Thursday, March 22

กรุงเทพฯเมืองฟ้าอมร...และร้อนจริงๆ

หลังจากได้พาจอห์นไปทานข้าวกับสาวๆแล้วจอห์นก็เหลือเวลาอีกวันเดียวในเมืองไทยก็ต้องพาไปเยี่ยมชมวัดวาอารามและซื้อของอีกเล็กน้อยก่อนส่งขั้นเครื่องกลับญี่ปุ่น ที่ที่ต้องพาไปก็ต้องเป็นวัดพระแก้วแน่ๆ ตามด้วยวัดโพธิ์และวัดอรุณฯ วันนั้นก็ไม่ได้รีบตื่นกันมาก กว่าจะได้ออกจากบ้านก็สายแล้วล่ะ พอไปถึงที่วัดพระแก้วก็แทบเป็นลมเพราะคนเยอะมากๆๆๆ เพราะวันนั้นยังเป็นช่วงตรุษจีนอยู่ คนออกมาไหว้พระกันเยอะจริงๆแล้วก็รถทัวร์ส่งคนจีนเต็มไปหมด คือยังไม่ทันได้เข้าวัดก็ท้อแล้ว แต่ก็ต้องเข้าแหละ ไปถึงที่แล้วนี่นา พอกำลังจะเดินเข้าไป เจ้าหน้าที่ของวัดหรือวังคนนึง(ใส่ชุดซาฟารีสีน้ำเงิน)ผู้ใหญ่แล้วล่ะ ก็มาบอกว่าอย่าเพิ่งเข้าไปเลยเพราะคนเยอะมากๆ ให้ไปเที่ยวที่อื่นก่อน เช่นไปนั่งเรือเที่ยวก็ได้ แนวหวังดีมากๆ อ้อมก็อ้าวเหรอคะ เออ งั้นไปวัดอรุณฯก่อนก็ได้ แกก็บอกว่าให้ไปนั่งเรือเที่ยวดีกว่า อ้อมก็บอกว่า ไม่ได้อยากนั่งเรือเที่ยวแม่น้ำหรอกแค่อยากข้ามไปวัดอรุณฯ แกก็บอก เอ้าแกจะไปหาข้าวกลางวันทานอยู่แล้วเดี๋ยวเดินไปส่งที่ท่า ก็เดินคุยกับอ้อมไปดีนะ คุยกันไปเรื่อยว่าแกมีญาติอยู่อเมริกา งั้นงี้ แล้วแกเดินพาเราไปถึงท่าหน้าพระลาน(เรียกงี้เปล่าก็ไม่รู้ ท่าใกล้ๆวัดพระแก้วอ่ะ)แล้วก็บอก อ่ะ เดี๋ยวเดินไปส่งที่ท่าเลยก็ได้ ไอ้เราก็งงๆ พยายามบอกแกว่าเดี๋ยวหาเรือไปเอง แค่จะข้ามฟาก แกก็บอกไปนี่แหละ ไปทัวร์ดีกว่า จะได้ไปดูโรงจอดเรือสุพรรณหงส์ด้วย สรุปแกมาส่งที่ท่าบริษัทนำเที่ยวทางเรือเฉยเลย ไปถึงก็แบบ tourist trap ดีๆนี่เอง ส่งเสร็จแกก็ไป คนที่ท่าก็พยายามมาขายทัวร์กับเรา อ้อมก็บอกไม่เอาอย่างเดียว เขาก็ทำหน้าบึ้งๆไป ส่วนเราก็เดินออกมาแบบเหลียวซ้ายแลขวาว่าลุงคนที่พาเรามายังอยู่เป่าเนี่ย ไม่รู้แกพามานี่กะฟันค่านายหน้าเราเปล่า แปลกๆดีเหมือนกันเหมือนจะหวังดีแต่หวังขายทัวร์เรานี่หว่า แต่ก็ไม่อยากไปอารมณ์เสียมาก อากาศก็ร้อนอยู่แล้วเดี๋ยวจะร้อนไปกันใหญ่

สุดท้ายก็เดินกันเองจากท่าหน้าพระลานไปจนถึงท่าวัดโพธิ์ แล้วก็ขึ้นเรือข้ามฟาก (คนละ 3 บาทเอง)ไปวัดอรุณฯ เฮ้อ อากาศร้อนมากๆๆๆ แดดแรงสุดๆ จากนั้นก็กลับมาวัดโพธิ์ คนล้านแปด ร้อนอีกเหมือนกัน แล้วก็นั่งตุ๊กตุ๊กกลับไปทานข้าวหน้าวัดพระแก้วแล้วค่อยเข้าวัด ก็เดินๆกันแบบร้อนและเหนื่อยมากๆ ไม่มีอารมณ์สุนทรีย์เท่าไหร่เลยถ่ายรูปมาได้เท่าที่เห็นข้างล่างนี่แหละ


