Wednesday, July 12

Hawaii Trip: Part 4

วันที่สี่: วันนี้มีรถเช่าขับแล้ว จองผ่านอินเตอร์เน็ตไว้ล่วงหน้า ไม่ได้จองในแพ็คเกจโรงแรมเพราะจองต่างหากอย่างนี้ออกมาถูกกว่าและได้อัพเกรดรถด้วย ที่สำคัญคือรับรถที่ไวกิกิได้ ถ้าจองกับนอร์ธเวสต์ต้องรับรถที่สนามบินเท่านั้น อ้อมกับคริสไม่ได้อยากมีรถขับตลอดทั้งทริปก็เลยจองไว้แค่สามวัน แค่นี้ก็ต้องเสียค่าที่จอดรถให้โรงแรมวันละ $15 อีกต่างหาก

ได้รถมาวันแรกก็ไปช็อปปิ้งก่อนเลย ไปเอาท์เล็ตมอลล์ที่ Waikele อยู่ไกลจากฮอนโนลูลูซักครึ่งชม.ได้มั้ง มีร้านค้าพอประมาณไม่ถึงกับเยอะมาก พอไปถึงอ้อมก็ขอกินก่อนล่ะ มีร้านซูชิสายพานร้านโปรด ราคาไม่แพง คริสไม่ทานด้วย อ้อมก็เลยนั่งทานคนเดียวด้วยความรวดเร็ว ที่ชอบที่สุดคือ spicy tuna แล้วก็ทานหอยอะไรไม่รู้ จำชื่อไม่ได้แล้วแต่ก็อร่อย อย่างละสองจาน แล้วก็กุ้งหวานอีกจาน ค่าเสียหายประมาณ $11 อิ่มกำลังดี นี่ถ้าคริสทานด้วยได้คงได้ทานหลายอย่างกว่านี้
ทานเสร็จก็เดินช็อปปิ้ง อ้อมได้กางเกงยีนส์มาหนึ่งตัว กระเป๋าสะพายหนึ่งใบ ได้เสื้อฝากพี่แอ้มหนึ่งตัวกับกางเกงบ็อกเซอร์คริสอีกห้าตัวที่ร้านกล้วย (Banana Republic) แล้วก็เสื้อสเวตเตอร์ฝากเจฟฟ์ (พี่ชายคริส) ลอรี่ (พี่สาวคริส) และ คาซูมิ (พี่สะใภ้) กับกางเกงฝากทิม (บัดดี้คริส) อีกคนละตัวจากร้าน Crazy Shirts ที่ปกติแพงมหาโหด

ช็อปเสร็จก็กลับโรงแรม อ้อมหิวอีกก็เลยเอาสตรอเบอรี่ที่ซื้อมาจาก Foodland ออกมาทาน แม่เจ้าโว้ย ลูกใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา ลูกเกือบเท่าฝ่ามือ ไม่รู้ปลูกด้วยอะไรตอนค่ำหาร้านอาหาร Mexican ทานกัน ตอนแรกว่าจะขับรถออกไปทานร้านที่เคยรู้จัก แต่ดันจำไม่ได้แล้วว่าอยู่ตรงไหน เลยไปทานร้านใกล้ๆโรงแรมแทน อร่อยใช้ได้แต่แพงมากกกกกกกกกกกกก เป็นอาหารเม็กซิกันที่แพงที่สุดเท่าที่เคยทานมา จ่ายตังค์ไปน้ำตาแทบร่วง ดีนะที่อร่อย

----จบวันที่สี่----

วันที่ห้า: ต่อเลยละกัน วันนี้ขับรถเล่นขึ้น Pali Highway เป็นไดรฟ์ขับผ่านหุบเขาที่สวยมากๆ ไปแวะที่ Pali Lookout ถ่ายรูปหน่อย ที่หน้าผานี้มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของฮาวาย
วิวดีมากๆ แต่เสียดาย วันนั้นเมฆเยอะ รูปเลยไม่แจ่มเท่าไหร่




