Sunday, July 9

Hawaii Trip: Part 1

ดองมาได้ซักพัก ได้ฤกษ์เขียนซักที คือทริปนี้ไปแล้วไม่ค่อยได้ทำกิจกรรมโพรดักทิฟมาก จริงๆอ้อมกับคริสเที่ยวที่ไหนก็ไม่ค่อยมีกิจกรรมอยู่แล้วล่ะ นอนอิ่มตื่นมาแล้วค่อยว่ากัน

วันแรก: อ้อมกับคริสออกเดินทางกันตั้งแต่เช้ามืด เครื่อง Northwest ออกจาก Canton/Akron Airport ตอนเจ็ดโมงเช้า เหนื่อยมาก เพราะเข้านอนก็ดึกคืนก่อนหน้านั้น เพราะคุณคริสจัดของไม่เสร็จ ภรรยาก็ต้องช่วย อ้อมถนัดการแพ็คกระเป๋าอยู่แล้วด้วย ชอบแพ็คเพราะหมายถึงจะได้เดินทาง ของตัวเองแพ็คเสร็จตั้งแต่ก่อนไปนิวยอร์คแล้ว

ไปฮาวายคราวนี้ต่อเครื่องสองรอบ บินไป Detroit ก่อน แล้วก็ไป Minneapolis เสร็จแล้วก็บินยาว 8 ชม.ไปฮาวาย ไอ้บินสั้นๆสองเที่ยวแรกไม่เท่าไหร่ แต่แปดชม.หลังนี่หนัก อ้อมก็นอนไม่ได้มาก คริสงี้นอนไม่ได้เลย ขอบ่นนอร์ธเวสต์หน่อยด้วย บินตั้งแปดชม.ไม่มีอาหารเสริฟค่ะ!! อยากทานต้องซื้อเอา snack box กล่องละ $3 แซนด์วิชแห้งๆอันละ $5 ก่อนขึ้นเครื่องอุตส่าห์กินตุนไปเต็มที่ แต่ไม่ไหวต้องจำใจซื้อแซนด์วิชมาทาน คือก็เข้าใจว่าสายการบินอยู่ในช่วงล้มละลาย แต่แหม มาเหนียวกับผู้โดยสารอย่างนี้ ใครมันจะอยากมาบินด้วยล่ะเนี่ย ราคาก็ไม่ใช่ low-cost airline ซักหน่อย อ้อมกับคริสกะว่าพอใช่ไมล์ที่สะสมมาบินฟรีไปเมืองไทยแล้วจะลองบินสายการบินอื่นดูบ้าง


กว่าจะไปถึงสนามบินฮอนโนโนลูลู ก็แฮ่กค่ะ (แต่ขอชมคุณกัปตันหน่อย แลนด์ได้นิ่มมากๆ นิ่มที่สุดเท่าที่เคยได้เจอมา ผู้โดยสารปรบมือให้เกรียวกราว) ยังดีที่ไปถึงฮอนโนลูลูตอนบ่ายสามของที่นั่น ก็เลยไม่รู้สึกว่าต้องเข้านอนทันที รับกระเป๋าเสร็จก็ลากกันออกมาหน้าเทอร์มินอล ตอนแรกว่าจะนั่งแท็กซี่ (แต่ก่อนประหยัดมาก นั่งรถเมล์ ซึ่งต้องไปต่ออีกสาย) แต่พอออกมาก็เจอคนมาถามว่าจะนั่งรถบัสมั้ยส่งลงหน้าโรงแรมเลย คนละ $9 เหรียญ คำนวณดูแล้วถูกกว่านั่งแท็กซี่ครึ่งนึงก็เลยโอเค รอรถบัสอยู่สักสิบนาที ก็ขึ้นรถ คนเต็มคัน วิ่งเข้าตัวเมืองก็เริ่มเห็นวิวที่คุ้นเคย ความทรงจำเก่าๆก็เริ่มกลับมา รถบัสนี้วิ่งส่งผู้โดยสารที่ Waikiki เท่านั้น (คือเกือบทุกโรงแรมก็อยู่บนไวกิกินั่นแหละ) วิ่งไปรถติดไปซักสี่สิบนาทีก็ถึงโรงแรม