จากทัวร์วัดก็พาจอห์นไปกลับมาเซ็นทรัลลาดพร้าว แล้วก็นั่งรถใต้ดินไปจตุจักรให้ได้ซื้อของฝาก (อ้อมได้เสื้อมาตัวนึง อิอิ) กลับมาทานข้าวเย็นที่เซ็นทรัลลาดพร้าวแล้วก็ไปส่งจอห์นขึ้นเครื่อง ก็หวังว่าจอห์นคงเอ็นจอยทริปนี้ไป รู้สึกดีเหมือนกันที่มีเพื่อนมาเที่ยวด้วยกัน สนุกดีได้กินเต็มที่เพราะจอห์นชอบกินเหมือนกัน ฮ่าๆ

ไหนๆ พูดถึงเรื่องเที่ยวกรุงเทพฯแล้วก็ขอลงรูปอื่นๆด้วย วันนึง(ในหลายๆวันที่ได้ไปสยาม)อ้อมกับคริสก็ลองเดิน Sky Walk จากสยามไปจนถึงเซ็นทรัลชิดลมกัน แวะถ่ายรูปตรงแยกราชประสงค์ซักนิด


เสร็จแล้วก็เดินไปเข้าเซ็นทรัลเวิลด์ที่ทำใหม่ซะอลังการมาก แล้วก็เดินไปจนถึงชิดลม อ้าว จะเข้าเซ็นทรัลชิดลมซะหน่อย ดันติดสถานีรถไฟฟ้า จริงๆเดินลงถนนแล้วไปเข้าห้างจากชั้นหนึ่งก็ได้แต่ไฮโซฮ่ะ ยอมเสียตังค์คนละสิบบาทเป็นค่าตั๋วรถไฟฟ้าเพื่อเสียบเข้าเสียบออกทะลุสถานีเข้าห้าง หึหึ จริงๆตอนนั้นเมื่อยมากๆไง อ้อมดันใส่ส้นสูงไป เดี๋ยวนี้ไม่สามารถเดินบนส้นสูงได้เป็นกิโลๆเหมือนแต่ก่อนแล้วก็เลยยอมเสียตังค์ดีกว่าต้องเดินมากไปกว่านั้น เดินดูของในห้างซักพักก็ขึ้นไปทานข้าวเย็นที่ Food Loft

ไปถึงอ้อมก็ขอให้คนเสิร์ฟเขาเอาป้ายจองโต๊ะไปวางไว้ที่โต๊ะริมหน้าต่างให้หน่อยเพราะอยากนั่งสบายๆดูวิวไปด้วย แล้วก็เดินไปซื้อก๋วยเตี๋ยว ส่วนคริสก็ไปซื้อพิซซ่า พอกลับมาที่โต๊ะ อ้าว ดันมีฝรั่งสาวผมบลอนด์มานั่งที่โต๊ะเรา เราก็แบบหงุดหงิดๆนิดๆ แต่ก็ไม่อยากลุยเองก็เลยบอกเด็กเสิร์ฟคนที่เอาป้ายไปวางให้ เขาก็บอกว่าอยู่ๆเธอก็มานั่ง หน้าอ้อมก็ออกแล้วว่าหงุดหงิด เด็กเสิร์ฟก็เลยเข้าไปบอกสาวนั่น ไม่รู้พูดไงแต่เธอไม่ยอมลุกค่ะ!! เด็กเสิร์ฟก็เดินมาบอกเราแบบเกรงใจๆว่าเขาไม่ยอมลุก อ้อมก็โกรธนะ แต่ก็ทำใจ ไม่อยากทะเลาะ ก็เลยไปนั่งที่โต๊ะอีกตัวที่มันไม่ได้วิว คริสมาก็งงๆ อ้าว โต๊ะหาย อ้อมก็บอกมีคนมาแย่งเฉย ก็หงุดหงิดกันทั้งคู่แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรอีกนะ เขาก็มีหนุ่มหัวทองอีกคนมานั่งด้วย ได้ยินที่พูดกัน คงคนรัสเซีย ถึงว่าอ่านภาษาอังกฤษบนป้ายที่บอกว่า Occupied ไม่ออก ก็ทำใจนั่งทานไป คริสเองก็หงุดหงิดที่ตอนซื้อพิซซ่าคิวมันมั่วๆเพราะไม่มีคนต่อแถว แล้วที่เห็นๆในนั้นน่ะ ฝรั่งหัวทองทั้งนั้น ใครว่าฝรั่งต่อคิวเป็นเสมอนี่ก็ไม่แน่นะ ฝรั่งมารยาทไม่ดีมีเยอะไป หรือไม่ก็นึกว่าอยู่เมืองไทยเลยมั่วได้ก็ไม่รู้

