Friday, June 9

ไม่ได้เก็บแต่ก็ได้กิน

เมื่อวานว่าจะไปเก็บสตรอเบอรี่กัน สวนนี้อยู่ไม่ไกลจากบ้านมาก แต่กว่าจะไปถึง ก็ปิดไม่ให้เก็บซะแล้ว เจ้าของสวนบอกว่าปีนี้อากาศยังไม่ร้อนพอ สตรอเบอรี่เลยยังไม่สุกมากเท่าไหร่ สักสองอาทิตย์หน้าถึงจะมาเก็บได้เต็มที่ อ้อมก็เลยถ่ายรูปมาได้แค่เนี้ย

ลูกยังเล็กอยู่เลย
เมื่อสวนนี้ปิดไปแล้ว ก็ไปอีกสวนกัน ไกลออกไปหน่อย แต่ก็เหมือนกันอีก คือยังเก็บไม่ได้ แต่สวนนี้มีที่เก็บแล้ววางขายหน้าร้านด้วย แมรี่แอนก็เลยซื้อมาซะ 6 ควอร์ท ราคาที่เขาเก็บให้เนี่ย แพงกว่าเก็บเอง แต่ความสดเท่ากัน ลูกไม่ใหญ่มาก แต่หอมหวาน ไม่กรอบเหมือนสตรอเบอรี่ที่ขายในซุปเปอร์มาร์เก็ต แต่หอมหวานกว่ามากๆ กลับมาถึงบ้านอ้อมทานสดๆไปซะควอร์ทนึงได้มั้ง
ตอนเย็นแมรี่แอนทำ strawberry shortcake ชอร์ทเค้กซื้อสำเร็จ เป็นเค้กเบาๆหวานๆ ราดด้วยสตรอเบอรี่ที่แช่ในน้ำตาลนิดหน่อยทิ้งไว้พอให้มีน้ำออกมา แล้วโปะด้วยวิปครีมอีกที yummyyyyyyyyyy!!
ตอนเช้าวันนี้ยังทานไม่หายอยาก เลยปิ้งขนมปังสองแผ่น แผ่นนึงทาเนยราดน้ำผึ้งนิดหน่อย อีกแผ่นทา peanut butter แล้วก็เอาสตรอเบอรี่ฝานวางเรียงทับ อร่อยทั้งคู่แต่แผ่นที่ทาพีนัทบัตเตอร์อร่อยกว่า เดี๋ยวพรุ่งนี้ทำทานอีก <^_^>

ปิดท้ายด้วยสไลด์รูปอ้อมกับแมดดี้วันนี้ ถ่ายในรถระหว่างรอคริสทำธุระ (เพิ่งเห็นว่าหน้าตัวเองเยินมาก เลยเอารูปเล็กๆหน่อยละกัน)

Tuesday, June 6

Mommy's Girl

อัพเดทเรื่องแมดดี้หน่อย เธอโตวันโตคืนแบบเห็นได้ชัด ตอนนี้สูงขึ้น ขาก็ยาวขึ้น ที่สำคัญคือหูตั้งแล้วค่า แมดดี้หูใหญ่กว่าพี่น้องก็เลยตั้งช้าหน่อย แต่ตอนนี้ตั้งสวยเชียว

เลี้ยงแมดดี้มาได้แค่สามอาทิตย์กว่ายังรู้สึกผูกพันมากๆ ถึงบางครั้งจะเหนื่อยที่ต้องคอยพาออกไปชิ้งฉ่องและอึ๊ข้างนอก แต่ก็ดีใจ๊ดีใจเวลาแมดดี้วิ่งเข้ามาหาหรือมาขอให้เล่นด้วย เมื่อคืนแมดดี้มีเคืองอ้อมด้วยที่ปล่อยให้อยู่ในห้องข้างบนคน(จริงๆต้องเป็นตัวสินะ)เดียว อ้อมแค่ออกไปแปรงฟันล้างหน้าเตรียมเข้านอนแป๊บเดียว แมดดี้ก็มีโวยวายนิดๆ พออ้อมจะออกไปแปรงผมในห้องน้ำอีกที คราวนี้เธอไม่เอาเลยค่ะ รีบวิ่งออกมานอกห้องด้วยแล้วก็วิ่งลงไปข้างล่าง ไปยืนเห่าอ้อมอยู่ ตอนแรกอ้อมก็งงว่ามันเป็นอะไร พอเดินลงมามีไล่งับขาอ้อมด้วย ดูโกรธๆ อ้อมก็เลยต้องดุมันไปว่าไม่ให้กัด เพราะจริงๆหลังจากโดนหิ้วคอไปสองสามรอบแมดดี้ก็เลิกกัดเลิกขู่คนแล้ว หลังจากนั้นก็พาออกไปข้างนอกอีกรอบ กลับเข้ามาอ้อมก็บอกคริสบอกว่าให้เอาแมดดี้ขึ้นข้างบนด้วยละกัน อ้อมเซ็งแล้วไม่รู้มันเป็นอะไร ปรากฏว่าแมดดี้เดินตามอ้อมขึ้นข้างบนเฉยเลย คราวนี้ก็ดูสงบดี พออ้อมขึ้นเตียง แมดดี้ก็มาโผล่ๆดู เอาเท้าหน้ามาวางบนเตียง (เตียงยังสูงไป กระโดดขึ้นเองไม่ได้) อ้อมก็เลยอุ้มขึ้นมาบนเตียง นอนกัดๆของเล่นอยู่แป๊บนึงก็หลับไป มีมาซุกข้างๆอ้อมด้วยแล้วก็เอาหัวมาหนุนตัก หูย อ้อมใจละลาย คริสบอกว่า "She's Mommy's girl." ลูกสาวแม่นะจ๊ะ วันอาทิตย์ที่ผ่านมาก็พาแมดดี้ไปสนามบอลด้วย แต่ฝนตกอ้อมกับแมดดี้ก็เลยนั่งในรถซักแป๊บ แมดดี้ก็เอาหัวมานอนซุกตักอีก พออ้อมไปเข้าห้องน้ำก็มีวิ่งตาม อ้อนเก่งมากๆ แต่บทจะดื้อขึ้นมา ใครเรียกก็ไม่ฟัง ไม่มีมาหรอก