โรงแรมที่พักชื่อ
Ohana West อยู่บนถนน Kuhio ถนนหลักๆที่แล่นขนานหาดไวกิกิมีสองเส้นคือ Kalakaua (อ่านว่า คาลาคัว-อา) ที่เป็นเส้นติดหาดกับ Kuhio ที่ห่างออกมาหนึ่งบล็อค เพราะฉะนั้นโรงแรมนี้ก็ไม่ติดหาด เป็นโรงแรมสามดาว ไม่หรูหราอะไร อ้อมกับคริสเช็คอินเสร็จ เขาก็บอกว่าห้องอยู่ชั้นหนึ่งนะ เราก็เฮ้ย ติดถนนเลยเหรอ จริงๆไม่ใช่ มันมีชั้นล็อบบี้กับชั้นลอยก่อนชั้นหนึ่ง ก็เท่ากับชั้นสาม ทีนี้ด้วยความประหยัด เราจองแพ็คเกจตั๋ว+โรงแรมที่ถูกสุดมา กะว่าจะมาลองอัพเกรดห้องกับโรงแรมเองถ้าได้ห้องห่วย ก็ได้ห้องห่วยจริงๆ ห้องมีระเบียง (ที่ฮาวายเรียกว่า lanai) เล็กอยู่เหนือดัมพ์สเตอร์ที่ทิ้งขยะ วิวเก๋มาก เปิดหน้าต่างระเบียงออกมาก็จะได้ยินเสียงรถราสารพัด และห้องก็เล็กด้วย แต่ก็เอาวะ ฟร้อนท์เดสก์บอกว่าวีคเอนด์นี้ห้องจองมาเต็มไม่รู้จะได้อัพเกรดรึเปล่า อ้อมกับคริสก็รื้อกระเป๋าออกมาจัดเอาเสื้อผ้าเข้าตู้เรียบร้อย อาบน้ำอาบท่ากันให้สดชื่นหน่อย เสร็จแล้วก็ออกมาเดินเล่นแบบมีจุดประสงค์ คือคริสต้องการหาซื้อ boogie board ไว้สำหรับโต้คลื่น (อยากเห็นว่าคริสโต้คลื่นแล้วเท่ห์ขนาดไหน ต้องรออ่านตอนต่อๆไป) คุณเธอใจร้อนอยากเล่นมาก ก่อนมาก็เช็คแล้วว่าบอร์ดรุ่นที่อยากได้มีขายที่ร้านๆนึงอยู่ไกลจากไวกิกิออกไปหน่อย พอโทรไปเช็คอีกที อ้าวร้านกำลังจะปิดเสียแล้ว อ้อมกับคริสก็เลยลองเดินหาบอร์ดตามร้าน surf shop แถวๆไวกิกิดู เดินเข้าเดินออกอยู่หลายร้านก็หาไม่ได้ เพราะหนึ่ง ร้านส่วนใหญ่ขายแต่ surf board สอง รุ่นที่คริสอยากได้เนี่ยหายาก เป็นบอร์ดใหญ่ สูง 45 นิ้ว ยี่ห้อ BZ ชื่อรุ่นเรียกว่า Big Braddah คือบอร์ดต้องใหญ่สมตัว ไม่งั้นรับน้ำหนักไม่ไหว ฮ่ะๆ เดินกันอยู่นานมากก็ไม่เจอบอร์ดที่อยากได้ เหนื่อยแล้วด้วยก็เลยไปหาอะไรทานกันที่ฟู้ดคอร์ทของ The International Market Place (เป็นตลาดขายของที่ระลึก) ไปถึงไม่ต้องคิดมากเข้าร้านประจำเลย ชื่อ Yummy Korean BBQ เป็นร้านขายอาหารเกาหลีที่มีสาขามากที่สุดในฮาวาย อ้อมกับคริสสั่งบุลโกกิเนื้อมาจานใหญ่แบ่งกันทาน จานใหญ่นี้จะให้เลือกเครี่องเคียงได้สี่อย่าง ก็มีถั่วงอกผัด (ไม่ได้ทานถั่วงอกตั้งแต่มาอเมริกา) กิมจิ (ที่ขาดไม่ได้) สลัดสาหร่าย (ของโปรดอ้อม) กับ macaroni salad (ของโปรดคริส) อิ่มกำลังดี

ทานเสร็จก็เดินกลับโรงแรม เข้าห้อง นอนค่ะ สลบเหมือด

----- จบวันแรก -----

1 comment:

Anonymous said...

จะรออ่านต่อพรุ่งนี้นะเพิ่งไปเที่ยวได้วันเดียวยังไม่มีอะไรตื่นเต้นนอกจากเหนื่อย พลอยทำให้คนอ่าน(แก่)เหนื่อยไปด้วย