Thursday, February 14

เรื่องเล่าจากซาอุ (ตอนที่ 5): ชั้นไม่ใช่น้องปินส์!!

ตั้งแต่มาอยู่ที่ซาอุนี่ก็สามเดือนจะสี่เดือนเข้าไปแล้ว ขอสารภาพว่าภาษาอารบิคนี่ยังไม่กระดิกเลยค่ะ ทำไมน่ะเหรอ ก็นอกจากจะใช้ภาษาอังกฤษที่บ้านกับคุณคริส ที่ทำงานก็พูดอังกฤษตลอดเหมือนกัน จะไปขอให้นักเรียนสอนภาษาอารบิคให้ก็กลัวจะโดนไล่ออกซะก่อนค่ะ ที่สำคัญอยู่ที่นี่ไม่ต้องพูดอารบิคก็เอาตัวรอดได้แล้วเพราะไม่ว่าจะทำอะไร ไปซื้อของที่ไหน ก็ใช้ภาษาอังกฤษได้หมด เพราะว่าแรงงานทั้งหลายที่นี่เนี่ย ต่างด้าวทั้งนั้นค่ะ จากข้อมูลในวิกิพีเดีย ซาอุมีประชากรทั้งหมด 27 ล้านคน เป็นต่างด้าวที่เข้ามาทำงานซะห้าล้านกว่าคน ส่วนใหญ่ก็จะมาจากอินเดีย ปากีสถาน และบังกลาเทศ ที่มีมากไม่น้อยหน้าแขกทั้งหลายก็หมู่เหล่าฟิลิปปินโน เพื่อนบ้านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของเรานี่แหละ อยู่ที่นี่กันร่วมล้านคนเหมือนกันค่ะ

เนื่องจากมีน้องปินส์อยู่กันมากขนาดนี้ เดินไปทางไหนก็จะเจอน้องปินส์เต็มไปหมดค่ะ ถ้าเป็นผู้หญิง (เรียกว่าฟิลิปปินนา) ก็ทำงานเป็นพยาบาลในโรงพยาบาลบ้าง แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นแม่บ้าน คนใช้ คนเลี้ยงลูก ค่ะ เรียกว่าไปห้าง ไปซุปเปอร์มาร์เก็ตเนี่ย เจอน้องปินส์เต็มไปหมด รู้ได้ไงว่าเป็นน้องปินส์เหรอคะ ง่ายมาก หน้าเขาก็เหมือนหน้าเรานั่นแหละ ใส่ abaya ไม่คลุมหัวทำตัวเป็น infidels เดินกันขวักไขว่ให้คนซาอุเหล่ ฮ่าๆ หน้าเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างเราก็กลืนไปกับเขามากๆ บ่อยครั้งเลยที่มีคนเดินเข้ามาเว้าตากาล็อกด้วย ก็ได้แต่บอกเขาว่าบ่ใช่ฟิลิปปินน่าเด้อ บางทีนั่งๆอยู่คนเดียวในห้าง หนุ่มฟิลิปปินส์เดินผ่านไปก็มีแอบแซว แต่ขอโทษ ฟังไม่ออกฮ่ะ เลยไม่รู้จะยิ้มรับเพราะเขาชมหรือทำเชิดใส่ดี

เวลาไปซื้อของก็จะมีคนถามค่ะ ว่ามาจากไหน ส่วนใหญ่เขาก็ไล่ไป ตั้งแต่ฟิลิปปินส์ มาเลย์เซีย อินโดนีเซีย ก็บอก โนว์ โนว์ โนว์ ไทยแลนด์เฟร้ย ไม่เคยมีใครทายถูกเลยค่ะว่ามาจากเมืองไทย สงสัยแรงงานไทยไม่มีมาที่นี่นานมากแล้วจริงๆ

