แอ่วเชียงใหม่ (1)
ต่อเรื่องเที่ยวดีกว่า กลับจากเสม็ดได้สองสามวันพอซักผ้าแห้งก็ขึ้นเหนือไปเที่ยวเชียงใหม่กับพ่อและแม่ค่ะ ออกเดินทางวันพุธที่ 24 ก.พ. กลับวันเสาร์ที่ 27 ค้างสามคืน รายการนี้พ่อเป็นสารถีขับรถตลอดเลย
วันพุธออกจากบ้านกันตอนแปดโมงครึ่งได้มั้ง ขับไปพักไปแวะเข้าห้องน้ำและทานข้าวกันตามปั๊มต่างๆ ได้ข้อสรุปว่าปั๊มปตท.ห้องน้ำสะอาดที่สุด ช่วงนั้นอากาศร้อนมากๆ ยิ่งขับขึ้นเหนือผ่านชัยนาทไปจะเห็นได้ชัดเจนเลยว่าทางเหนือร้อนและแล้งกว่าภาคกลางจริงๆ ไม่เกินบ่ายสามครึ่งก็เข้าตัวเมืองเชียงใหม่ ขับๆวนๆหาทางเข้าโรงแรมอยู่พักนึงแต่ก็ไม่มีปัญหา พ่อเก่งอยู่แล้ว ส่วนอ้อมก็พยายามช่วยเป็นเนวิเกเตอร์ที่ไม่ค่อยมีประโยชน์เท่าไหร่ ต้องโทษแผนที่ว่ามันงงๆ ฮะๆ ก็เล่นไม่บอกนี่หว่าว่าถนนตรงคูเมืองมันเป็นวันเวย์ ไม่ได้ไปเชียงใหม่ตั้งสิบกว่าปีแล้วใครจะไปจำได้
โรงแรมที่พักชื่อ BP Chiang Mai City Hotel เป็นของที่บ้านน้องฮงคนที่จองโรงแรมสุดหรูที่ตัวเองฝึกงานอยู่ให้ที่ Durham, North Carolina ตอนไปเยี่ยมหวานขากลับจากฟลอริด้า คือพอคิดได้ว่าจะไปเชียงใหม่ก็จำได้ว่าที่บ้านฮงมีโรงแรมก็เลยโทรไปบอกหวานว่าให้ฮงช่วยจองให้หน่อย คือเล่นเส้นว่างั้นเหอะ ฮ่าๆ เนื่องจากว่าจองกันหลายทอดเลยได้เรื่องเลย ตอนไปเช็คอิน ทางโรงแรมบอกว่าได้ส่งรถไปรอรับ stand by ที่สนามบินทั้งวันเลย เพราะบอกว่าเป็นแขกจากอเมริกาแต่ไม่ได้บอกว่ามาไฟลท์ไหน อ้อมก็ตกใจ ตายล่ะ เขาอุตส่าห์ไปรอรับทั้งวัน เกรงใจสุดๆ สุดท้ายก็ได้คุยกับพ่อน้องฮงทางโทรศัพท์ก็ทั้งขอโทษและขอบคุณไปด้วยความเกรงใจมากๆ
ตอนที่ไปตัวโรงแรมยังทำไม่เสร็จดีแต่ส่วนห้องพักเสร็จเรียบร้อยแล้ว ห้องใหญ่มากๆ มีเตียงใหญ่และ day bed ด้วย ห้องน้ำก็กว้างขวาง โรงแรมนี้อยู่ใกล้ๆวัดพระสิงห์ นอกจากวัดพระสิงห์แล้วก็ยังมีวัดเก่าๆใกล้ๆกันอีกหลายวัด น่าเดินเที่ยวมากๆ ที่สำคัญก็คือแถวนั้นเงียบไม่พลุกพล่าน แต่ก็มีทุกอย่างครบ ทั้งร้านอินเตอร์เน็ต 7-11 ร้านนวด ถ้าอยากไปเดินซื้อของช็อปปิ้งก็เรียกสองแถวหรือตุ๊กตุ๊กจากหน้าโรงแรมได้เลย
ดูรูปห้องดีกว่า สบายมากๆ ไปถึงคริสก็ขอให้โรงแรมหาหมอนวดไทยมานวดให้ที่ห้องทันทีเลย
พักผ่อนล้างหน้าล้างตากันเสร็จ ก็ออกไปหาข้าวเย็นทานกันค่ะ ไปร้านสวนผักใกล้สนามบินเชียงใหม่