มื้อนี้ทานแบบหงุดหงิดๆแต่ยังดีนะที่ก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำแห้งของอ้อมอร่อย ฮ่าๆ ทานเสร็จแล้วอ้อมก็ควักกล้องออกมาถ่ายรูปวิวข้างนอก เพราะโต๊ะติดหน้าต่างอีกตัวมันว่างอยู่ กำลังรอเก็บจาน ขอคนที่รอโต๊ะอยู่แล้วก็ถ่ายใหญ่เลย สักแป๊บเด็กเสิร์ฟคนเดิมก็มาบอกว่า เอ่อ จริงๆห้ามถ่ายรูปนะคะ ถ้าถ่ายก็ขอให้ถ่ายแต่ข้างนอกอย่าถ่ายข้างใน เดี๋ยวคนอื่นถ่ายตาม อ้อมก็บอก โอเค ถ่ายแต่วิวข้างนอกอยู่แล้ว ถ่ายเสร็จเดินออกมาถึงได้เห็นป้ายห้ามถ่ายรูปชัดเจนบนเสา อ่ะจ๊าย ไม่ได้ตั้งใจอ่ะ อ้อมว่าถ้าเป็นปกติเขาคงห้ามไม่ให้ถ่ายรูปเลยแต่เนื่องจากเด็กเสิร์ฟเขาคงเกรงใจที่โต๊ะเราโดนแย่งไปก็เลยมาบอกว่าถ่ายได้แต่ถ่ายข้างนอกเท่านั้น

สรุปก็ได้รูปมาแหละ ที่เห็นข้างล่างนี่ อุตส่าห์รอให้รถไฟฟ้าผ่านมาด้วย ตอนนั้นเย็นมากแล้ว แสงสวยดี





เดินออกจากห้างมาก็ถ่ายรูปอีกหน่อยก่อนขึ้นรถไฟฟ้ากลับบ้าน



อ้อ ไปเดินสยามพารากอนมาด้วย อลังการมากๆเลย แต่ไม่ได้ซื้ออะไรนะ ของมันแพงทั้งนั้น ไปยืนน้ำลายหกอยู่หน้าเสื้อโค๊ตสปริงสีเขียวสดใสของ Zara ตัวละตั้งสี่พัน คริสก็บอกจะซื้อให้เป็นของขวัญวาเลนไทน์ ใจป้ำมะ สามีเรา แต่ด้วยความเป็นคนดี อ้อมก็บอกว่าอย่าเลย ทริปนี้เสียตังค์ไปเยอะมากๆแล้ว และอ้อมก็ว่าของแบรนด์ยุโรปอย่าง Zara หรือ MNG เนี่ย มันไม่น่าแพงขนาดนี้ คือเป็นของไม่แพงที่ยุโรปแต่พอเอาเข้ามาเมืองไทยแล้วมันแพง แต่ยอมรับว่าดีไซน์กับคัตติ้งเขาดีกว่าของอเมริกาจริงๆ สรุปว่าอ้อมบอกคริสไปว่าพาอ้อมไปยุโรปดีกว่านะ แล้วไปซื้อที่นั่นเลย ไม่แพง ฮ่าๆ

สุดท้ายขอบอกว่าชอบบริการของ Food Cellar ที่ชั้นใต้ดินเซ็นทรัลลาดพร้าวมากกว่า Food Loft ของชิดลม ร้านน้อยกว่าก็จริงแต่รู้สึกว่าบริการทั่วถึงกว่า ซื้ออาหารก็ไม่ต้องยืนรอเอง ได้คูปองมาแล้วให้เด็กเสิร์ฟไปรับให้แล้วมาเสิร์ฟที่โต๊ะ (แต่บางทีอ้อมก็รอรับเองแหละ) ที่ชิดลมไม่เห็นทำแบบเดียวกันเลย คงเพราะว่าคนเยอะกว่าและใหญ่กว่ามาก แต่อ้อมว่าถ้าจะชาร์จค่าบริการ 5% มันก็ควรจะมีบริการใช่มั้ย ไม่ใช่เหมือนฟู้ดคอร์ททั่วๆไปแล้วมาชาร์จเฉยเลย แต่ให้เทียบกันระหว่างก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำที่ Food Cellar กับ Food Loft นี่เฉือนกันยากแฮะ อร่อยทั้งคู่ถึงจะใส่เครื่องไม่เหมือนกัน อิอิ

7 comments:

UmaTheDevil said...