ดูรูปลูกสาวอ้อมเพิ่มนะคะ

หูตั้งแล้วค่า
กับน้าแฮนน่าห์ที่โดนแกล้งโดนแย่งของกินตลอด ขนาดตัวเริ่มใกล้กันแล้ว ตั้งแต่แมดดี้มาแฮนน่าห์เหมือนกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง มีวิ่งเล่นกันทุกเช้า
ท่านอนประจำตัว ไม่มีความเป็นกุลสตรีเล้ย ลูกสาวชั้น

ปิดท้ายด้วยเคานท์ดาวน์นับเวลาไปฮาวาย

Aloha!
Daisypath Ticker


อาหารที่อยากทานวันนี้: ขนมปังสังขยา อาทิตย์นี้ซื้อผงสำเร็จมาทำดีกว่า ขนมปังที่แมรี่แอนอบเสร็จ(ใช้เครื่องทำขนมปัง)ก็พอถูๆไถๆแทนขนมปังนึ่งร้อนๆบ้านเราได้

Sunday, June 4

Dinner at Dante's

เมื่อเย็นวันศุกร์คริสอยากออกจากบ้านบ้างก็เลยขับรถไปหาอะไรทานกัน จะทานอาหารเม็กซิกันของโปรดของคริสอีก อ้อมก็บอกไม่เอาดีกว่านะ คริสทานได้ทุกวัน แต่อ้อมทานเดือนละครั้งก็เก่งแล้ว อาหารเม็กซิกันชีสเยอะ จะทานบุฟเฟ่ต์จีนอีกก็ไม่ไหว ตอนเย็นไม่อยากทานหนักมาก แถมตอนเย็นจะแพงกว่าตอนกลางวันเพราะมีพวกซีฟู้ดที่คริสไม่ทานด้วย ไม่คุ้มง่ะ เดี๋ยวพ่อคุณก็จะตักพิซซ่ามาทานให้เราหงุดหงิดอีก สุดท้ายก็เลยมาลงที่อาหารอิตาเลียนที่ร้านชื่อ Dante's อยู่เมืองข้างๆ ร้านนี้เป็นบ้านเก่า เอามาทำเป็นร้านอาหาร ขายดีด้วย อ้อมกับคริสไปตั้งแต่ยังไม่หกโมง มีคนเต็มแล้ว แต่ยังดีที่ไม่ต้องรอโต๊ะ

