Tuesday, March 7

ภาษาปะกิด

ไม่ได้อัพเดทบล็อกมาสองสามวันแล้วเพราะไม่มีเรื่องอะไรให้เขียนมากมาย จะเขียนเรื่องอาหารอีกก็รู้สึกจะดูหมกมุ่นแต่เรื่องกินเกินไปนิด เหะเหะ ลองนั่งนึกๆดูว่ามีเรื่องอื่นให้เขียนมั้ยก็ได้เรื่องนี้ภาษาปะกิดของตัวเองนี่แหละ

ไม่รู้เป็นไงตั้งแต่มาที่นี่รู้สึกภาษาอังกฤษของตัวเองจะถดถอยไปเรื่อยๆ (ตรงข้ามกับทฤษฎีที่ว่ายิ่งใช้มากยิ่งดีขึ้น) วันที่ไปซื้อของที่ outlet มีร้านนึงคนขายเขาขอชื่อสกุลด้วย เราก็สะกดให้เขา Cathis แค-ธิส "ซี- เอย์-ที-เอชชชช-ไอ-เอสสสสส" (ใส่สำเนียงแบบปกติที่เราพูด) ปรากฏว่าเขาฟังไม่รู้เรื่อง!! ขอใหม่อีกรอบก็ยังไม่ได้ ตอนนี้เริ่มเสียเซลฟ์อย่างแรงแต่ก็ยังคิดว่าคนถามคงเป็นฝรั่งที่แบบพอเห็นคนเอเชียหน้าชิ้งๆ ก็คงคิดว่าสำเนียงฟังยากก็เลยฟังไม่ออกไปจริงๆ แต่คริสดูแล้วเห็นว่าถ้าจะไม่รอดแน่ก็เลยมาช่วยสะกดให้ พอเขาถามชื่อต้นคริสเลยบอกชื่อตัวเองไปซะ แบบไม่ต้องคิดเลยว่าจะสะกด"ปิยสุดา"ให้เขาฟัง จนร้านปิดก็คงไม่เสร็จแน่ๆ พอกลับมาถึงโรงแรม คุยกัน คริสก็บอกว่าเราออกเสียงไม่ชัดจริงๆ ฮ้า!!! จริงเหรอ เขาบอกว่าเราออกเสียงตัว H ผิด มันต้องออกว่า เอทช์ (กักลม
ก่อนออก"ชชชชชช") แต่เราออกเป็น เอ (ไม่กักลม) มันคล้ายกับตัว S เอส เกินไป อ้าว ซวยล่ะสิ สอนออกเสียงภาษาอังกฤษ English phonetics อยู่ตั้งสองสามปี ที่สอนลูกศิษย์ไปร่วมสองสามร้อยคนนั่นผิดเหรอ ขำกลิ้งเลย ลูกศิษย์ครูคนไหนอ่านอยู่ก็แก้ด้วยนะจ๊ะ (ถ้ายังจำที่ครูสอนได้นะ ตัว H ต้องออกเป็นเสียง ทีฮุ้ก ไม่ใช่ฮุ้ก ฮ่ะฮ่ะ)

นอกจากเรื่องนี้ก็มีอีกนิดๆหน่อยๆอ่ะ วันก่อนไปรับพัสดุไปรษณีย์ที่ Front Desk บอกเบอร์ห้องเขา 213 ทูเตอร์ทีน เขาบอกไม่มีนี่ อ้าวไม่มีได้ไงก็เมื่อกี้โทรมาที่ห้องบอกว่ามีให้มารับได้ ก็เลยต้องบอกเบอร์ห้องใหม่ ทูเตอร์ทีนนะ เขาถึงบอก อ๋อ ทูเตอร์ทีน ใช่ๆ นี่ไงพัสดุ เอ๊ะ แล้วเมื่อกี้ที่พูดไปเขาฟังเป็นอะไรหว่า เราว่าเราก็ stress ลงเสียงหนักที่ ทีน แล้วนะ เฮ้อ

คิดไปคิดมาก็สรุปๆได้ว่า

  1. ภาษาอังกฤษเราได้พัฒนามาถึงขั้นที่เขาเรียกว่า fossilzation ไปเรียบร้อยแล้ว คือไม่มีทางดีไปกว่านี้ได้แล้ว (อันนี้วิชาการนะ มันมีระดับนี้จริงๆ) แถมแก่แล้วด้วย ไม้แก่ดัดยากแล้ว
  2. เนื่องจากตอนนี้มีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมอยู่แต่กับคุณคริสคนเดียว บางทีมันก็ขี้เกียจพูดให้มันดีๆ ภาษามันก็เลยถดถอย ไม่เหมือนสมัยตอนเรียนหนังสือที่ต้องทั้งอ่าน ทั้งเขียน ทั้งพูดหน้าห้อง ใช้เยอะสุดๆ ตอนนั้นภาษาพัฒนาพุ่งพรวดแบบก้าวกระโดด ตอนนี้มีแต่ถอยหลังถ้าไม่ระวัง

ตอนนี้พูดภาษาอังกฤษไปก็คอยสังเกตตัวเองไปว่าพูดผิดรึเปล่า (ตามประสานักภาษาศาสตร์เก่า) ก็พบว่าผิดเรื่อยๆเหมือนกัน บางทียังผันกริยาสามช่องผิดอยู่เลย เอิ๊ก บางทีคริสก็แก้นะ เวลาเราพูดผิด ส่วนใหญ่ก็ฟังเขา แต่บางครั้งเราก็เคืองนิดหน่อย ฉันกำลังจะพูดดีๆ อย่ามาแก้ได้มั้ย ไม่พูดก็ได้(โว้ย)

4 comments:

Anonymous said...

ยังไม่ทันแก่เลยเริ่มบ่นแล้วนะเดี๋ยวหน้าจะแก่นะจ๊ะ

Anonymous said...

แม่ก็...เป็นมาดามไปตั้งแต่เมื่อไหร่คะ :-)หน้าลูกสาวแม่แก่แต่เด็กแล้วล่ะ ไม่รู้ได้มาจากใคร หิหิ

Anonymous said...

มาแอบดูคุณแม่คุณลูกหยอกกัน อุอุ น่ารักอ่ะค่ะ :)

ขอโทษนะคะ สวัสดีคุณแม่คุณอ้อมค่ะ

Anonymous said...

คุณฟ้า มาเมื่อไหร่ก็ได้ค่า :-)