ว้ายๆอ้อม อ่านแล้วคิดถึงทริปเมืองไทยมาก (อันที่เขียนบล็อกไม่จบนะแหละ เหอะๆๆ) ตอนพาพี่เดฟไปพาราก้อนแกไม่สนใจชั้นอื่นเลยนอกจากฟู้ดคอร์ท ฮ่ะๆๆๆ แต่อืม คริสไม่ใช่คนชอบกินแบบพี่เดฟเนาะ ได้ลงไปดู aquarium ชั้นใต้ดินมั้ยอ้อม มันสู้อันเจ๋งๆแบบที่นี่คงไม่ได้หรอก แต่สำหรับใจกลางเมืองอย่างกรุงเทพพี่ว่ามันก็อเมซซิ่งดี แอร์เย็นดีด้วยอ่ะไม่ใช่อะไร ฮ่ะๆๆ

ไปทานที่ Loft มาเหมือนกัน เห็นพนักงานเสิร์ฟบางคนไปรอรับอาหารให้เหมือนกันนะ พี่ไม่รู้ว่าเค้าทำกันยังไงก็เลยรอเอง แต่พอเดินมาจะขึ้นบันไดเค้าก็รีบมารับถาดไปถือให้ ตอนแรกก็เขินๆเหมือนกัน แต่เห็นมีเซอร์วิสชาร์จก็เลยโอเค รีบไปซื้ออย่างอื่นมาให้เค้าถือให้คุ้ม เฮ้ยไม่ใช่ ฮ่าๆๆๆ แต่อ้อมเลยโชคดีเนอะ ได้ถ่ายรูปวิวจากร้านด้วย

อ่านเรื่องวัดพระแก้วแล้วงงกับคุณลุงคนนั้นด้วยจริงๆ แต่ไปแถวนั้นต้องคอยระวังอารมณ์อ่ะ เคยเกือบทะเลาะกับพวกไกด์หน้าวังด้วย เซ็งมาก จะเล่าก็เดี๋ยวยาว (กว่านี้ อิอิอิ)

JC together said...

เห็นแล้วก็คิดถึงเมืองไทยจริงๆด้วย พูดถึงต่างชาติใครมาเที่ยวไทยแล้วไม่ได้แวะที่วัดพระแก้ว วัดอรุณ นี่ถือว่ามาไม่ถึงจริงๆ อิอิ ไม่ใช่อะไรทั้งพูดิสส์ทั้งป๊ะป๋าเราพาไปทั้งคู่เลยเหมือนกัน

Kate said...

อยู่กรุงเทพเองไม่รู้สึกกรุงเทพสวยเท่าไร แต่พอมาดูบล็อกอ้อมแล้วสวยดีเน๊อะ ถ้าใครไม่เคยเห็นกรุงเทพคง โอ้ว ว้าว เหมือนกันเน๊อะ พอถ่ายรูปในเมืองก็สวยสิวิไลดีเน๊อะ ชอบจ้ะ

Anonymous said...

สงสัยลุงฮั้วกะทัวร์นั้นแหงเลย พยายามคะยั้นคะยอให้ไปซื้อทัวร์นี้จัง ฝรั่งบางคนมาอยู่เมืองไทยเลยงี่เง่าแอบเอาเปรียบคนไทย แบบยัยแหม่มบ้ามาแย่งโต๊ะอ้อมอ่ะ แย่จัง เราคิดถึงร้านอาหารเวียดนามที่ฟู้ดลอฟท์ อร่อยดีอ่ะ ไปกินทีไรประทับใจ แถมพนักงานเอาอาหารมาเสิร์ฟที่โต๊ะ แต่สงสัยเดี๋ยวนี้มีลูกค้ามากขึ้นเลยบริการไม่ทั่วถึงมั้งเน้อ

Anonymous said...

ไม่ได้อ่านหลายวันตามอ่านเสียเหนื่อยเลย ขอยาดมหน่อยจ้า สาววัยรุ่นตาลายๆๆๆๆๆๆอ้อมเขียนสนุกมากแต่รู้สึกว่าจะหนักไปทางโภชนาการเนอะ รูปสวยมากทีเดียวเชียวนะ ดูแล้วกทม ยังน่าเที่ยวนะ เมื่อไรจะกลับมาอีกจ๊ะ

Anonymous said...

โอ๊ย..ขนาดพี่อ้อมไปเดือนกุมภาฯ (หรือเปล่า) ยังร้อนขนาดนี้ปีหน้าลินกะว่าจะพาพวกญาติๆ ไปช่วงมีนาฯ คงตับแตกตายแน่ๆๆ
พาชาวต่างชาติเที่ยวคงหนีไม่พ้นวัดพระแก้วเนอะ ไปกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ แต่..ร้อน คนเยอะ นี่ซิเนอะ..
เอากรุงเทพฯ มาให้ดูแบบนี้อยากกลับเมืองไทยที่ฉูดๆๆๆ อยากกินก๋วยเตี๋ยวเรือ (เกี่ยวกันไหม อิอิ)

Anonymous said...

อ่านแล้วคิดถึงกรุงเทพจังเลยอ้อม