ตอนแรกกะจะทานไม่เยอะ สูตรที่ชอบบอกว่าจะทำเวลาออกไปทานข้าวข้างนอกก็คือ สั่งแค่ appetizer 1 อย่าง กับ entree จานหลักอีก 1 ก็พอแล้ว แต่เอาเข้าจริงๆ ไม่เคยทำได้เลย เห็นเมนูทีไรหน้ามืดตาลายทุกที สั่งแหลก คราวนี้ก็เหมือนกัน เริ่มด้วย fried raviloli เกี๊ยวอิตาเลียนห่อชีสทอดนั่นแหละ ทานกับซอส marinara
ชีสเยิ้มๆท่วมท้นมาก วันหลังต้องลองทำที่บ้านให้ได้อย่างนี้บ้าง
ตามด้วย antipasto salad อันนี้จ้วงกินไปก่อนแล้ว ค่อยมาถ่ายรูป เครื่องเพียบมากๆ มีซาลามี่ แฮม ไข่ต้ม ชีส และ ผักต่างๆ ที่อ้อมชอบที่สุดคือพริกดองสีเขียวๆที่เห็นในรูป ไม่เผ็ดแต่เปรี้ยวๆดี
จานหลักจานยักษ์ที่สั่งคือพิซซ่า ว่าจะสั่งพวกพาสต้าแล้วแต่ดูๆเมนูมันธรรมดาไปหน่อย ก็เลยเอาของตาย ทานไม่หมดเอากลับบ้านได้ หน้าที่สั่งนี่ท็อปปิ้งเยอะสุด มีทุกอย่าง
ชีสยืดๆค่า กว่าจะได้ทานพิซซ่าก็อิ่มไปแล้ว อ้อมเลยทานได้แค่ชิ้นเดียว ส่วนคริสทานไปสองชิ้น(ผิดปกติมาก ปกติทานอย่างน้อยสี่)
แหะแหะ แต่ขนาดว่าอิ่มๆ ยังสั่งของหวานมาทานตบท้าย ร้านนี้มีชื่อเรื่องชีสเค้ก แต่อ้อมเลือกสั่ง raspberry meringue ตามโต๊ะข้างๆ ไม่ผิดหวังค่ะ ซอสราสพ์เบอรี่ไม่หวานแต่ออกเปรี้ยวๆกำลังทาน ราดบนไอติมวานิลลาที่อยู่บนเมอแรงก์อีกที มีวิปครีมก้อนโตๆหยอดอยู่ข้าง อร่อยๆมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ไม่หนักเกินไปด้วย ขืนสั่งชีสเค้กคงทานไม่ไหว แต่จานนี้ทานจดหมดแล้วคริสยังวิดน้ำไอติมกับซอสจนเรียบ วันหลังต้องลองทำซอสแบบนี้ราดไอติมทานบ้าง ไม่น่ายาก ฟังดูเหมือนเป็นแม่บ้านตัวอย่างเนอะ เห็นอะไรก็บอกว่าจะทำทานเอง พูดไปงั้นแหละ ไม่รู้เมื่อไหร่ได้ทำ คงต้องรอมีครัวของตัวเองก่อนถึงจะมีอารมณ์ลองโน่นลองนี่


ขออภัยที่รูปเบลอๆมืดๆไปหน่อยนะคะ ถ่ายในร้าน ไฟสลัว และไม่อยากใช้แฟลช ขาตั้งกล้องก็ไม่ได้เอาไป ภาพก็เลยสั่น แต่แค่นี้ก็อายเขาจะแย่อยู่แล้ว ถ่ายอยู่นั่นแหละ ขืนเอาขาตั้งกล้องออกมาถ่ายด้วย เขาคงหาว่าบ้า

อาหารที่อยากทานวันนี้: ส้มตำปู ถ้าเลือกได้ขอร้านตำนัว ทานไปดูหนุ่มๆสาวๆที่มาเดินเล่นที่สยามไป แต่ถ้าคนเยอะร้านกะต๊ากก็ได้ จริงๆตอนนี้ให้ทานร้านเพิงหน้าปากซอยบ้านน้าภายังเอา ร้านไหนก็ได้ว่างั้นเถอะ ยกเว้นร้านเพิงของพี่แอบในซอย กลัวท้องเสีย หิหิ

Friday, June 2

เบสบอลกับกับข้าว(เกี่ยวกันยังไง)

ก็ไม่เกี่ยวกันหรอกค่ะ แต่เอามาเขียนรวมกัน เพราะไม่มีรูปเกมเบสบอล และไม่อยากดองรูปอาหารไว้นาน เหะเหะ

เอาเรื่องเบสบอลก่อนละกัน เมื่อวานไปดูเบสบอลเกมที่สองมา แต่ขอโทษทีค่ะไม่มีรูปให้ทัศนากัน เนื่องจากอ้อมเป๋อเหลอลืมชาร์จแบตกล้องไว้ก่อน จริงๆคิดแล้วล่ะว่าน่าจะชาร์จแต่ก็คิดว่าคงไม่เป็นไรมั้ง ถ่านน่าจะเหลืออีกพอสมควร คราวนี้กะถ่ายทั้งบรรยากาศทั่วๆไป หามุมแปลกๆของสเตเดี้ยม กับถ่ายรูปตัวเองด้วย ปรากฏว่าพอไปถึงสเตเดี้ยม ควักกล้องออกมาถ่ายรูปบันไดเลื่อนยาวๆที่เห็นนี่ได้รูปเดียว กล้องก็ตายสนิท เซ็งจริงๆ เดินหาซื้อถ่านก็ไม่มีขาย อดเลย อ้อมอุตส่าห์แต่งตัว(แบบที่ตัวเองคิดว่า)สวย กะโชว์รูปเต็มที่ อดหมดค่า (แต่แต่งไปไม่เสียเปล่านะ มีหนุ่มผิวปากแซวตอนเดินไปเข้าห้องน้ำด้วย ฮ่ะๆ ดีใจยังขายออกอยู่) ไม่เป็นไรยังเหลืออีกสี่เกมให้ดู เพราะคริสซื้อตั๋วชุดหกเกมไว้