เนื่องจากว่าหน้าผานี้มีความศักดิ์สิทธิ์ ก็เลยมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับไฮเวย์นี้ด้วย ที่วิเวียนเพื่อนอ้อมเคยบอกก็คือ เวลาขับรถผ่านไฮเวย์นี้ ห้ามมีเนื้อหมูอยู่ในรถเด็ดขาด คิดว่าหมูถือเป็นสัตว์ที่คนฮาวายเขาฆ่ากินกันในงานเลี้ยงสมัยก่อนหรืออาจจะเป็นเครื่องเซ่นอะไรประมาณนี้ วิเวียนบอกว่าเขาเคยลืมไปครั้งนึง ประมาณว่ากำลังจะไปงานบาร์บีคิวบ้านเพื่อนก็เลยมีหมูอยู่ในรถ ขับขึ้นไฮเวย์นี้ไปนิดนึง เครื่องดับไปเฉยๆเลย เขาก็งงแล้วก็นึกขึ้นได้ รีบโยนหมูทิ้งไปปุ๊บ รถสตาร์ทติด ขับต่อได้ซะงั้น

อ้อมกับคริสขับต่อจาก Pali Highway ไป Kamekameha Highway ที่วิ่งเลียบชายฝั่งทางตะวันออกฉียงเหนือของเกาะ ไดรฟ์นี้ดี ไม่เคยขับกันมาก่อน ช้าหน่อยเพราะถนนเส้นเล็กแต่ได้เห็นส่วนของเกาะที่ไม่เคยเห็น ด้านนี้มีชาวบ้านอยู่กันเยอะ คือคนไม่รวย เห็นตามบีชพาร์คมีคนจรจัดมานอนกางเต้นท์กันอยู่ก็มี ขับๆไปจะเจอ shrimp truck รถขายกุ้งทอดกระเทียมด้วย อ้อมอยากทานมากๆแต่คุณคริสไม่เล่นด้วยอีกตามเคย เซ็งฮ่ะ สามีไม่รู้จักทานของดี

ขับกันมาจนถึง North Shore เข้าเขตท่องเที่ยว หาดแถบนี้แต่ก่อนมากันบ่อยเพราะเป็นที่โต้คลื่นเวลาหน้าหนาว คริสจะมา boogie board กับเพื่อนที่ surf แต่เช้ามืด อ้อมก็ติดรถมาด้วย มานอนอาบแดดดูหุนุ่มๆ คราวนี้เป็นช่วงหน้าร้อน คลื่นเข้าทาง south shore กับ east shore มากกว่า หาดทางนี้ก็เลยสงบ


สองหาดนี้ ถ้าใครมาช่วงเดือนธันวาต้องมาดูแข่งเซริฟที่นี่ให้ได้ พวกเซิรฟเฟอร์นี่เก่งๆหล่อๆเท่ห์มากกันทั้งนั้นค่ะ ขากลับมาแวะที่ Hale'iwa เป็นเมืองเก่าเล็กๆมีร้านขายของและร้านอาหารหลายร้านอ้อมอยากทานกุ้งที่ shrimp truck มาก มีเจ้านึงที่ดัง แต่ดันจำไม่ได้ว่ามันอยู่ตรงไหน สุดท้ายเลยเข้าร้าน L&L Drive In ที่ขาย plate lunch ตามสไตล์ฮาวาย มีข้าว macaroni salad และก็กับที่เราเลือก ซึ่งก็จะมีทั้งหมูทอดแบบญี่ปุ่น หรือไม่ก็เนื้อย่างแบบเกาหลี หรือไม่ใช่ข้าวเป็นพวกบะหมี่ก็มี เมนูเป็นอาหารเอเชียหลายๆอย่าง อ้อมสั่งเนื้อย่างรวมมิตร มีทั้งเนื้อไก่ หมู เนื้อวัวติดซี่โครง เยอะมากๆ ทานไม่หมดค่ะ ส่วนคริสสั่ง loco moco ซึ่งเป็นอาหารท้องถิ่นที่นี่ มีข้าวและ macaroni salad กับแฮมเบอร์เกอร์ย่างราดน้ำเกรวี่โปะไข่ดาว อ้วนดีจริงๆ แต่เป็นของโปรดคริสเขา จำได้ตอนสมัยเรียนเป็นจานที่ถูกที่สุดเลยในโรงอาหารในแคมปัสทานเสร็จก็ขับรถกลับผ่านทุ่งสับปะรดของ Dole Plantation มีร้านให้แวะซื้อของที่ระลึกกับทานไอติมสับปะรดด้วย แต่ไม่แวะค่ะ จำได้ว่าไอติมไม่อร่อย แถมมีนักท่องเที่ยวอัดกันประมาณล้านแปดอยู่ในนั้น ไดรฟ์นี้ก็สวย เห็นภูเขาเป็นแนวยาว

