The Road Less Ploughed (or Plowed)
ในที่สุดอ้อมกับคริสก็ได้กลับมาบ้านแล้วค่ะ ขนของเช็คเอาท์ออกจากโรงแรมที่เว็บสเตอร์ตั้งแต่วันพุธ วันนั้นก็ลากของจากจ็อบไซต์กลับมาหนึ่งอย่าง ก็โอเคไม่เหนื่อยมาก กลับถึงบ้านตอนเย็นๆ เก็บข้าวเก็บของเสร็จก็เข้านอนเพราะวันรุ่งขึ้นต้องออกแต่เช้าไปลากของกลับมาอีก (อย่างที่บอกแล้วว่ามีของแปดอย่างให้พ่วงลากกลับมา)
ทีนี้ช่วงนี้เนี่ยอากาศมันหนาวมากๆ ติดลบตลอด หิมะมันก็มีประปราย ปกติขับรถธรรมดาก็ต้องระวังมากๆอยู่แล้ว ยิ่งต้องลากรถพ่วง (trailer) ด้วยเนี่ย ยิ่งต้องระวังสุดๆ คืนวันพุธก็ดูพยากรณ์อากาศแล้วว่า เออ มันมีโอกาสหิมะตก 50% คริสก็บอกไม่น่าเป็นอะไรเท่าไหร่ ถนนหลักๆมันคงแห้งแหละ คือปกติเวลามีเตือนว่าหิมะจะตกเนี่ย รถกวาดหิมะเขาจะออกมาทำงานกันอย่างรวดเร็วอยู่แล้ว ก็เข้านอนกันไป เตรียมตื่นแต่เช้ามืดเพราะกะจะออกจากบ้านตอนหกโมงเช้า ตอนตีห้าครึ่งนาฬืกาปลุกวิทยุที่ตั้งไว้ก็ดัง อ้อมก็ได้ยินข่าวเตือนเรื่องหิมะตกบอกว่าวันนี้มี lake effect snow advisory ตั้งแต่ทางเหนือจาก Cleveland ลงมาจนถึง Akron หิมะอาจตกมากถึงฟุตหรือฟุตครึ่ง อ้อมได้ฟังก็ชักเสียวๆแล้ว เอ มันเตือนตั้งแต่ทางเหนือติดทะลสาปลงมาจนถึงแอครอน แล้วไอ้ที่จะขับรถไปเนี่ยขับติดทะเลสาปทางเหนือเกือบตลอดทาง แล้วจะรอดหิมะได้ไง ก็หันไปหาคริสถามว่าได้ยินประกาศเปล่า คริสไม่สนใจหลับต่อเฉยเลย นาฬิกาปลุกดังอีกสองรอบก็ลุกขึ้นมาแต่งตัว ออกจากบ้านตอนหกโมงสิบนาที ในใจอ้อมก็เสียวๆแต่ไม่เห็นคริสว่าอะไรก็เลย เอ้า ไปก็ไป
ขับออกมาจากบ้านช่วงแรกก็โอเคอยู่ ถนนเปียกนิดหน่อย แต่ก็เห็นรถกวาดหิมะออกมาวิ่งปล่อยเกลือ พ่น anti icing liquid กันแล้ว แต่พอขับไปได้ซักพัก ออกไปวิ่งที่ถนนเส้น local (ไม่ใช่ interstate highway) เท่านั้นแหละ เจี๋ยวค่ะเจี๋ยว หิมะเริ่มตก(เพราะเริ่มวิ่งไปทางเหนือติดทะเลสาป) แถมรถกวาดหิมะก็ไม่เห็นมีวิ่งเลย หิมะก็ตกลงมาหนาใช้ได้ คริสบอกว่าช่วงที่ขับผ่านนั้นน่ะเป็น snow belt พอดี คือหิมะตกเยอะอยู่แล้ว แต่เนื่องจากขาไปยังไม่ได้ลากพ่วงอะไรไปด้วยก็ยังไม่เครียดเท่าไหร่ ขับไปได้เรื่อยๆจนเข้าไฮเวย์เส้นหลัก ถนนก็ดีขึ้น
ดูรูปหิมะช่วงนี้ได้ เวลาขับก็มองทางลำบากเหมือนกัน หิมะปลิวไปปลิวมา แต่ยังดีที่เป็นช่วงกลางวัน
ก็ขับกันไปจนถึงนิวยอร์ค พ่วงรถลากขับกลับกันมาได้ไม่นานก็เห็นประกาศเตือนข้างทางว่า ไฮเวย์เส้น I-90 ที่วิ่งอยู่เนี่ยโดนปิดไปหนึ่งช่วงใน Pennsylvania ก็เลยเปิดวิทยุฟังดูว่ามีอะไร เขาก็บอกว่าถนนปิดเนื่องจากมีอุบัติเหตุ (ประกาศใช้คำว่า multiple car accidents คือคงชนกันหลายเจ้า)และประกาศทางวิทยุก็บอกว่าเส้นทางเลี่ยงก็คือ Route 20 และแถบนั้นมีหิมะตกหนักและ visibility ต่ำมาก อ้อมกับคริสก็เลยต้องหาเส้นทางใหม่วิ่ง แต่ปรากฎว่าในรถดันไม่มีแผนที่ คือก็สะเพร่าเองด้วยที่ไม่เช็คดูก่อนว่ามีแผนที่ในรถก่อนออกจากบ้าน นึกว่ามันมีอยู่แล้ว ก็เลยต้องโทรไปถามทางกับพ่อคริสซึ่งก็ปวดกบาลมากเพราะไอ้เส้นที่พ่อคริสให้มา คุณคริสก็ไม่ชอบ บอกว่ามันไม่ช่วยอะไรเลย มันพาเข้าไปหาไอ้ถนนช่วงที่ปิดเพราะหิมะตกหนักๆนั่นแหละ ก็โทรกันไปมาอยู่สองสามรอบ พ่อลูกเถียงกัน คนซวยก็คือไอ้อ้อมสิ เพราะตรูเป็นคนรับโทรศัพท์นี่หว่า สุดท้ายก็ต้องเออๆออๆกับพ่อคริสไปทางโทรศัพท์แต่จริงๆไม่ได้วิ่งไปทางนั้น อ้อมก็ชักเริ่มรำคาญแล้วไง คือบ้านนี้คอมมิวนิเคตกันไม่ค่อยจะเป็น ซวยตรูทุกที ก็เลยบอกให้คริสแวะเข้า rest stop แล้วซื้อแผนที่มาดูกันเองดีกว่า คุณคริสก็ไม่จอดขับไปอยู่นั่นแหละ จนสุดท้ายก็ต้องไปวิ่งทางเลี่ยงเส้น 20 ที่เขาประกาศให้ใช้ ผลก็คือไปติดแหงกอยู่สองสามชม. เพราะมันเป็นถนนผ่านเมืองสองเลนเส้นเล็กๆ มีไฟเขียวไฟแดงแม่-มันทุกสิบเมตรเลยมั้ง ค่อยๆกระดืบๆกันไปกับเพื่อนร่วมชะตากรรมทั้งหลาย รถเยอะมากๆ แถมถนนก็ไม่ดีไม่ได้โดน plough (American English = plow)หรือกวาดไว้ก่อน (เพราะงั้นถึงได้ตั้งชื่อโพสต์นี้ว่า The Road Less Ploughed) สุดท้ายคริสเห็นท่าไม่ดีแล้วเพราะรถเยอะมากๆแล้วก็ถนนก็ลื่นอันตรายก็เลยตัดสินใจเลี้ยวเข้าแยกที่มันมีป้ายบอกว่าไปออกเส้น I-90 ที่ปิดไปนั่นแหละ กะๆดูระยะทางแล้วว่าน่าจะพ้นช่วงที่มันปิดเพราะอุบัติเหตุไปแล้ว ก็มีได้ลุ้นอีกนิดตอนขับขึ้นเนินว่าจะไปรอดมั้ยเพราะถนนลื่น (คาดว่ารถกวาดหิมะก็ติดอยู่ในเมืองนั่นแหละ เลยไม่ได้มีออกมากวาดถนนเลย)ในที่สุดก็ไปออกเส้น I-90 จนได้ เฮ้อ
พอได้แวะจอดรถเติมน้ำมันหาอะไรดื่มกันหน่อยก็ค่อยยังชั่ว พ่อคริสโทรมาถามด้วยความเป็นห่วงว่าเป็นไงมั่งแล้วก็บอกว่าไอ้อุบัติเหตุที่ทำให้ถนนปิดน่ะ มันชนกันตั้ง 50 คันรวด ดีนะที่เราไม่ได้อยูในนั้นด้วย พ่อคริสก็ดีใจที่เราไม่เป็นไร อ้อมก็บอกไปว่า โอเคแล้วล่ะ ตอนนี้ ถนนก็ดูแห้งดี วางหูโทรศัพท์ปุ๊บ ก็วิ่งเข้าไอ้เส้น local ที่หิมะตกตอนเช้า นรกอีกแล้ว หิมะชักตกหนักเรื่อยๆ มองทางก็ไม่เห็น ถนนก็ไม่ได้กวาด #@%^&!!! ทนๆวิ่งฝ่าไปอีกสักสามสิบไมล์ได้ ถนนก็ค่อยดีขึ้น มาวิ่งเข้าเส้นหลักจนถึงบ้านตอนห้าทุ่ม
เฮ้อๆๆๆๆ คงไม่ต้องบอกว่าเหนื่อยมากๆกันทั้งคู่ ตอนแรกแพลนว่าวันรุ่งขึ้นจะขับแบบนี้อีกรอบก็ต้องล้มเลิกไป จริงๆพรุ่งนี้(วันจันทร์)ก็กะว่าจะไปขนของมาเพิ่ม แต่มีพายุหิมะเข้าคืนนี้ก็ไม่ไปแล้วล่ะ
สรุปว่าอยู่บ้านกับแมดดี้ดีกว่า แมดดี้เป็นสาวแล้วนะ อายุสิบเดือนแล้ว แถมตอนนี้ in season อยู่ซะด้วย เมื่อวานเอาออกไปล่ามทิ้งไว้ที่สนามหญ้าหลังบ้านได้ไม่ถึงสิบนาที มีหนุ่มตามกลิ่นมาหาซะแล้ว คิดถึงแมดดี้มากๆเลยตอนอยู่นิวยอร์ค แต่เดี๋ยวก็ต้องทิ้งแมดดี้ไปเมืองไทยอีกล่ะ แต่แมดดี้อ่ะ ไม่เป็นไรหรอกเพราะมีคนดูแลดีจะตาย นี่เมื่อเช้าแมรี่แอนก็ทำวอฟเฟิลและทอดไข่พร้อมเบคอนเผื่อคุณสุนัขทั้งหลายในบ้านด้วย ฮ่าๆ