ไม่ได้ถ่ายรูปก็เลยเอาใจไปทุ่มเทกับการเชียร์เบสบอลแทนค่ะ เกมนี้ The Indians แข่งกับ Chicago White Sox ซึ่งเป็นทีมที่ชนะ World Series ปีที่แล้ว (เรียกว่า World Series แต่จริงๆมีแต่ทีมของอเมริกาเท่านั้น ทัวร์นาเมนท์ที่อินเตอร์จริงๆ เพิ่งมีเป็นครั้งแรกเมื่อต้นปีนี่เอง แถมทีมอเมริกันตกรอบเร็วมาก) ดิอินเดียนส์ชนะไวท์ซ็อกส์มาสองเกมรวดแล้วแบบไม่น่าเชื่อ เพราะแข่งกับทีมห่วยๆยังแพ้รูด แต่พอมาเที่ยวนี้กลับเล่นดีชนะเฉยเลย เกมนี้ก็ชนะอีก 12-8 ดูมันส์มาก เพราะผลัดกันทำคะแนน ยิ่งได้เบียร์เย็นๆ อุ๊ย ยิ่งเชียร์มัน ปกติดูถ่ายทอดสดในทีวีที่บ้าน ไม่เคยดูได้เกินอินนิ่งที่หกซักครั้ง แต่ดูในสนามสด พอไหว สนุกกว่าเยอะ กว่าจะกลับถึงบ้านก็เที่ยงคืนครึ่ง สลบค่ะ แต่ดีใจมากที่กลับบ้านมาแล้วเจอแม้ดดี้กระดี๊กระด๊ากระโดดเข้าหาเราแบบคิดถึง แต่ดีใจกว่าที่แมรี่แอนเพิ่งเช็ดอึ๊แมดดี้ในบ้านเสร็จก่อนเรากลับ (ไม่ต้องเช็ดเอง หิหิ)

ว่าด้วยเรื่องอาหาร อาทิตย์ที่ผ่านมาทำนู่นทำนี่ทานไปตามประสา

เส้นหมี่ผัดซีอิ๊วไก่ ของแท้สูตรมาดามยุวดีต้องไม่ใส่ซีอิ๊วดำ คะน้าที่นี่อร่อยดี อ่อนมากๆ ไม่มีติดขมเลย ก้านก็กร๊อบกรอบไม่มีเสี้ยน เดี๋ยวไปร้านไทยวันอาทิตย์นี้จะซื้อมาอีก
ของโปรดคริส ทงคัตสึ หมูชุบขนมปังป่นทอดนี่แหละ คราวนี้ทอดออกมาใช้ได้เลย หมูไม่แห้งเกินไป แป้งก็กรอบเหลืองกำลังทาน (ครั้งที่แล้ว หมูหนาไปหน่อย ออกมาแข็ง แป้งก็ไม่เกาะหมู ไปอ่านเจอเคล็ดลับเขาบอกว่าคลุกหมูกับขนมปังป่นแล้วให้พักไว้หน่อยก่อนทอด ออกมาดีเลย) ส่วนซอสใช้ขวดสำเร็จ ญี่ปุ่นแท้ อร่อยๆ
ดูใกล้ๆ เห็นแล้วอยากทานอีก (แต่ขี้เกียจทำแล้ว)

บะหมี่เกี๊ยวน้ำหมูแดง หมูแดงใช้ผงหมักของโลโบ้ ก็พอแหลกล่าย แต่ไม่หอมมาก ย่างในเตาอบเอา ก็ดีเหมือนกัน มื้อนี้ทำให้ทั้งบ้านทาน จริงๆมีป่อเปี๊ยะทอดด้วย แต่ไม่ได้ถ่ายรูปไว้ อ้อมทานบะหมี่แห้งค่ะ
ดูใกล้ๆอีกหน่อย หิวอีกแล้วล่ะ

อาหารที่อยากทานวันนี้: เนื้อปิ้งไม้ละสองบาทมีมันหนึ่งก้อน(มันล้วนไม้ละบาทเดียว)ที่เคยทานหลังโรงเรียนสมัยประตูสามย่านยังเปิด พูดถึงหลังโรงเรียนอยากทานมาม่าต้มยำด้วย ไม่รู้ตอนหลังอาจารย์ปิดประตูนี้ทำไม อดกินของอร่อยๆกับซื้อการ์ตูนเลย