ร้านนี้มีสองฝั่ง ด้านนึกเป็นครัวไทย อีกด้านเป็นครัวฝรั่ง เรานั่งกันที่ครัวไทยแต่ก็สั่งอาหารจากฝรั่งมาทานได้ค่ะ คริสทานสเต้กเนื้อชิ้นเบ่อเริ่มแต่ก็ทานน้ำพริกหนุ่มไปด้วยนะ
วันรุ่งขี้นหม่ำอาหารเช้าที่โรงแรมเสร็จก็มีเรื่องต้องรบกวนคุณพ่อน้องฮงซะแล้ว ต้องย้ายโรงแรมค่ะ เพราะแม่ออกอาการแพ้ฝุ่นที่ตา ตอนนั้นก็คิดว่าเพราะการก่อสร้างรอบๆโรงแรม(ไม่ใช่ที่โรงแรม) ด้วยความเกรงใจก็ต้องไปบอกคุณพ่อน้องฮงก่อน คุณพ่อน้องฮงก็เลยเสนอให้ย้ายไปโรงแรม Chiang Mai Orchid เลย หลังจากเช็คอินที่นั่นก็เลยได้เจอคุณพ่อน้องฮงด้วย เลยได้ขอบคุณอีกรอบค่ะ เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปห้องที่นี่ไว้ แต่ห้องสบายมากๆกว้างขวาง การบริการก็ดีสมเป็นโรงแรมเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงมานานแล้วจริงๆ ที่สำคัญน้องๆพนักงานทั้งที่คอฟฟี่ช็อปและฟร้อนท์เดสก์สวยน่ารักกันจริงๆ ประเด็นนี้คริสเห็นด้วยมากๆ (มากแบบออกหน้าออกตาไปนิด เชอะ/ค้อนสามตลบ) ตอนนี้เชื่อที่อ้อมบอกไปแล้วว่าสาวเหนือสวย เพราะเห็นจากที่โรงแรมนี่แหละ
ย้ายโรงแรมเสร็จก็ไปบ้านถวายกัน บ้านถวายเป็นตลาดขายสินค้าต่าง ส่วนใหญ่จะหนักไปทางงานไม้แกะและเฟอร์นิเจอร์ไม้ต่างๆ อ้อมกับคริสงี้เดินดูไปน้ำลายยืดไป อยากซื้อไปหมด แล้วก็ซื้อเยอะจริงๆแหละ แต่ซื้อแต่ของที่หอบกลับมาได้ พวกเชิงเทียนไม้อะไรแบบนั้นมากกว่า แล้วก็มีของมาฝากพ่อกับแม่คริสด้วย
เดินกันจนเหนื่อย เสร็จแล้วก็ไปทานข้าวกลางวันที่ร้านระกา อยู่ใกล้ๆตลาดนั่นแหละ รออาหารนานมากๆแต่คุ้มที่รอเพราะอร่อยสุดๆ
ตอนบ่ายก็กลับโรงแรมพักผ่อน พอเย็นๆแดดร่มลมตกหน่อยก็ขับรถขึ้นดอยสุเทพ ขาขึ้นนั่งรถกระเช้าไป สูงชันเสียวดีใช้ได้เลย ดูรูปวัดจากอัลบั้มใน Picasa แทนนะคะ รูปมันเยอะๆมากๆ คลิกที่รูปข้างล่างไปดูกันเต็มๆเองดีกว่า
ดอยสุเทพ |
จากดอยสุเทพก็ไปหม่ำข้าวเย็นที่ร้านกาแล วิวสวยลมเย็นอาหารไม่แพงแต่อร่อยมาก ไม่มีรูปอาหารแฮะ แต่มีรูปดอกไม้สวยๆของร้าน
ทานเสร็จก็กลับโรงแรมนอน ปรากฏว่าตาแม่ก็ยังไม่หายระคายเคืองอยู่ดี ตอนนี้รู้แล้วว่าไม่ใช่แค่ฝุ่นแถวโรงแรมหรอกที่ทำให้เคืองตาแต่เป็นฝุ่นของทั้งเมืองเลยต่างหาก พออ้อมกลับมาอเมริกาแล้วถึงได้มีข่าวว่าเชียงใหม่ประสบปัญหาฝุ่นควันถึงขั้นวิกฤติ ตอนนั้นคงกำลังเริ่มแย่