อย่านึกว่าทานกันมาอย่างนั้นแล้วจะหยุดทานกันง่ายๆ ขับกลับเข้าเมืองมาแวะทานไอติมที่ร้านโปรดใกล้แคมปัสอีก ร้านชื่อ Bubbies เมนูไอติมแต่ละรายการชื่อสัปดนมาก หิหิ แต่ไอติมอร่อยถึงใจ ช็อกโกแล็ตเป็นช็อกโกแล็ตทานไอติมเสร็จ กลับโรงแรม ตอนค่ำขับรถไปที่ Aloha Tower เพื่อหาอะไรทานเล่นหน่อย (ทานหลักๆไม่ไหวแล้ว) Aloha Tower นี่อยู่ติดทะเลแต่เป็นช่วงที่เป็นท่าเรือ ใกล้กับดาวน์ทาวน์และไชน่าทาวน์ อ้อมกับคริสนั่งที่ร้าน Gordon Biersch สั่งแอ็พเพอร์ไทเซอร์มาทานกันจานเดียวเท่านั้น กับเบียร์คนละแก้ว เบียร์ที่นี่อร่อยและไม่แพง พอออกจากไวกิกิเนี่ย ของทุกอย่างราคาถูกลงทันทีทานเสร็จเดินเล่นดูของตามร้านนิดหน่อย ได้กางเกงยีนส์ลดราคาครึ่งนึงมาอีกหนึ่งตัว (คือกางเกงยีนส์ที่หอบมาจากเมืองไทย มันใส่ไม่ได้ไปหลายตัวแล้ว เลยต้องซื้อใหม่) ซื้อเสร็จกลับโรงแรม นอนค่ะ

----จบวันที่ห้า----

6 comments:

Anonymous said...

อ่านแล้วหืม ต่อมอิจฉาเต้นตุบ ๆ เลยอ้อม ทั้งอยากไปฮาวาย ทั้งได้ไปช็อป แอบเห็นกระเป๋าในรูป ใช่น้องกล้วยที่เพิ่งได้อ๊ะเป่าจ๊ะ น่ารักดีอ่ะอ้อม

OohiO

Anonymous said...

อ่านเรื่องของอ้อมมาหลายคอนเพิ่งมีแรงเขียนถึงอ้อมวันนี้. กลับจากเวียตนามมาด้วยความสะบักสะบอมเพราะอากาศร้อนเหลือเกิน.ร้อนจนต้องยอมทนใส่สายเดี่ยวโดยไม่เกรงว่าใครจะทนดูได้หรือไม่ 55555 อยากกินโคตรสตอเบอรี่มาก น่ากินจริงๆ ตอนนี้อ่านบล๊อกทั้งของอ้อมและหวานแล้ว มีแต่รายการอาหารซึ่งเห็นก็อ้วนแล้วไม่ต้องกินจริงๆก็ได้. อาหารที่อ้อมแวะทานแต่ละร้านทำให้น้ำลายสอเลยล่ะ.... อย่างไรก็ตามน้าภาและทุกคนคิดถึงอ้อมและคริสมากจ้ะ.... จะคอยตอนต่อไปนะจ้ะ....

Aom said...

โอ๋จ๊ะ กระเป๋านั่นซื้อที่เมืองไทยจ้า ใบที่ซื้อที่ฮาวายเป็นลูกปัด ซื้อที่ร้าน Charlotte Russe $5 เอง อ้อมเขียนไม่ชัดเอง แหะแหะ

น้าภาค ไม่ได้มาเม้นท์ของอ้อมตั้งนาน ชอบที่น้าภาเรียกโคตรสตรอเบอรี่ มันยักษ์จริงๆ

แพรว พี่ก็อยากทานซูชิแบบกระหน่ำนะ แต่มันไม่ไหว จุกก่อน ยังนึกถึง spicy tuna อยู่เลย อร่อยจริงๆ

Anonymous said...

ดูรูปแล้วชักมึนรออ่านตอนต่อไปดีกว่า

Anonymous said...

สนุกจังเลยลูกตุ้ยนุ้ย

Anonymous said...

พี่อ้อมค๊าาาาา ทั้งบิ๊กสตอเบรรี่ ซูชิ ทั้งทะเล โอโห เจเจอิจฉามากๆเลย โดยเฉพาะความหวานของพี่อ้อมกะคุณคริสต์ อิอิ...

ชอบเสื้อที่พี่อ้อมใส่มากเลยค่ะ น่ารักจังเลย