Wednesday, May 31

พืชผักสวนครัว

เพิ่งช่วยแมรี่แอนปลูกมะเขือเทศในสวนเสร็จค่ะ เหนื่อยใช้ได้เพราะอากาศร้อนดีเหลือเกิน เวลาแดดออกเปรี้ยงๆนี่ สิบห้านาทีก็ดำแล้ว ทุกหน้าร้อนแมรี่แอนจะลงมะเขือเทศในแปลงเล็กๆหลังบ้าน ปีนี้ซื้อมา 11 ต้น เป็นต้นเล็กในกระถาง มีหลายๆพันธุ์ทั้งลูกเล็กอย่างมะเขือเทศเชอรี่ไปจนถึงลูกใหญ่ๆ อีกสักสองสามเดือน คงได้ทานกันเต็มที่ จะทานให้แก้มแดงเลย (ตอนนี้แก้มดำแดดมากกว่า กระเพียบเลย)
ก่อนลง คริสก็ช่วยปักไม้หลักลงดินให้ก่อน
เสร็จแล้วก็ขุดหลุมปลูกทีละต้น ได้แบบนี้ อีกหลักที่เหลือ อ้อมโยนๆเมล็ดผักชีลงไปด้วย ไม่รู้จะงอกมั้ย ไม่ได้เลี้ยงในกระถางไว้ก่อนด้วย แมรี่แอนยังลงเมล็ด lettuce ไว้อีกสองแถว แถวนึงเป็นแบบหลายๆพันธุ์ หน้าถุงเขียนว่า gourmet blend อ้อมเลือกซื้อมาเอง น่าจะได้ผักสลัดอร่อยๆเก๋ๆ ทานแทนผักกาดแก้วที่ทานจนเบื่อแล้วบ้าง
อันนี้ส่วนตัว เอาลงกระถางใหญ่ขึ้นไว้ เป็นต้นพริกเม็กซิกันที่เผ็ดที่สุดในโลก ชื่อ Habanero พริกนี้อ้อมเคยใช้ทำกับข้าวมาแล้ว เผ็ดแบบน้ำตาไหลพราก กะว่าถ้าออกลูกเยอะก็จะเก็บมาฟรีซไว้ ใช้ได้ทั้งปี เพราะใช้ทีละนิ้ดเดียวก็เผ็ดถึงใจ (แต่ไม่หอมเหมือนพริกขี้หนูบ้านเรา)
sweet basil ต้นนี้ก็ลงกระถางไว้เหมือนกัน ใส่ในพาสต้าอร่อยเหาะ ถ้างามดีจะเอามาลองทำซอส pesto ด้วย เคยทานที่ร้านอาหารอิตาเลียนที่สุขุมวิท อร่อยจริงๆ ดีต่อสุขภาพด้วย

อีกอย่างที่ปลูกก็คือโหระพาค่ะ เห็นมีเมล็ดขายเป็นซองๆ เลยสอยมาซะหน่อย เอาไปโรยในกระถางไว้แล้ว ไม่รู้จะงอกมั้ย กว่าจะเก็บกินได้คงเข้าหน้าหนาวพอดี ฮ่าๆ

จริงๆวันนี้ร้อนมากๆแต่พ่อคริสก็ประกาศิตว่าต้องลงมะเขือเทศวันนี้ให้เสร็จ ห้ามผัดผ่อน อ้อมก็เคืองนิดหน่อย หูย ร้อนจะตาย แต่ก็ออกมาช่วยแมรี่แอนอยู่ดี ทำเสร็จแล้วก็รู้สึกดี ได้เหงื่อนิดหน่อย ดีที่ได้ออกมาทำอะไรข้างนอกบ้านบ้าง แต่ไม่รู้แฮะ อ้อมไม่เคยปลูกอะไรเลย นอกจากเพาะถั่วงอกในกระป๋องนมส่งครูตอนเด็กๆ เคยมีต้นตระบองเพ็ชรยังเลี้ยงไม่รอด นี่หวังว่าไอ้ต้นไม้ทั้งหลายเหล่านี้ที่แมรี่ปลูกงอกงามดีทุกๆปี คงไม่โดนฤทธิ์มือมารของอ้อมทำลายไป

อาหารที่อยากทานวันนี้: ทอดมันปลากรายของโปรดแม่ (เมนูสิ้นคิดเวลาไปทานข้าวข้างข้างนอกใช่มั้ยคะ แม่)

Monday, May 29

โอ้หลั่นล้า สองสามีภรรยาเตรียมตัวไปฮาวาย!!