ทีนี้ไอ้ถูกทักว่าเป็นฟิลิปปินนานี่มันก็ไม่น่าเจ็บใจเท่าไหร่หรอกค่ะ ทำใจได้ หน้ามันเหมือนๆกัน ยิ่งเดินไปทางไหนกับคริสนี่ก็มีคนมองทั้งสาวซาอุและสาวปินส์ คงเห็นว่าเราโชคดี ได้แต่งงานกับฝรั่งด้วยเว้ยเฮ้ย ฮ่าๆ แต่บางทีดันมาปฏิบัติกับเราแบบเราเป็นคนใช้เหมือนกันนี่สิเซ็งเลย ที่เจอครั้งแรกก็ตอนไปโรงพยาบาลรัฐเพื่อตรวจสุขภาพทำใบต่างด้าวที่เรียกว่า iqama ตอนนั้นก็มีคนมาเตือนแล้วนะว่าอย่าไปรพ.รัฐเล้ย ยอมเสียเงินไปรพ.เอกชนดีกว่า แต่คนขับรถของที่ทำงานยืนยันว่าจะพาไปรพ.รัฐ เราก็อ่ะ หยวนๆ ไปก็ได้ ลองดู ก็ไปพร้อมกับคริสนั่นแหละ ไปถึงก็แยกกันเพราะที่นี่มันแยกชายหญิงหมด ส่วนที่เป็นของผู้ชายก็ดูดีเชียวค่ะ คริสเข้าไปติดต่อก็ไม่มีปัญหาอะไร มีคนพูดภาษาอังกฤษด้วยอย่างดี แต่ไอ้ของอ้อมนี่ เข้าไปแล้วท้อเลย สถานที่ก็ไม่ค่อยจะสะอาด ป้ายบอกทางบอกขั้นตอนอะไรก็ไม่มีทั้งนั้น เข้าไปถามก็ได้แต่โดนปัดมือส่งๆออกมา ว่าให้ไปทางนั้นทางนี้แบบเสียไม่ได้ เหมือนเราเป็นชนชั้นแรงงานขั้นต่ำอ่ะ ไอ้เราก็ต้องไปต่อคิวทางนั้นทางนี้หลายรอบมากๆ แถมต้องคอยกันคนที่จะมาแซงคิวอีก นอกจากนี้ก็แอบสยองในความสกปรกของสถานที่ไปด้วย ท้องก็ท้องอยู่ กลัวมากๆว่าจะติดเชื้ออะไรมาก็ไม่รู้ตอนเจาะเลือด หรือไม่ก็จะโดน x-ray ปอด สุดท้ายเสียเวลาไปสามชม.เต็ม ไม่ได้อะไรเลย!! ต้องไปรพ.เอกชนอีกรอบ เสียตังค์ไป 300 riyals มีคนพูดภาษาอังกฤษรู้เรื่องคอยบอก ใช้เวลาทำเรื่องทั้งหมดเสร็จภายใน 20 นาที -_-"

อีกครั้งนี่ฮากว่า กำลังเลือกแตงโมอยู่ในซุปเปอร์มาร์เก็ต อยู่ๆก็มีหนุ่มซาอุเข้ามาช่วยเลือก บอกลูกนั้นดี ลูกนี้ไม่ดี ไอ้เราก็ขยับถอยห่างไปสองก้าว แล้วก็ขอบอกขอบใจเขาไป คุณพี่แกเลยได้ทีเกริ่นมาเลยฮ่ะ "You know, my wife and I are looking for a maid...." -_-" ฮ่วย หาคนใช้แล้วมาเกี่ยวอะไรกับตรูด้วยวะ แต่ก็ทำตัวเป็นคนดีบอกเขาไปว่า "urrrr, I just got here. I don't know anyone." แล้วก็เดินหนีเขามาค่ะ แต่ในใจงี้แอบแค้น ชั้นไม่ใช่น้องปินส์นะ(ยะ)!!!!

2 comments:

Anonymous said...

อ่านแล้วสนุกดีเนอะแต่จบแบบนี้จะมีต่อใช่มั้ย จะรออ่านนะจ๊ะ

JC together said...

เคยเจออยู่สองครั้งไปเดินซื้อกับข้าวที่วอลมาร์ท มีป้าคนฟิลิปินส์มาทักว่าเป็นคนบ้านเดียวกับเค้ารึเปล่า เราก็บอก โนว โนวๆๆๆๆๆ คนไทยค่ะ บางทีมันหงุดหงิดมีคนมามองเราเป็นยัยปินส์ เพราะปินส์แถวนี้ขึ้นชื่ออ่ะ