงใจคนทำมาก เขารอทำให้เราทานก่อนแล้วเขาก็ทำของตัวเองมานั่งทานด้วย ประมาณว่าเป็นเพื่อนและน้องสาวของเจ้าของบ้าน ไม่ใช่แม่ครัวทั่วๆไป พอทานเสร็จก็ขอไปเข้าห้องน้ำ (รอบที่ห้า) เอนหลังอีกสักนิด เสร็จแล้วก็ร่ำลาจอช เช็คเอาท์ (แค่คืนกุญแจ) อ้อมถ่ายรูปบ้านไปได้หน่อย ที่เห็นในสไลด์ข้างบนน่ะแหละ ออกมาไม่สวยสมใจเลย ตัวโครงสร้างบ้านเขาแกรนด์มากๆ ของตกแต่งก็เป็นแบบของเก่าเพียบ ถ่ายแบบมึนๆได้มาแค่นั้นแหละ

ออกจาก b&b คริสก็ไปประชุม อ้อมนอนหลับรอในรถ ตอนขับรถกลับบ้านก็ดีขึ้นหน่อย แต่โลกกลับมา stable จริงๆอีกครั้งนึงก็ตอนเช้าวันนี้หลังจากกลับมานอนเต็มตื่นที่บ้านเมื่อคืน เข็ดแล้วจ้า ป้าแก่แล้ว สัญญากับตัวเองว่าจะไม่ดื่มเบียร์เกินสองแก้วอีกเด็ดขาด -_-"

Monday, July 17

มะเขือน้อยกลอยใจ

อัพเดทเรื่องพืชผักสวนครัวหน่อย มะเขือเทศเชอรี่ลูกจิ๋วลูกนี้ คือผลผลิตรุ่นแรกที่เก็บได้จากต้นมะเขือเต้ดที่ลงไว้ต้นหน้าร้อน (จริงๆมีสุกแค่สองลูก หิหิ กินไปลูกนึงแล้ว หวานอร่อย) ตอนนี้เติบโตกันดี เป็นพุ่มเบ้อเริ่มเลย แมรี่แอนต้องคอยผูกกับหลักพันธุ์เชอรี่ที่ยังเขียวอยู่ก็หลายพวง ถ้าสุกพร้อมๆกัน คงทานไม่ทัน ไม่รู้แจกใครได้มั้ย เห็นปลูกกันเองทุกบ้าน ต้นนี้ลูกใหญ่ ดอกก็ยังออกอีกเยอะ ไม่รู้จะทานทันได้ไง ต้องกินกันจนแก้มดำ(แดด) กลายเป็นแก้มแดง อิอิ ผักชีที่ลงเมล็ดไว้ งามดีค่ะ วันนี้เด็ดมาใส่ก๋วยเตี๋ยวทานตอนกลางวันไปเรียบร้อย ปลายหน้าร้อนได้ถอนรากถอนโคนเก็บรากผักชีเข้าฟรีซไว้ได้แน่ๆ ผักกาดหอมก็ใช้ได้ ลงเมล็ดแน่นไปหน่อย นี่ตัดมาทำสลัดทานไปแล้วเยอะมาก งอกกลับมาแบบรวดเร็วจริงๆ โหระพาที่โรยเมล็ดไว้เยอะไปอีกเหมือนกัน (ไม่รู้นี่หว่าว่ามันจะงอกทุกต้น) ขนาดถอนทิ้งไปบ้างแล้วยังแน่นขนาดนี้ ไม่รู้มันจะโตได้ขนาดไหน เบียดกันซะ เมนูที่จะต้องทำให้ได้อาทิตย์นี้คือ แกงเนื้อ จะใส่โหระพาให้สะใจ ไม่ต้องกั๊กเหมือนซื้อมาจากร้านไทย มาดูต้นที่ดูไม่ค่อยดีบ้าง sweet basil นี่ออกดอกแล้ว ใบก็เหลืองม้วนเชียว ไม่รู้ทำไม แต่วันนี้เด็ดมาทำกับข้าวแล้ว หอมดี ต้นพริกโคตะระเผ็ดที่สุดในโลก habanero ใบหงิกเหลืองมีจุดน้ำตาลเหมือนกัน คาดว่ารดน้ำเยอะไป ตอนนี้เลยงดให้น้ำ ใบที่งอกออกมาใหม่เขียวดีแล้ว ดอกที่ออกใหม่ก็น่าจะติดลูก (สังเกตดูกิ่งบนๆ ดอกฝ่อร่วงหมด) เพิ่งรู้ตัวว่าเราก็ปลูกพืชผักขึ้นกะเขาเหมือนกัน
:-)