หลังจากที่เคยรำพึงรำพันถึงฮาวายไว้เมื่อเดือนก่อน ตอนนี้จะได้ไปจริงๆแล้วจ้า วู้ฮู้

อ้อมกับคริสบ่นๆกันมาสักพักแล้วว่าอยากไปเที่ยว ใช้วันหยุดของคริสของปีนี้ตอนที่ยังมีเวลา ก่อนจ๊อบใหม่จะเริ่ม ตอนแรกอยากไปยุโรปมากๆ ไปช่วงเดือนมิถุนาที่มีบอลโลกจะได้สัมผัสบรรยากาศซักหน่อย แต่พอเช็คราคาตั๋วและที่พักแล้ว ก็ต้องถอยค่ะ ไปอาทิตย์นึงพักที่แอมสเตอดัม ตกประมาณ $3500 ได้ คงแพงเพราะเป็นไฮซีซั่น แถมยังมีบอลโลกอีก ที่ถัดมาที่นึกถึงก็คือเมืองไทย แต่ตั๋วแพงเหมือนกัน และคริสก็ลางานไม่ได้นานด้วย บินไกล ไม่คุ้ม สุดท้ายก็มาลงตัวที่ทริปไปฮาวายเนี่ยแหละ อาจจะไม่ถูกนัก แต่แพ็คเกจตั๋วเครื่องบินกับที่พักที่ซื้อผ่าน
นอร์ธเวสต์ก็ราคาใช้ได้ จองไว้วันที่ 23 มิถุนา-2 กรกฎา รวมทั้งหมด 10 วัน 9 คืน พักโรงแรมสามดาวใน Waikiki ไม่หรู แต่ก็ไม่เป็นไร มีกิจกรรมที่อยากทำเยอะอยู่แล้ว ไปรำลึกความหลังซักหน่อย

หลังจากซื้อทัวร์ไปเรียบร้อย ก็เริ่มกระดี๊กระด๊า คริสอยากไป bodyboard มากๆ แต่เนื่องจากขนาดรอบเอวที่ขยายขึ้นมาหลังจากย้ายกลับมาอยู่ที่โอไฮโอนี่ ก็เลยทำให้คริสไม่สามารถใส่ boardshorts ที่มีอยู่ได้อีกต่อไปแล้ว (ว่าแต่เขา อ้อมเองก็ใส่กางเกงขาสั้นที่มีอยู่ไม่ได้แล้วเหมือนกัน) สรุปงานนี้ก็เลยต้องมีช็อปปิ้งกันก่อน จะรอไปซื้อที่ฮาวายเลยก็ไม่เหมาะเพราะคริสคิดว่าเตรียมไว้ก่อน พอไปถึงจะได้กระโดดลงทะเลเลย แต่อีกเหตุผลนึงที่สำคัญกว่าคือ boardshorts ที่ฮาวายแพง ดีมานด์เยอะ ราคาก็เลยไม่เคยลดเลย อ้อมก็เลยชวนคริสไปเดินที่
Marshalls ร้านขายของลดราคา คริสก็ได้มาสองตัว ราคาถูกกว่าปกติเกินครึ่ง คุ้มมากๆ

ส่วนอ้อมก็เล็งแล้วว่าชุดว่ายน้ำที่มีอยู่เนี่ย ท่าจะไม่ไหว ก็ซื้อใหม่กันเหนียว เอาแบบใส่ได้ชัวร์ไว้ซักชุด ส่วนเวลาหนึ่งเดือนที่เหลือจะพยายามลดความอ้วนให้ใส่ชุดเก่าๆได้ ฮ่าฮ่า ฝันมาก สรุปได้บิกินี่ชุดนี้มา ตอนลองพยายามไม่คิดมาก ใส่ได้ก็เอาวะ ราคา $12.99 เอง คุณภาพดีด้วย ถ้าไปซื้อที่ฮาวายก็คงไม่พ้น $60-80 อย่างต่ำ

เสร็จจาก Marshalls ก็ไป Old Navy ต่อ เพื่อซื้อรองเท้าแตะฟองน้ำ เอาไว้ใส่เดินหาด ของอ้อมสีชมพู ของคริสสีเขียว อ้อมลองชุดว่ายน้ำที่นี่ด้วย กำลังเซลส์อยู่ ปรากฏว่าท่อนบนใส่ได้ ท่อนล่างดูไม่ได้ค่ะ ลองเสร็จออกมาบ่นกับคริสว่าร้านนี้ควรเปลี่ยน lighting ใหม่ ไฟที่เขาใช้มันสะท้อนให้เห็นไขมันทุกสัดส่วนดีเหลือเกิน อ้อมหันบั้นท้ายให้กระจก ดูก้นดูขาตัวเองแล้วคอตก ร่างกายมันฟ้องว่าไม่ได้ดูแลตัวเองเท่าไหร่ ท่อนขาไขมันเพียบค่ะ หาความ lean ไม่ได้เลย (ก็แหงละ กินซะขนาดนี้) เดินเซ็งชีวิตออกมาบอกกับคริสว่าต้องวิ่งทุกวันแล้ว (พูดเมื่อสองวันก่อน ยังไม่ได้วิ่งเลยซักวันตั้งแต่วันนั้น)

สุดท้ายคริสซื้อ rashguard ที่ Dick's ถูกอีกเหมือนกัน ที่ฮาวายปกติตัวละ $40 อย่างต่ำ ที่นี่ $15 เอง ได้สนับสนุนเศรษฐกิจบ้านเราด้วย เพราะ Made in Thailand เจ้าค่ะ ขอบอกว่าสภาพคริสใส่ rashguard ตอนนี้กับสมัยหกเจ็ดปีก่อนงี้ต่างกันมากๆ (เหมือนอ้อมใส่ชุดว่ายน้ำแหละ) แต่ก่อนพุงนิดเดียว ตอนนี้พุงหลามเชียว อวบอั๋นมาก ฮ่ะๆ แต่อ้อมก็ไม่ได้พูดให้เจ้าตัวเสียกำลังใจนะ แค่ชี้ไปที่พุงเขาให้เขาดูตัวเองเท่านั้นเอง ฮ่าๆ
ตอนนี้ที่คริสอยากได้อีกอย่างคือตัวกระดาน bodyboard อ้อมบอกให้ไปหาเช่าเอาที่ฮาวายก็ไม่เอา บอกบอร์ดเก่าไม่ดี ก็เลยดูอยู่ว่าจะไปซื้อใหม่ที่ฮาวาย(แพง) หรือสั่งซื้อทางอินเตอร์เน็ตไว้ก่อน(แต่ขนไปลำบาก บอร์ดยักษ์มากตามตัว อาจต้องเสียตังค์เพิ่ม) ก็แล้วแต่คริสละกัน แต่บอกไว้ว่าบอร์ดเขาราคาเท่าไหร่ อ้อมก็งบเท่ากันเอาไว้ช็อปปิ้งนะ เหะเหะ

อาหารที่อยากทานวันนี้: ใจลอยไปถึง Korean barbeque ที่ฮาวายแล้ว เนื้อย่างนุ่มๆหวานๆกับกิมจิเปรี้ยวๆเผ็ดๆ อูย อีก 26 วันเจอกัน

Saturday, May 27

Rib Cook-off and Soccer Game

เมื่อบ่ายวันศุกร์ไปงาน Barbeque Rib Cook-off แล้วเลยไปดูฟุตบอลนัดมิตรภาพก่อนบอลโลกเริ่มระหว่างอเมริกากับเวเนซุเอลาที่ Cleveland ระหว่างทางที่ขับรถไปก็แวะรับทิมเพื่อนคริสด้วย ตอนขับรถเจอฝนตกหนักมากๆเป็นระยะๆ อ้อมก็สวดมนต์ไปขอไม่ให้ฝนตกระหว่างไปกินซี่โครงหมูกับดูบอล ปรากฏว่าได้ผลแฮะ พอไปถึงคลีฟแลนด์ ฟ้าใสแดดออกเฉยเลย

งาน Barbeque Rib Cook-off นี่จัดขึ้นทุกปี คล้ายๆงานวัด มีร้านบาร์บีคิวชื่อดังทั่วประเทศมาออกร้าน แล้วก็มีการประกวดว่าเจ้าไหนอร่อยสุด และมีเล่นดนตรีสดด้วย

ไปถึงงานประมาณสี่โมงกว่า คนยังไม่เยอะมาก และได้เข้างานฟรีด้วย ไม่งั้นเสียตั้งหกเหรียญ แค่ค่าอาหารในงานก็แพงจะแย่อยู่แล้ว

มีร้านบาร์บีคิวต่างๆ แต่ละเจ้าก็ขึ้นป้ายกัน มีวางโชว์ถ้วยรางวัลกันหน้าร้าน เห็นแล้วเลือกไม่ถูกเลย

ร้านอื่นๆ มีขายสายไหม ขาย funnel cake (อยากกินมากแต่จุกซี่โครงหมูซะก่อน)
เจ้าแรกที่ซื้อ เดินไปจนเหนื่อยแล้วไปหยุดอยู่หน้าร้านนี้ก็เลยเอาซะเลย เรียกน้ำย่อยด้วยซี่โครงหมูครึ่งแผง (หกซี่) ราคา $12.50 แพงชิบป๋ง แต่แลกคูปองมาซื้อเลยทำลืมๆไปว่ามันแพง เจ้านี้มีซอสเผ็ดๆให้ราดเพิ่มอร่อยมากๆ ไม่ทันได้ถ่ายรูปค่ะ ได้ปุ๊บก็แร้งลงปั๊บ พอทานก็มือเลอะด้วย เจ้านี้เพิ่งออกทีวี Food Network ไปเมื่อสองสามอาทิตย์ก่อน (ดูรายการนี้แหละทำให้อยากมางานนี้) คนขายบอกว่าวันพฤหัสนี้จะออกรายการของ Bobby Flay ด้วย แต่เผอิญไม่ชอบเชฟนิวยอร์คคนนี้ เพราะหยิ่ง ดูเหมือนชอบดูถูกคนอื่น อ้อมเปลี่ยนชื่อเขาเป็น Booby Flake)
เจ้าที่สองซื้อดินเนอร์เลย คือ ซี่โครงหมูทั้งโครง (สิบสี่ซี่ได้มั้ง) กับโคลสลอว์ คอร์นเบรด และ เบคบีน
ดูกันชัดๆ ซี่โครงหมูฉ่ำๆ เนื้อร่อนออกจากกระดูก ซอสหวานๆเปรี้ยวๆ จานนี้หมดไปอีก $25 สรุป $50 ที่แลกคูปองมาตอนแรกได้แค่ซี่โครงหมูครึ่งแผง จานนี้และก็เบียร์อีกสองแก้วเล็ก ขูดเลือดกันซิบๆ แต่อร่อยเอี้ยๆ (ขอโทษที่หยาบคาย แต่มันอร่อยเอี้ยๆจริงๆ)

บรรยากาศรอบๆงานมีออกร้านเล่มเกมประปราย งานนี้จัดในดาวน์ทาวน์เลย

จุกซี่โครงหมูไปแล้วแต่ยังอดไม่ไหว แลกคูปองเพิ่มมาซื้อชีสเค้กชุบช็อคโกแล็ต ใช่แล้วจ้า อ่านไม่ผิดหรอก ชีสเค้กเจ้าค่ะ ไม่ใช่ไอติม หวานมันเข้มข้นมากๆ ฟาดเรียบคนเดียว


ทานกันเสร็จเดินไปสนามบอลติดทะเลสาป ไกลพอสมควร อ้อมดันห่วงสวยใส่รองเท้าส้นตันคู่ใหม่ไป ปกติเดินเล่นธรรมดาๆก็ไม่เป็นไร พอมาเดินตั้งแต่ต้นดาวน์ทาวน์ยันทะเลสาป เท้าเดี้ยงค่ะ แผลพุพองเต็มไปหมด แต่ต้องเดินทำสวยแสร้งว่าไม่เจ็บ ไม่งั้นคริสหัวเราะเยาะแน่ๆ

สนามบอลนี่จริงๆแล้วคือสนามอเมริกันฟุตบอลของทีม Cleveland Browns จุได้เป็นแสน แต่วันนั้นมีคนไปดูบอลประมาณ 29,000 คน ซึ่งก็ไม่เลวเพราะฟุตบอลไม่ใช่กีฬายอดฮิตที่นี่ จริงๆจำนวนขนาดนี้เขาประกาศว่าเป็นประวัติศาสตร์ทำลายสถิติผู้ชมฟุตบอลในโอไฮโอเชียวนะ ฟังดูดีแต่ประทานโทษ ครั้งหลังสุดที่มีแข่งบอลที่คลีฟแลนด์น่ะ สิบสองปีก่อน แปลว่ามันไม่ได้แข่งกันบ่อยเล้ย
สกอร์บอร์ด
แฟนๆทีมเวเนซุเอล่า
แฟนๆทีมอเมริกา ไอ้พวกเพ้นท์หน้าเพ้นท์ตัวนี่มีแต่วัยรุ่น สงสัยอยากออกทีวี ไม่รู้จะคึกอะไรกันนักหนา ทีมอเมริกาไม่ใช่ทีมเก่ง ถ้าจะเฮ น่าจะรอให้ชนะซักเกมที่เยอรมันก่อน เจอสายแข็งมากมีอิตาลี เช็คและกานา ชนะได้ซักเกม(อย่าว่าแต่เข้ารอบเลย)ก็เก่งแล้ว แต่ก็ไม่แน่เหมือนกัน ลูกบอลกลมๆเอาแน่ไม่ได้
ทีมอเมริกันทีมที่แข่งเกมนี้เป็นทีม B คือผู้เล่นเก่งๆไม่ได้ลงเล่นครบ แต่ก็ชนะไปได้ 2-0 อ้อมก็ไม่ได้รู้เรื่องเกมมาก แต่คิดว่าการเล่น การจ่ายบอล การยิงประตู ยังไม่เข้าขั้นเมื่อเทียบกับบอลอังกฤษที่เคยดูๆตอนอยู่เมืองไทย คนดูก็ขยันเฮเหลือเกิน ลูกไปทางหน้าประตูหน่อยก็เฮ แล้วก็ลุกขึ้นยืน บังเราอีก คริสก็บ่นบอกว่ามันยังไม่ได้น่าลุ้นขนาดนั้น เฮกันจัง (ดูบอลกันยังไม่เป็นนั่นเอง)

เกมเลิกประมาณสามทุ่ม พระอาทิตย์เพิ่งตก นี่รูปข้างนอกสนามมุมหนึ่งของดาวน์ทาวน์คลีฟแลนด์

ปิดท้ายด้วย Rock and Roll Hall of Fame ที่เดินผ่าน ตึกสวยดี ยังไม่เคยเข้าไปดูข้างในเลย

อาหารที่อยากทานวันนี้: แหนมเนือง แม่กับพ่อทานยั่วมาหลายครั้งแล้ว อยากกินผักเยอะๆมากๆๆๆๆๆ